xs
xsm
sm
md
lg

ถึงเวลาตีกรอบ “ไอซีอาร์ซี” หยุดล้ำเส้นประเทศไทย? เลิก “ละครลิง” หนุนขบวนการแบ่งแยกชายแดนใต้!

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

   


จุดคบไฟใต้ โดย..ไชยยงค์ มณีพิลึก
   



อะไรที่เป็นปัจจัยให้คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ หรือ "ไอซีอาร์ซี" ไม่ยอมย้ายสำนักงานออกไปจากจังหวัดชายแดนภาคใต้?

ทำไมรัฐบาลและหน่วยงานความมั่นคง โดยเฉพาะสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. และกระทรวงต่างประเทศ ซึ่งเป็นหน่วยงานรับผิดชอบกับองค์กรต่างประเทศที่เข้ามาวุ่นวายกับปัญหา “ไฟใต้” จึงต้องอ่อนข้อ ไม่กล้าดำเนินการ เพื่อให้ “ไอซีอาร์ซี” รวมทั้งอีกหลายองค์กรของ “ฝรั่งหัวแดง” ออกไปจากพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

ทั้งที่แต่ละหน่วยงานเหล่านี้ เมื่อมีการพูดคุยกันหลังไมค์ ต่างก็เข้าใจดีว่า องค์กรต่างชาติเหล่านี้ล้วนมีนัยแอบแฝงที่ไม่เป็นผลดีต่อประเทศไทย แต่น่าจะเป็นผลดีต่อขบวนการแบ่งแยกดินแดน ซึ่งเป็น "เสี้ยนหนาม" ที่คอยทิ่มตำประเทศไทย ทั้งในอดีตและเป็นอยู่ขณะนี้

ที่นำเรื่องขององค์กรฝรั่งต่างชาติ อย่าง "ไอซีอาร์ซี" มาเขียนถึงอีกครั้งในวันนี้ เพราะหัสเดิมจากการดำเนินการของสภาความมั่นคงแห่งชาติ และกระทรวงต่างประเทศได้ขอให้ “ไอซีอาร์ซี” ย้ายสำนักงานออกจาก จ.ปัตตานี ภายในสิ้นเดือน ก.ย.2563 แต่ทำกันอีท่าไหนไม่รู้ กลายเป็นว่า "ไอซีอาร์ซี" วิ่งเต้นต่อรองขอย้ายภายในสิ้นปี 2563 แล้วกลายเป็นว่า "ไอซีอาร์ซี" ย้ายจาก จ.ปัตตานี มาตั้งสำนักงานที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา แทน!

ถามว่า การยินยอมให้ “ไอซีอาร์ซี” ออกจากปัตตานีมาอยู่ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ต่างอะไรกับที่ไอซีอาร์ซีอยู่ที่ จ.ปัตตานี เพราะในที่สุด ไอซีอาร์ซีก็เดินทางจากที่ตั้งใน อ.หาดใหญ่ ระยะทางราว 90 กิโลเมตร เพื่อไปปฏิบัติการในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และ 4 อำเภอของ จ.สงขลาได้ดังเดิม เพียงแค่เสียเวลาเดินทางนิดหน่อย


จุดประสงค์ของการที่มีการเรียกร้องให้ “ไอซีอาร์ซี” ออกจาก จ.ปัตตานี เพราะมีความเชื่อว่าจะได้ตัดวงจรการเชื่อมต่อระหว่างแกนนำขบวนการบีอาร์เอ็น แกนนำภาคประชาสังคม หรือ “เอ็นจีโอ” ในพื้นที่ ซึ่งรับรู้กันอย่างเปิดเผยว่า เอ็นจีโอส่วนหนึ่งในพื้นที่คือ “ปีกการเมือง” ของขบวนการแบ่งแยกดินแดน ที่มีแนวคิดในการทำให้พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นเขตปกครองพิเศษ มีการรณรงค์ปลุกระดมให้คนในพื้นที่ ให้อ้างกฎบัตรสหประชาชาติในการขอ "กำหนดใจตนเอง" ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นภัยต่อประเทศไทย


แต่สุดท้าย หน่วยงานอย่างสภาความมั่นคง กระทรวงต่างประเทศ ก็ทำในเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยไม่สำเร็จ “ไอซีอาร์ซี” ก็ยังอยู่ในพื้นที่เพื่อทำสิ่งที่ส่อว่าจะแทรกแซงกิจการภายในประเทศของประเทศไทยต่อไป ซึ่งเป็นเรื่องที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ และกระทรวงต่างประเทศต้องตอบคำถามของคนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ได้ และในอนาคตยังจะมีองค์กรต่างชาติอีกหลายองค์กรที่จะเข้ามาดำเนินการอย่างไร

ส่วน "ไอซีอาร์ซี" ก็ต้องตอบคำถามของคนส่วนใหญ่ในพื้นที่ว่า จังหวัดชายแดนภาคใต้มี “เงื่อนไข” ตรงไหนบ้างที่เป็นไปตามพันธกรณีระหว่างประเทศที่ให้ไอซีอาร์ซีเข้ามาเพื่อปฏิบัติการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะที่นี่ไม่มีสงคราม ไม่มีเชลยศึก ไม่มีผู้สูญหายจากภาวะสงคราม ไม่มีอะไรสักอย่างเดียวที่เข้าสู่ "เงื่อนไข" เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของไอซีอาร์ซีเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ตามพันธสัญญาของกาชาดระหว่างประเทศ

เว้นแต่ “ไอซีอาร์ซี” จะใช้วิธีการ "โมเมโมมะ" ด้วยการใช้คำว่า "กาชาด" เพื่อเกาะเกี่ยวกับการชาดจังหวัด ซึ่งมีภารกิจในการช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ เพื่อเป็นการหาช่องทางที่จะอยู่ต่อในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อปฏิบัติการในสิ่งที่มีนัยแอบแฝง รอเวลา รอเงื่อนไข รอความสำเร็จ


มีคำถามอีกข้อสำหรับหน่วยงานความมั่นคงคือ ที่ผ่านมาตั้งแต่ไอซีอาร์ซีมาอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้หลายปี ไอซีอาร์ซีเคยส่งแผนปฏิบัติงานให้ฝ่ายความมั่นคงหรือไม่ หรือไอซีอาร์ซีถือวิสาสะความเป็นองค์กรต่างประเทศ จะไปไหน ไปพบใคร และจะอบรมสัมมนาให้กลุ่มคน กลุ่มโจร กลุ่มไหนเพื่อให้รู้ถึงกฎบัตรสหประชาชาติ การกำหนดใจตนเอง และอื่นๆ ที่เป็นภัยกับประเทศชาติ อย่างอิสระเสรี ใช่หรือไม่

ถ้าใช่ หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ต้องมีการดำเนินการใหม่เพื่อควบคุมการเข้ามาปฏิบัติการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไอซีอาร์ซี และองค์กรต่างชาติทุกองค์กรให้เป็นไปตามกฎระเบียบของพื้นที่ ซึ่งมีความอ่อนไหวอย่างจังหวัดชายแดนภาคใต้ ต้องมีการส่งแผนปฏิบัติงานให้แก่หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ได้ตรวจสอบว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงของจังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่

เมื่อไล่ไม่ไปก็ต้องมีการตีกรอบให้การปฏิบัติการของ "ไอซีอาร์ซี" ต้องอยู่ในสายตาของหน่วยงานความมั่นคง และต้องมีการกำหนดขอบเขตว่า อยู่ตรงไหน และตรงไหนคือเขตที่ห้ามล้ำเส้น ต้องเอาให้ชัด เพราะประเทศไทยไม่ได้เป็นเมืองขึ้น และในสถานการณ์ปกติ องค์กรเหล่านี้ก็ไม่มีสิทธิพิเศษแต่อย่างใด


วันนี้ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เต็มไปด้วยองค์กรภาคประชาสังคมที่ไม่ธรรมดา แต่เป็นภาคประชาสังคมที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการเรียกร้องสิทธิเสรีภาพ ที่เอียงข้างไปทางขบวนการแบ่งแยกดินแดน สร้างความขัดแย้งทางการเมืองและศาสนา เรียกร้องในเรื่อง “อัตลักษณ์” ที่สุดโต่ง และเกินเลย ที่ไม่ใช่เรื่องของ "พหุวัฒนธรรม" มีการจัดสัมมนาเพื่อเป็นการสร้างมวลชนและบ่มเพาะกลุ่มคน เพื่อองค์กรของตนเอง มีการบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อให้ต่อต้านหน่วยงานของรัฐ โดยใช้เฟซบุ๊กและโซเชียลมีเดียอื่นๆ ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่า การเกิดขึ้น การดำรงอยู่ และการขับเคลื่อนของกลุ่มภาคประชาสังคมเหล่านี้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่เป็นองค์กรต่างประเทศ เช่นเดียวกับ "ไอซีอาร์ซี" นี่แหละ

ดังนั้น "ไอซีอาร์ซี" จึงไม่เหมาะที่จะอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งไม่ว่าจะอย่างไร หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของชาติอย่างสภาความมั่นคงแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับองค์กรต่างประเทศอย่างกระทรวงการต่างประเทศ
ต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับ "ไอซีอาร์ซี"


เพื่อให้ย้ายออกจากพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้จริงๆ ไม่ใช่การเล่นละครตบตา เล่นละครลิงเพื่อหลอกเจ้า ด้วยการย้ายจากปัตตานีมาหาดใหญ่


กำลังโหลดความคิดเห็น