ตรัง - เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง โอดแม้ช่วงนี้ราคาผลผลิตจะพุ่งสูงขึ้น แต่กลับไม่ค่อยมีผลผลิต หรือลดลงจากเดิมอย่างมาก เหตุจากภัยแล้งที่รุนแรงก่อนหน้านี้ ขณะที่ราคาปุ๋ยยังสูง และยังต้องใส่ตามปกติ
ชาวบ้านใน จ.ตรัง ซึ่งประกอบอาชีพรับจ้างตัดผลผลิตปาล์มน้ำมันประมาณ 5-6 คน พร้อมอุปกรณ์ตัดปาล์มน้ำมัน ยังรวมกลุ่มกันออกรับจ้างตัดผลผลิตปาล์มน้ำมันที่สุกคาต้นตามปกติ ในพื้นที่หมู่ 2 ต.หนองช้างแล่น อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ถึงแม้ในช่วงนี้จะมีผลผลิตน้อยมาก แต่ก็ต้องยอมตัดขาย เพราะผลร่วงสุกคาต้น และมีราคาสูง เฉลี่ยประมาณ กก.ละ 6-7 บาท จากที่ก่อนหน้านี้เคยตกลงไปเหลือ กก.ละ 2-3 บาท แม้ผู้ที่รับจ้างตัดผลผลิตปาล์มน้ำมัน จะได้ค่ารับจ้างตัดตันละ 500 บาท แต่ถือว่าไม่คุ้มค่าเหนื่อย เนื่องจากผลผลิตในช่วงนี้มีน้อยมาก แถมยังทะลายลีบ และเล็กด้วย โดยเฉพาะสวนปาล์มน้ำมันแปลงนี้ที่เนื้อที่ถึง 50 ไร่ แต่กลับสามารถตัดผลผลิตได้เพียง 2 ตันเท่านั้น จากเดิมปกติที่เคยตัดได้ประมาณ 15-16 ตัน
นายพร้อม ศรีสง อายุ 64 ปี เกษตรกรเจ้าของสวนปาล์มน้ำมัน กล่าวว่า ในปีนี้ต้นปาล์มน้ำมันขาดลูกตลอด สาเหตุเนื่องจากเมื่อช่วงหน้าแล้งก่อนหน้านี้ ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายน 2563 ในพื้นที่ จ.ตรัง ประสบปัญหาภัยแล้ง ทำให้ต้นปาล์มน้ำมันแห้ง ใบแห้ง จึงส่งผลให้ไม่แตกช่อดอก และไม่มีผลผลิต เฉพาะสวนของตนเองมีอยู่ จำนวน 3 แปลง รวมเนื้อที่เกือบ 100 ไร่ ซึ่งตั้งแต่ราคาปาล์มน้ำมันพุ่งสูงขึ้น ตนเองตัดผลผลิตขายได้แค่ครั้งเดียวประมาณ 2-3 ตันเท่านั้น โดยคนงานใช้เวลาตัดแค่ประมาณ 3 วันก็แล้วเสร็จ เพราะแต่ละแปลงมีผลผลิตประมาณ 20 ทะลายเท่านั้น ซึ่งถือว่าน้อยมาก จากเดิมใช้เวลาตัดนานประมาณ 1 สัปดาห์
ทั้งนี้ สาเหตุมาจากสภาพอากาศแล้งจัดเมื่อช่วงต้นปี 2563 ทำให้ปาล์มน้ำมันคอแห้ง ใบตาย ไม่มีช่อดอกเกิดใหม่ ซึ่งจะต้องใช้เวลาประมาณ 1-2 ปี ในการฟื้นสภาพตัวเอง ดังนั้น ถึงแม้ในช่วงนี้ปาล์มน้ำมันจะมีราคาสูงขึ้นกว่าปกติ แต่ตนเองรวมทั้งเกษตรกรเจ้าของสวนปาล์มน้ำมันทุกรายกลับไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย ขณะที่ราคาปุ๋ยยังแพง และต้องใส่ตามปกติ โดยตกกระสอบละเกือบ 600 บาท ขณะนี้ตนเองสั่งมาใหม่เกือบ 100 กระสอบ ทั้งนี้ หากปุ๋ยมีการปรับราคาขึ้นแล้ว ก็จะไม่มีการปรับราคาลงอีกเลย ทำให้เกษตรกรเดือดร้อน ขณะที่บนต้นปาล์มน้ำมันตอนนี้ก็ไม่มีดอกใหม่ จึงคาดว่าในปี 2564 ก็ยังไม่มีผลผลิต และหากเจอสภาพแล้งซ้ำอีกครั้งในช่วงหน้าแล้งหน้า ก็จะยิ่งส่งผลรุนแรงต่อต้นปาล์มน้ำมันมากขึ้น
