xs
xsm
sm
md
lg

รมช.นิพนธ์ ลงพื้นที่ จ.สงขลา ตรวจเยี่ยมสถานการณ์น้ำที่บริเวณประตูระบายน้ำหน้าควน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - “นิพนธ์ บุญญามณี” รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่ จ.สงขลา มอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยใน อ.รัตภูมิ พร้อมตรวจเยี่ยมสถานการณ์น้ำ และการระบายน้ำที่บริเวณประตูระบายน้ำหน้าควน ย้ำต้องดูแลความปลอดภัย และชีวิตของประชาชนเป็นอันดับแรก

วันนี้ (3 ธ.ค.) นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำ และการระบายน้ำที่บริเวณประตูระบายน้ำหน้าควน (คลอง ร.1) ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หลังเกิดฝนตกหนักในห้วงที่ผ่านมา ทำให้ จ.สงขลา ประสบอุทกภัยแล้ว จำนวน 12 อำเภอ 55 ตำบล 333 หมู่บ้าน 2 ชุมชน ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 40,145 ครัวเรือน 115,333 คน ซึ่งทางจังหวัดได้ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน และประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยแล้ว จำนวน 10 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมือง สิงหนคร สทิงพระ ระโนด กระแสสินธุ์ ควนเนียง รัตภูมิ หาดใหญ่ บางกล่ำ และ อ.จะนะ โดยมีพื้นที่ที่ประกาศพื้นที่ประสบสาธารณภัยเพียงอย่างเดียว 2 อำเภอ คือ อ.สะเดา และ อ.นาหม่อม (น้ำท่วมในระดับปกติ) ขณะนี้หน่วยงานต่างๆ ได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง โดยมี นายวรณัฏฐ์ หนูรอต รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วย นายเชาวลิต นิฒรรัตน์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสงขลา นายสุรพงศ์ เจริญการยนต์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานสงขลา ร่วมเป็นคณะติดตาม และรายงานสถานการณ์ในพื้นที่


นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า การลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้ เพื่อนำความห่วงใย การช่วยเหลือของท่านนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี และกระทรวงมหาดไทย มามอบให้พี่น้องประชาชนผู้ประสบอุทกภัย พร้อมมอบถุงยังชีพแก่พี่น้องประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ จ.สงขลา ที่บริเวณกลุ่มออมทรัพย์บ้านจังโหลน ต.คูหาใต้ อ.รัตภูมิ เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมมอบถุงยังชีพ จำนวน 150 ชุด นอกจากนี้ ยังได้เดินทางมาติดตามการระบายน้ำที่บริเวณประตูระบายน้ำหน้าควน ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ ซึ่งถือว่าคลอง ร.1 เป็นคลองที่มีความสำคัญในการป้องกันน้ำท่วมเขตอำเภอหาดใหญ่ เมืองเศรษฐกิจของจังหวัดสงขลา ขณะนี้ทางกรมชลประทานได้ดำเนินการขยายคลอง สามารถรองรับน้ำได้ปริมาณ 1,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หากเทียบกับน้ำท่วมในปี 2553 ในขณะนั้นความสามารถของการรองรับน้ำมีเพียง 465 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งถือว่าในปีนี้หากปริมาณน้ำไม่เกิน 1,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ประชาชนมั่นใจได้ว่าสามารถรองรับสถานการณ์ได้อย่างแน่นอน

นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้าประจำยังจุดเสี่ยง และติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมสั่งการให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยบูรณาการจังหวัดเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างใกล้ชิด กำชับศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต สนับสนุนอุปกรณ์ เครื่องจักรกลช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยโดยด่วน โดยให้ดูแลความปลอดภัย และชีวิตของประชาชนเป็นอันดับแรก ส่วนเรื่องอื่นก็ไม่ต้องกังวล เพราะทางรัฐบาล และกระทรวงการคลัง มีระเบียบเตรียมพร้อมไว้แล้วว่าจะเยียวยา และฟื้นฟูประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างไร ซึ่งได้ให้ท้องถิ่นสำรวจความเสียหายด้านอื่นๆ เช่น พื้นที่เกษตร ด้านปศุสัตว์อีกด้วย ส่วนในเรื่องอื่นนั้นขออย่ากังวล เพราะรัฐบาลมีมาตรการเยียวยาดูแลอยู่แล้ว มาตรการของกระทรวงการคลัง การเยียวหลังเกิดน้ำท่วม ขอย้ำว่ารัฐบาลพร้อมให้การช่วยเหลือ และบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนอย่างเต็มที่ และจะดูแลประชาชนอย่างดีที่สุด






กำลังโหลดความคิดเห็น