สุราษฎร์ธานี - ไปต่อไม่ไหว ย่านเศรษฐกิจหาดเฉวง แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังเกาะสมุย เมืองที่ไม่เคยหลับ กลับเงียบเหงา ร้านค้า ร้านสะดวกซื้อ บูทแลกเงินทยอยปิดตัว คนที่เดินทางมาทำงานบนเกาะสมุยต้องเก็บของกลับบ้าน
จากกรณีสื่อโซเชียลได้เเพร่ภาพบรรยากาศชายหาดเฉวง ของอำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เงียบเหงาแทบเป็นเมืองร้างไม่มีผู้คนเดิน ซึ่งบรรยากาศแตกต่างก่อนจะเกิดสถานการณ์โควิด-19 ระบาด ที่ย่านการค้าชายหาดเฉวง เป็นย่านการค้าที่คึกคัก เป็นเมืองที่ไม่เคยหลับ นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาตินิยมเดินทางท่องเที่ยวและสัมผัสกับธรรมชาติทางทะเลในอำเภอเกาะสมุยในแต่ละวันนับ 10,000 คน ที่เข้ามาท่องเที่ยวตามเกาะแก่งต่างๆ ทั้งนอนอาบแดด เดินเล่นตามชายหาด ลงเล่นน้ำทะเล หรือเดินชอปปิ้งตามร้านค้าที่อยู่หน้าชายหาดเป็นจำนวนมาก ทั้งกลางวันและกลางคืน แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์โควิด-19 ส่งผลกระทบต่อกลุ่มผู้ประกอบการ ทำให้ผู้ประกอบการหลายราย ต้องปิดตัวลงจากพิษโควิด-19
ล่าสุด จากการลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่า บริเวณถนนย่านการค้า ชอปปิ้งเซนเตอร์ หมู่ 2-3 ตำบลบ่อผุด อำเภอเกาะสมุย พบว่าบรรยากาศสุดเหงา ร้านอาหาร ร้านสถานบันเทิง ร้านสะดวกซื้อ ร้านนวดสปา และบูทแลกเปลี่ยนเงินตรา และธนาคารต้องปิดสาขาลง ทำให้บรรยากาศไม่เหลือเค้าเมืองที่ไม่เคยหลับเหมือนก่อนที่ผ่านมา
นายเสนีย์ ภูวเศรษฐาวร รองประธานหอการค้าจังหวัดสุราษฎร์ธานี และกรรมการผู้จัดการ โรงแรม คอรอล คลิฟ บีช รีสอร์ท เกาะสมุย เปิดเผยว่า จากที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมา ทำให้ธุรกิจบริการโดยเฉพาะโรงแรม รีสอร์ต ร้านอาหารต่างๆ ต้องปิดตัวลง ทำให้ธุรกิจด้านการท่องเที่ยวบนเกาะสมุยได้รับผลกระทบอย่างเลี่ยงไม่ได้
ซึ่งหลังจากที่ก่อนหน้านี้ มีการเปิดการท่องเที่ยว ธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร รีสอร์ตต่างๆ มาในระยะหนึ่ง แต่ผลก็ไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่คาดหวัง อย่างที่ทราบว่า สมุยต้องพึ่งพานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 80-90% ที่ผ่านมา จากที่รัฐบาลได้เปิดโครงการเราเที่ยวด้วยกันให้กับนักท่องเที่ยวชาวไทย โดยสนับสนุนค่าที่พัก ค่าเดินทาง ตั๋วเครื่องบิน ก็ยังมาได้ไม่เต็มที่ ด้วยผลกระทบทางเศรษฐกิจ คนไทยทั้งประเทศไม่มีกำลังจ่ายที่จะมาท่องเที่ยว
จึงอยากให้รัฐบาลเข้ามาดูแลในช่วงนี้คนไทยรายได้ต่างๆ ลดน้อยลง ธุรกิจบ้านเช่า สถานประกอบการที่ปิดตัวลง คนที่มาทำธุรกิจในสมุยตอนนี้ก็ได้อพยพกลับบ้านเกิด เพราะไม่มีงานทำ สิ่งสำคัญสุดที่จะให้รัฐบาลช่วยเหลือผู้ประกอบการในด้านประสานงานกับธนาคารแห่งชาติ กับธนาคารพาณิชย์ปล่อยกู้เพิ่มมากขึ้นโดยกำหนดเงื่อนไขที่ไม่ยุ่งยาก ที่ผ่านมาผู้ประกอบพยายามพยุงในการดำเนินกิจการ
ผู้ประกอบการใดที่มีสายป่านยาวมีเงินเก็บเงินทุน ก็ยังประคับประคองธุรกิจได้อยู่ แต่ขณะนี้เปิดมาแล้ว 3-4 เดือน ขาดเงินทุนหมุนเวียน ถ้ายังเกิดมีปัญหาต่อเนื่อง ที่นักท่องเที่ยวต่างชาติยังไม่สามารถเข้ามาท่องเที่ยวได้ ก็จะเพิ่มปัญหามากขึ้นจำเป็นต้องปิดกิจการลงอีกครั้งหนึ่ง และธุรกิจท่องเที่ยวไม่สามารถเดินต่อไปได้ ซึ่งหากไม่มีการยื่นมือของรัฐบาลเข้ามาช่วย ไม่ช้าผู้ประกอบการธุรกิจรายขนาดกลางต้องปิดตัวธุรกิจลงอย่างถาวร
ขณะนี้มีหลายแห่งที่ผู้ประกอบการประกาศขายกิจการ หากในเร็วๆ นี้สภาพเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นกลุ่มผู้ประกอบการแบกภาระต้นทุนค่าใช้จ่ายไม่ไหวจะส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจที่จะล้มได้ง่ายมาก ซึ่งกลุ่มผู้ประกอบการต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า อยากให้รัฐบาลช่วยคุยกับทางธนาคารว่ามีมาตรการอย่างไรในการพักหนี้ หรือว่าลดดอกเบี้ยหรือชะลอการพักชำระหนี้ออกไปอีก ในการช่วยเหลือผู้ประกอบการตรงนี้ได้บ้าง ลำพังผู้ประกอบการอย่างเดียวการสร้างความเชื่อมั่นที่จะคุยกับธนาคารค่อนข้างที่จะคุยยาก จึงอยากให้รัฐบาลเยียวยาให้กลุ่มผู้ประกอบการ เพื่อที่จะได้พยุงให้ผ่านพ้นวิกฤต