ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เจ้าท่าเดินหน้าโครงข่ายเชื่อมโยงเส้นทางเดินเรือภูเก็ตพังงา-กระบี่ หรือวงแหวนแห่งอันดามัน ศึกษาออกแบบเสร็จแล้ว ใช้งบ 600 กว่าล้านบาท ถ้าทุกอย่างผ่านปี 65-66 ดำเนินการได้
นายณชพงศ ประนิตย์ รักษาการผู้อำนวยการเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการโครงข่ายเชื่อมโยงเส้นทางเดินเรือภูเก็ตพังงา-กระบี่ หรือวงแหวนแห่งอันดามัน หลังรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนามคม ลงมาในพื้นที่เพื่อติดตามความคืบหน้าโครงการดังกล่าว ว่า
โครงการนี้เป็นโครงการที่ทางกรมเจ้าท่า สนับสนุนและส่งเสริมเพื่อกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาคและสร้างรายได้ให้ประเทศมากขึ้น ซึ่งเดิม จ.ภูเก็ต มีจำนวนนักท่องเที่ยวมากและมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ส่งผลต่อการจราจรในเมืองภูเก็ต ทางกรมเจ้าท่าจึงมีโครงการศึกษาความเหมาะสมโดยการเปิดเส้นทางเดินเรือใหม่ เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาการจราจรทางถนนและความแออัดของนักท่องเที่ยวที่สนามบินภูเก็ต ซึ่งจะใช้สนามบินคู่ภูเก็ต-กระบี่ ผ่านเส้นทางเดินเรือใหม่ เชื่อมกับโครงการโครงข่ายเชื่อมโยงเส้นทางเดินเรือภูเก็ตพังงา-กระบี่ หรือวงแหวนแห่งอันดามัน ซึ่งเป็นพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวที่มีความสวยงามทั้งทางธรรมชาติและวัฒนธรรมท้องถิ่น รวมทั้งลดระยะเวลาในการเดินทาง จากเดิมถ้าเดินทางจากจังหวัดกระบี่มายังจังหวัดภูเก็ตจะใช้เวลา 2 -3 ชั่วโมง แต่ถ้าสามารถเดินทางโดยทางเรือได้ก็จะใช้ระยะเวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น
นายณชพงศ กล่าวต่อไปว่า ในการปรับปรุงท่าเทียบเรือตามโครงการวงแหวนแห่งอันดามัน ขณะนี้ทางกรมเจ้าท่าได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษา ศึกษาออกแบบ รวมทั้งทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมแล้วทั้งหมด 4 แห่งในพื้นที่ 3 จังหวัด รวมงบประมาณในการดำเนินการ 600 ล้านบาท ประกอบด้วยปรับปรุงท่าเทียบเรือมาเนาะห์ เกาะยาวน้อย จ.พังงา งบประมาณ 149 ล้านบาท ปรับปรุงท่าเทียบเรือช่องหลาด เกาะยาวใหญ่ จ.พังงา งบประมาณ 154 ล้าน ก่อสร้างท่าเทียบเรือเฟอร์รี่ต้นทางท่าเทียบเรืออ่าวปอ จ.ภูเก็ต งบประมาณ 240 ล้าน และก่อสร้างปรับปรุงท่าเทียบเรือเฟอร์รี่ปลายทางท่าเทียบเรือท่าเลย จ.กระบี่ งบประมาณ 98 ล้านบาท
ส่วนการรับฟังความคิดเห็นคนในพื้นที่ผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย พบว่า ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับโครงการดังกล่าว ยกเว้นในส่วนของท่าเทียบเรือมาเนาะห์ เกาะยาวน้อย จ.พังงา ที่ไม่เห็นด้วยจะให้เรือเฟอร์รี่ที่บรรทุกรถเทียบท่าและนำเรือขึ้นบนเกาะ เพราะทางชาวบ้านยังไม่อยากที่จะให้มีรถเข้าไปในพื้นที่มากนักเพราะจะเป็นการทำลายวิถีชีวิตของชาวบ้าน แต่ในส่วนของคนที่จะขึ้นมาบนเกาะไม่มีปัญหา
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ทางบริษัทที่ปรึกษาก็จะทำข้อสรูปและเสนอไปยังจังหวัดต่างๆ เพื่อพิจารณาอีกครั้ง ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผนก็น่าจะเสนอขอใช้งบประมาณปี 2565-2566 โดยงบประมาณที่จะใช้ดำเนินการคาดว่าจะเป็นงบจากกรมเจ้าท่า
อย่างไรก็ตาม หากโครงการวงแหวนแห่งอันดามัน สำเร็จ จะช่วงส่งเสริมการท่องเที่ยวของ 3 จังหวัดได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการเดินทางโดยทางเรือ ซึ่งนอกจากจะสามารถเดินทางได้รวดเร็วขึ้นแล้ว ยังได้ชมความสวยงามทางทะเล และช่วยลดปัญหาการจราจรทางถนนได้ด้วย