xs
xsm
sm
md
lg

“พระสุธรรมฐิตธัมโม” เผยที่มาโครงการ “เดินด้วยกัน นำพาสันติ” จากใต้สุดสู่เหนือสุดของไทย

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ยะลา - พระสุธรรมฐิตธัมโม หนึ่งในคณะธรรมยาตราแห่งสันติภาพ เผยถึงโครงการ “เดินด้วยกัน นำพาสันติ” จากใต้สุด อ.เบตง จ.ยะลา สู่เหนือสุด อ.เชียงของ จ.เชียงราย หวังให้คนไทยรักกันนำพาประเทศสู่ความสันติ

วันนี้ (16 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีคณะพระสงฆ์ในคณะธรรมยาตราแห่งสันติภาพ ได้จัดทำโครงการ “เดินด้วยกัน นำพาสันติ” จากใต้สุดของประเทศไทย เริ่มต้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา ไปสู่เหนือสุดของประเทศที่ อ.เชียงของ จ.เชียงราย รวมระยะทางกว่า 4,000 กิโลเมตร โดยในวันนี้เป็นวันที่ 3 ของการเดิน โดยได้เดินเข้าสู่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา และแวะพักฉันอาหารเพลที่วัดเนรัญชราวาส อ.บันนังสตา จ.ยะลา และเมื่อฉันอาหารเป็นที่เรียบร้อย ในเวลา 12.00 น.ได้เริ่มเดินออกจาก อ.บันนังสตา จ.ยะลา เข้าสู่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา และจะพักจำวัตรที่ สภ.กรงปินัง เป็นเวลา 1 คืน ก่อนที่จะเดินเข้าสู่เขตตัวเมืองยะลา ในวันพรุ่งนี้

พระสุธรรมฐิตธัมโม เปิดเผยว่า โครงการ “เดินด้วยกัน นำพาสันติ” เกิดขึ้นเพราะคณะพระธุดงค์เพื่อสันติภาพโลก ได้เดินเพื่อสันติภาพไปยังประเทศต่างๆ ซึ่งปีนี้เป็นปีที่ 3 แล้ว โดยปีแรกได้เดินจากประเทศไทยไปสุดทะเลที่ประเทศเวียดนาม และได้ไปเริ่มเดินที่ประเทศสหรัฐอเมริกา จากเมืองซานตามาริกา ไปสุดที่เมืองนิวยอร์ก และปีที่ผ่านมาก็เดินทางจากประเทศไทยไปยังประเทศอินเดีย ปากีสถาน จนถึงประเทศตุรกี ซึ่งตามเป้าหมายเดิมจะต้องเดินรอบโลกไปสุดที่ประเทศฝรั่งเศส รวมระยะทาง 21,000 กิโลเมตร แต่ก็ประสบปัญหาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงต้องหยุดพักการเดินทางในทางประเทศไว้ก่อน


จากนั้นจึงได้มีการประชุมร่วมกับผู้แทนทั้ง 5 ศาสนา ซึ่งประกอบด้วย ศาสนาพุทธ คริสต์ อิสลาม พราหมณ์ และซิกข์ ก็มีความเห็นร่วมกันว่า ที่ผ่านมานั้นได้เดินเพื่อสันติภาพให้แก่หลาย 10 ประเทศแล้ว ก็น่าจะมาเดินเพื่อสันติภาพให้แก่ประเทศเราบ้าง เพราะประเทศไทยก็ประสบปัญหาความไม่สงบสุขเหมือนกับประเทศต่างๆ เช่นเดียวกัน จึงได้เริ่มต้นโครงการ “เดินด้วยกัน นำพาสันติ” โดยโครงการแรกได้เริ่มต้นเดินจากทิศตะวันตกไปยังทิศตะวันออก โดยได้เริ่มเดินที่ อ.แม่สอน จ.เชียงราย ไปสุดที่ จ.มุกดาหาร และครั้งนี้ก็เป็นโครงการครั้งที่ 2 เดินจากใต้สุด คือที่ชายแดน อ.เบตง จ.ยะลา ไปสู่เหนือสุดของประเทศที่ อ.เชียงของ จ.เชียงราย

พระสุธรรมฐิตธัมโม กล่าวอีกว่า การเริ่มเดินโครงการที่ 2 “เดินด้วยกัน นำพาสันติ” จาก อ.เบตง จ.ยะลา เมื่อวันที่ 14 พ.ย.63 จนถึงวันที่ 16 พ.ย.63 ระยะเส้นทางการเดินที่ผ่านมานั้น พบเห็นประชาชนสองข้างทาง มีพี่น้องประชาชนทุกศาสนาให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยเฉพาะพี่น้องมุสลิมที่ได้พบเจอ ได้ให้การต้อนรับ อีกทั้งมีการสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันด้วย นับว่าเป็นความร่วมมือที่ดีระหว่างศาสนา

พระสุธรรมฐิตธัมโม กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับความคาดหวังของโครงการ “เดินด้วยกัน นำพาสันติ” ในครั้งที่ 2 นี้ ก็หวังให้พี่น้องประชาชนได้มีความสนใจในเรื่องของแนวทางสันติวิธีกันบ้าง เพราะสังคมทุกวันนี้มุ่งแต่จะเอาชนะกัน จึงก่อให้เกิดความรู้สึกโกรธกัน เกลียดกัน แม้แต่ในครอบครัวเดียวกันก็ยังมีความรู้สึกเกลียดกัน ซึ่งส่งผลให้เห็นว่าเป็นสัญญาณที่ไม่ดี เพราะเมื่อเราอยู่ด้วยกันแล้ว ความรู้สึกโกรธกัน เกลียดกัน ก็เป็นต้นเหตุแห่งความทุกข์ เมื่อเรามีความทุกข์ เราก็นำความทุกข์ไปสู่ครอบครัว ไปสู่สังคม แล้วก็จะไปสู่ประเทศ


ซึ่งปัญหาตรงนี้เราจะทำอย่างไรให้ได้มีสติ เพราะสติ ก็คือ สันติ มีสมาธิ ก็จะมีปัญญา รู้เท่าทันตามที่เป็นจริง ว่าสิ่งไหนดีสิ่งไหนไม่ดี เมื่อรู้ว่าโกรธไม่ดี เกลียดไม่ดี เราก็อย่าทำ เราก็มาเจริญเมตตากัน ถ้าทุกคนมีสติ มีเมตตาต่อกัน ทุกครอบครัวมีความสุข ทุกจังหวัด ทุกอำเภอมีความสุข ประเทศก็จะมีสันติสุขได้

พระสุธรรมฐิตธัมโม กล่าวอีกว่า ไม่ได้รู้สึกกังวลใจอะไรที่จะต้องมาเดินในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะเหมือนครั้งที่เดินในทวีปอเมริกา ก็มีหลายคนบอกว่า อย่าเดินเลย เพราะว่า ยังมีพวกชนผิวขาวที่มีความรู้สึกเหยียดผิว และชอบทำอันตรายคนต่างชาติ แต่เมื่อไปเดินทำกิจกรรมจริงๆ แล้ว ก็ไม่มีปัญหา ทุกคนก็เห็นด้วยกับการเดินเพื่อสันติภาพ อย่างปีที่ผ่านมาก็เช่นเดียวกันไปเดินในตะวันออกกลาง ทุกคนก็มีความกังวลเพราะในตะวันออกกลางไม่เคยมีพระไปเดิน และการมีพระไปเดินในตะวันออกกลางก็อาจจะทำให้เกิดอันตรายได้ แต่เมื่อไปเดินจริงๆ แล้ว พี่น้องอิสลามทั้งประเทศปากีสถาน ตรุกี และอีกหลายประเทศ ก็ล้วนให้การต้อนรับ ที่นี่ก็เช่นเดียวกัน เมื่อเรามีความปรารถนาดี มีความรู้สึกดีต่อกัน สิ่งที่ได้รับกลับมาก็คือความรู้สึกดีที่ได้รับตอบแทนกลับคืนมา ก็ไม่มีความกังวลเรื่องความปลอดภัยในตรงนี้

พระสุธรรมฐิตธัมโม กล่าวอีกว่า สำหรับโครงการการเดินครั้งที่ 2 นี้ โดยการประชุมก่อนเริ่มโครงการนั้น ได้มีการพูดคุยกันกับทั้ง 5 ศาสนา ถึงโครงการ “เดินด้วยกัน นำพาสันติ” ผู้นำศาสนาอื่นก็มีการพูดคุยกันแล้วว่า ไม่เคยเดินทางไกล อีกทั้งสุขภาพร่างกายด้วย จึงทำให้เห็นว่ามีแต่พระสงฆ์ พระธุดงค์ ที่เดินเท้ากันอยู่ ส่วนผู้นำศาสนาอื่นนั้นก็จะรอให้การต้อนรับ ณ จุดที่ได้มีการประสานขอความร่วมมือไว้ อย่างเช่นพรุ่งนี้ ทางคณะจะเดินไปยังมัสยิดกลางจังหวัดยะลา เพื่อพบกับผู้นำศาสนา ซึ่งผู้นำศาสนาได้ให้ความร่วมมือกันอย่างดี






กำลังโหลดความคิดเห็น