xs
xsm
sm
md
lg

ไฟใต้ยังไม่สิ้นเชื้อ! สงบซ่อนเร้นหวังดันสู่เวทีสากล หนทาง “แบ่งแยกดินแดน”?

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



โดย ไชยยงค์ มณีพิลึก




สถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ยังหาความสงบยังไม่เจอ ล่าสุด เกิดเหตุยิงถล่มเจ้าหน้าที่พิทักษ์อุทยานแห่งชาติเทือกเขาบูโด อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส มีผู้บาดเจ็บ 2 คนด้วยกัน ซึ่งแสดงให้เห็นว่า แนวร่วมกลุ่มติดอาวุธยังเคลื่อนไหวและพร้อมที่จะปฏิบัติการหากมีเงื่อนไขที่เพียงพอ

การยิงถล่มเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าอาจจะมีเงื่อนไขว่า เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าปฏิบัติการจนทำให้เกิดผลกระทบต่อมวลชนของบีอาร์เอ็น ที่หาประโยชน์จากการทำไม้เถื่อน การหาของป่า หรืออาจเพราะเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าไปพบเห็นแหล่งพักพิงของกลุ่มติดอาวุธ

ดังนั้น การวิเคราะห์สถานการณ์ของหน่วยงานความมั่นคง ที่สรุปว่า สถานการณ์ของ 3 จังหวัด 4 อำเภอดีขึ้น และเตรียมถอนทหารออกจากพื้นที่ โดยเชื่อว่า การส่งทหารเข้าไปในหมู่บ้าน ตำบล ได้ทำให้แนวร่วมและกองกำลังติดอาวุธหมดสภาพ เคลื่อนไหวไม่ได้ ปลุกระดมไม่ได้ หรือเจ้าหน้าที่ควบคุมพื้นที่ จำกัดเสรีภาพของกองกำลังติดอาวุธได้แล้ว อาจเป็นการประเมินหรือวิเคราะห์สถานการณ์ที่ด่วนเกินไปก็ได้


อีกประเด็นที่สอดคล้องกับกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่คนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ต้องให้ความสนใจ นั่นคือ การรุกคืบของ “หน่วยการเมือง” จากประเทศมหาอำนาจ ทั้งสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป ที่มีต่อพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถ้าติดตามสถานการณ์อย่างเกาะติดจะพบว่า สหภาพยุโรปหรือ “อียู” ได้เข้ามาทำกิจกรรมกับภาคประชาชนอย่างหลากหลาย ผ่านองค์กรภาคประชาสังคมและสถาบันการศึกษาในพื้นที่ ซึ่งเป็นการทำกิจกรรมที่ส่อว่ามี ”นัยแอบแฝง” ทั้งสิ้น

สัปดาห์ที่แล้ว เลขานุการทูตสหรัฐอเมริกาฝ่ายการเมืองเดินสายลงพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พบปะกับตัวแทนฝ่ายรัฐและเอกชน เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน คล้อยหลังไม่กี่วัน ตัวแทนองค์กรจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ก็เข้าพบกับผู้แทน กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และองค์กรเอกชนในพื้นที่

หากล้วงลึกลงไปก็จะพบว่า องค์กรที่มาจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์มีความเกี่ยวพันกับ “เจนีวา คอลล์” (Geneva Call) อย่างแยกกันไม่ออก ซึ่งถ้ารู้จัก “เจนีวาคอลล์” ก็จะรู้ว่าเป็นองค์กรเอ็นจีโอต่างชาติระดับยิ่งใหญ่ และมีความสัมพันธ์กับแกนนำ “บีอาร์เอ็น” เป็นไปได้ว่าเป็นผู้คอยแนะนำบีอาร์เอ็นให้เดินเกมการเมืองในเวทีโลก สร้างความมี "ตัวตน" ว่าเป็นองค์กรก่อการร้ายสากล เพื่อใช้ "ต่อรอง" กับรัฐไทย ในการเดิมเกม “แบ่งแยกดินแดน”

นอกจากนี้ ยังมีตัวแทนจากยูเสด ( USAID – United States Agency for International Development ) องค์กรจากสหรัฐอเมริกา เดินทางเข้ามาเพื่อพบปะแลกเปลี่ยน ขอทราบเรื่องราวของจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยอ้างเป็นการให้ความร่วมมือเพื่อแก้ไขปัญหาความไม่เข้าใจของประชาชนกับภาครัฐที่เกิดขึ้น


ในขณะที่คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ หรือ “ไอซีอาร์ซี” The International Committee of the Red Cross (ICRC) ที่เข้ามาปฏิบัติการเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่ภาคประชาสังคมที่เป็น "ปีกทางการเมือง" ของบีอาร์เอ็น วันนี้ หน่วยงานฝ่ายความมั่นคงได้พยายามที่จะขอให้ไอซีอาร์ซีออกจากพื้นที่ เพราะพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังไม่มีสถานการณ์ใดๆ ที่จะให้ไอซีอาร์ซีเข้ามามีบทบาทตามพันธกรณีของไอซีอาร์ซี แต่ปรากฏว่า ไอซีอาร์ซีพยายามต่อรอง จากเดิมที่ต้องย้ายออกจากพื้นที่ จ.ปัตตานี ในวันที่ 30 ก.ย. เป็นการย้ายออกในสิ้นปี 2563 และแทนที่จะย้ายกลับไปยังสำนักงานส่วนกลางที่กรุงเทพฯ ไอซีอาร์ซีกลับมาเช่าสถานที่ตั้งสำนักงานที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งหมายความว่า ไอซีอาร์ซียังส่งคนเข้าไปปฏิบัติการในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้เหมือนเดิม

นี่คือเล่ห์กลขององค์กรต่างชาติ ที่วันนี้ หน่วยงานความมั่นคงและคนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ต้องสำเหนียกถึงภัยจากองค์กรต่างชาติ ที่เข้ามาอย่างมี "นัย" เพื่อให้ความช่วยเหลือบีอาร์เอ็นในการเปลี่ยนแปลงการปกครองในจังหวัดชายแดนภาคใต้

เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่องค์กรของ “คนไทยพุทธ” และหน่วยงานความมั่นคงต้องส่งเสียงแสดงความคิดเห็นที่ชัดเจน เพื่อร่วมกันกดดันให้องค์กรต่างชาติที่มีนัยอันเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของจังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทยให้ได้


ผู้เขียนชอบใจในบทสนทนาระหว่างตัวแทนของ "ยูเสด" กับ พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. ที่กล่าวว่า ศอ.บต.ขอบใจที่ท่านให้ความร่วมมือกับปัญหาของจังหวัดชายแดนภาคใต้ และยินดีเป็นอย่างยิ่งถ้าท่านจะมาช่วยในเรื่องเศรษฐกิจ การลงทุน และเทคโนโลยี ที่เรายังต้องการอยู่

“แต่ในเรื่องการสร้างความเข้าใจในสถานการณ์ต่างๆ เป็นหน้าที่ของเรา เพราะ ศอ.บต. มีสภาเสริมสร้างสันติสุขในทุกตำบลเป็นกลไกของการสร้างความเข้าใจกับคนในพื้นที่ มีกรรมการสภาที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้จากทุกสาขาอาชีพ 60 คน เป็นที่ปรึกษาให้แก่ ศอ.บต.”

เจอแบบนี้เข้า ทำเอาฝรั่งอ้าปากหวอ หน้าหงายกลับไป เพราะนี่คือการ "รู้เท่าทัน" องค์กรของมหาอำนาจอย่างแท้จริง

ถ้า กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เชื่อมั่นว่าสถานการณ์ดีขึ้นจริงๆ และพื้นที่ไม่มีความรุนแรงแล้ว เพราะกำลังของทหารเอาอยู่ ก็อย่าเพิ่งถอนทหาร แต่ควรยกเลิกกฎหมายพิเศษต่างๆ ที่ใช้อยู่ เพื่อให้มวลชนเห็นถึงความจริงใจและคลายความหวาดระแวง รวมทั้งการยกเลิกสิทธิพิเศษต่างๆ ที่สร้างความได้เปรียบ เสียเปรียบของคนในพื้นที่ เพื่อลดความเหลี่ยมล้ำ ที่เป็นปมประเด็นของความแตกแยก เพื่อให้มีคนในพื้นที่มีศักดิ์เสมอกัน


แต่...นั่นแหละ ก่อนที่ความมั่นคงจะตัดสินอะไร ให้วิเคราะห์ถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างถ่องแท้ โดยดูจากองค์กรต่างๆ จากประเทศมหาอำนาจ ที่ฉวยโอกาสที่ประเทศไทยเกิดความ "ขัดแย้ง" ของคนในชาติ ด้วยการ "พาเหรด" เข้ามาปฏิบัติการในจังหวัดชายแดนภาคใต้ องค์กรแล้ว องค์กรเล่า ขณะที่ไล่ "ไอซีอาร์ซี" ยังไม่สำเร็จ ก็มีองค์กรอื่นๆ เข้ามาเต็มไปหมด วิเคราะห์ให้ดีว่าเกิดอะไรขึ้นกับจังหวัดชายแดนภาคใต้ และบีอาร์เอ็น หรือใครที่จะได้ประโยชน์

ถ้าให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเหมือนกับ 10 ปีก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ "ไฟใต้ระลอกใหม่" เมื่อปี 2547 ที่หน่วยงานความมั่นคงฟันธงว่า ขบวนการแบ่งแยกดินแดนกลายเป็น "โจรมิจฉาชีพธรรมดา" แล้วสั่งยุบ พตท.43 ยุบ ศอ.บต. สุดท้ายผ่านมา 16 ปี ยังดับ "ไฟใต้ระลอกใหม่" ไม่สำเร็จ ประวัติศาสตร์ไม่ได้มีไว้เพื่อจดจำ แต่ต้องป้องกันอย่างไม่ให้ซ้ำรอย!


กำลังโหลดความคิดเห็น