ศูนย์ข่าวภูเก็ต - คณะกรรมาธิการ ป.ป.ช.ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงโรงแรมดังหาดกะตะน้อย สร้างค่อมคลองบางรัก และทางสาธารณะ ยังไม่มีข้อสรุปคลองบางรักมีจริงหรือไม่ เตรียมเรียกอธิบดีกรมที่ดินแจงความคืบหน้าสัปดาห์หน้า ส่วนถนนชัดเจนแล้วมีจริง รอเทศบาลตำบลกะรนตั้งงบปรับปรุง
เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (23 พ.ย.) คณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (ป.ป.ช.) นำโดย นายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ เลขานุการคณะกรรมการธิการ ป.ป.ช. พร้อมด้วย นายสุทา ประทีป ณ ถลาง ส.ส.ภูเก็ต รองประธาน กมธ.ป.ป.ช. นายจารึก ศรีอ่อน ส.ส.จันทบุรี กมธ.ป.ป.ช. นายธีรัจชัย พันธุ์มาศ โฆษก กมธ.ป.ป.ช. และ นายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส เลขานุการประจำ กมธ.ป.ป.ช.ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีชาวบ้านในพื้นที่กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ร้องเรียนการสร้างโรงแรมคร่อมคลองบางรัก และถนนสาธารณะ ในพื้นที่โรงแรมกะตะธานี หาดกะตะน้อย ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยมี นายสมบัติ อติเศรษฐ์ เจ้าของโรงแรมกะตะธานี และนายเชิดชัย วงศ์เสรี ทนายความ นำเอกสารหลักฐานที่ดินมาแสดงและชี้แจงข้อเท็จจริงว่าในเอสการสิทธิที่ดินที่ครอบครองนั้นไม่มีคลองแต่อย่างใด โดยมีนายปิยพงศ์ ชูวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่จากสำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่อำเภอเมืองภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมด้วย
โดยก่อนลงพื้นที่ตรวจสอบในช่วงเช้าวันนี้ ทางคณะกรรมการธิการ ป.ป.ช. ได้ร่วมประชุมกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องในจังหวัดภูเก็ต เพื่อตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆ และติตตามความคืบหน้า
นายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ เลขานุการคณะกรรมการธิการ ป.ป.ช. เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ ว่า การลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องคลองบางรักและถนนสาธารณะของคณะกรรมาธิการ ป.ป.ช.ในวันนี้ เนื่องจากทางคณะกรรมาธิการฯ ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่กะรน ว่า มีการสร้างโรงแรมคร่อมคลองบางรักและยึดถนนสาธารณะชาวบ้านไม่สามารถเข้าไปใชประโยชน์ได้ ทาง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียาเวช ประธานคณะกรรมาธิการ ป.ป.ช.จึงได้มอบหมายให้ตนและคณะกรรมาธิการฯ ลงมาตรวจสอบข้อเท็จ ซึ่งในวันนี้ได้มีการตรวจสอบ 2 เรื่องหลักๆ ที่เกิดขึ้น ณ โรงแรมกะตะธานีแห่งนี้
เรื่องแรก ถนนสาธารณะที่อยู่ภายในโรงแรม ชาวบ้านไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้ ซึ่งจากการตรวจเอกสารหลักฐาน พบว่า มีทางสาธารณะจริงๆ เรื่องนี้ทางจังหวัดภูเก็ตได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาตรวจสอบและดำเนินการ มีความชัดเจนแล้วว่ามีทางสาธารณะ และขอให้ทางเทศบาลตำบลกะรน ตั้งงบประมาณมาดำเนินการถนนดังกล่าวประมาณ 300-400 เมตร ที่อยู่ภายในโรงแรม รวมทั้งเจ้าของที่ดินข้างเคียงก็ยินยอมที่จะให้มีการปรับพื้นที่เป็นทางสาธารณะ เพื่อให้ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับเทศบาลตำบลกะรนว่าจะเข้ามาดำเนินการเมื่อไหร่
เรื่องที่สอง เป็นเรื่องการก่อสร้างโรงแรมคร่อมคลองสาธารณะ คลองบางรักน้อย ที่ยังหาข้อสรุปไม่ได้ ซึ่งจากการดูภาพถ่ายทางอากาศในพื้นที่ดังกล่าว มีสภาพเป็นลำรางสาธารณะหรือคลองบางรักน้อย แต่จากการลงสำรวจพื้นที่ทางกายภาพไม่พบว่ามีลำรางสาธารณะหรือคลองแต่อย่างใด แต่จะต้องมีการนำสืบเอกสารหลักฐานและเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดไปให้ข้อมูลอีกครั้ง และที่ผ่านมา มีหลายหน่วยงานได้ลงมาตรวจสอบเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็น ดีเอสไอ ป.ป.ช. ตำรวจทรัพยากรธรรมชาติ และจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเรื่องนี้จะต้องทำความจริงให้ปรากฏ
อย่างไรก็ตาม จากการประชุมร่วมกับทางจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทางตัวแทนเจ้าพนักงานที่ดินได้แจ้งให้ทราบว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเบื้องต้นของคณะทำงานที่ทางจังหวัดภูเก็ตแต่งตั้งขึ้นมา พบว่า ในเอกสารสิทธิที่ดินนั้นมีที่สาธารณะหรือที่รกร้างอยู่ประมาณ 3 งานเศษ หรือประมาณ 300 ตารางวา ที่บริเวณปลายหาดกะตะน้อย และทางจังหวัดภูเก็ตได้เสนอเรื่องดังกล่าวไปยังกรมที่ดิน เมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ทางกรมที่ดินยังไม่ได้แจ้งกลับมายังจังหวัดภูเก็ตแต่อย่างใด ซึ่งในสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมคณะกรรมาธิการฯ จะได้เชิญทางอธิบดีกรมที่ดินมาชี้แจงรายละเอียดและความคืบหน้า เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการต่อไป
“หลังจากนี้ทางคณะกรรมาธิการฯ จะขอหลักฐานต่างๆ จากทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งในส่วนของภาพถ่ายแผนที่ทหารทางอากาศ เอกสารสิทธิที่ดิน และอื่นๆ เพื่อรวบรวมรายละเอียดทั้งหมด เสนอทางสภาผู้แทนราษฎร ส่งเรื่องไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกส่วนดำเนินการ ในการทำความจริงให้ปรากฏต่อไป เพราะขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าคลองบางรักมีอยู่จริงไม่ และที่รกร้างนั้นใช่คลองบางรักหรือไม่ และทางกรมที่ดินจะต้องเป็นผู้ชี้ขาดออกมา”
ด้านนายสมบัติ อติเศรษฐ์ เจ้าของโรงแรมกะตะธานี กล่าวว่า ตนอยู่ที่หาดกะตะน้อยมากว่า 40 ปีแล้ว ไม่เคยเห็นคลองบางรัก และเอกสารหลักฐานที่ดินตั้งแต่ ส.ค.1 ตั้งแต่ปี 2498 จนมาเป็น น.ส.3 และโฉนดที่ดินก็ไม่ปรากฏว่ามีคลองบางรักแต่อย่างใด และที่ผ่านมา หน่วยงานต่างๆ ก็ได้เข้ามาตรวจสอบเอกสารสิทธิที่ดินและคลองบางรักมาโดยตลอดตั้งแต่ปี 2559 จนถึงขณะนี้ ก็ไม่ปรากฏว่ามีคลองบางรัก ที่เป็นเรื่องเป็นราวอยู่ในขณะนี้ก็มาจากภาพถ่ายทางอากาศที่ระบุว่ามีคลองบางรักในโฉนดที่ดินที่เป็นที่ตั้งโรงแรม และมีปั้นแต่งพยานบุคคลขึ้นมาว่ามีคลองบางรัก
นายสมบัติ กล่าวต่อว่า ที่ดินแปลงนี้ตนซื้อมาครั้งแรกเมื่อปี 2527 หลังจากนั้นซื้อสะสมมาเรื่อยๆ มาเป็นเวลา 12 ปี จำนวน 24 แปลง จึงได้นำมารวมเป็นโฉนดแปลงเดียวกัน และในการออกตั้งแต่ ส.ค.1 น.ส.3 และโฉนด ก็ไม่มีคลองบางรัก เพราะถ้ามีคลองทางที่ดินจะไม่ออกเอกสารสิทธิให้อย่างแน่นอน
