นราธิวาส - โจรใต้ลอบวางระเบิดรถยนต์ทหารพรานบริเวณริมถนนในหมู่บ้านสาวอฮีเล ม.6 ต.สาวอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ขณะกลับจากงานแต่งงาน รถยนต์เสียหายยับ เคราะห์ดีไม่มีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ
วันนี้ (15 พ.ย.) ร.ต.ท.เสกสรร เรืองฤทธิ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.รือเสาะ รับแจ้งมีเหตุคนร้ายจุดชนวนระเบิดรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ทหารพรานชุดกิจการพลเรือน สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 4608 ที่บริเวณริมถนนในหมู่บ้านสาวอฮีเล ม.6 ต.สาวอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ทำให้รถยนต์ได้รับความเสียหาย จึงพร้อมด้วย พ.ต.ต.ศุภชัย ศุภกิจอารักษ์ รอง ผกก.สส.สภ.รือเสาะ เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิดอโณทัย เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารจำนวนหนึ่ง รุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงพบที่บริเวณข้างเสารั้วริมถนนซึ่งเป็นจุดที่คนร้ายลอบวางระเบิด มีหลุมลึก 40 ซม. กว้าง 100 ซม. และมีเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในถังแก๊สปิคนิค น้ำหนัก 25 กก. จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสารตกกระจายเกลื่อนพื้นถนนและพงหญ้าริมทาง และห่างไปประมาณ 200 เมตร พบรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้าวีโก้ แบบตอนครึ่ง สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จอดอยู่ริมถนนซึ่งอยู่ในสภาพถูกอานุภาพของระเบิดที่บริเวณล้อหลังด้านซ้ายมือ ส่วนตัวถังยุบเป็นรูพรุน เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวน จ.ส.อ.จิรศักดิ์ จารณะ รอง ผบ.ร้อย ทพ.4608 ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้นำกำลังรวม 4 นาย นั่งรถยนต์ออกจากฐาน โดยมี อส.ทพ.ภานุวัฒน์ แก้วพิทักษ์ เป็นพลขับเพื่อเดินทางไปร่วมงานแต่งงานบุตรสาวของ นายยีดิง บินวาแม ที่บ้านเลขที่ 65/2 บ.บือเจาะ ม.5 ต.สาวอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เมื่อร่วมงานแต่งเป็นที่เรียบร้อย จ.ส.อ.จิรศักดิ์ รอง ผบ.ร้อย 4608 ได้นำกำลังพลขึ้นรถยนต์กระบะเพื่อกลับฐาน แต่เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนแฝงตัวอยู่ในละแวกจุดเกิดเหตุ ได้ใช้วิทยุสื่อสารจุดชนวนระเบิดที่ลอบนำไปวางไว้ริมถนนจนเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทำให้รถยนต์กระบะของเจ้าหน้าที่ได้รับความเสียหาย โดย อส.ทพ.ภานุวัฒน์ พลขับได้ฝืนขับรถยนต์ออกจากจุดเกิดเหตุ เพราะเกรงคนร้ายจะใช้อาวุธปืนยิงถล่มซ้ำ
ต่อมา พล.ต.ไพศาล หนูสังข์ ผบ.ฉก. นราธิวาส ได้สั่งการสั่งการให้เจ้าหน้าที่สนธิกำลังและนำชุดสุนัขดมกลิ่นเพื่อดักสกัดกลุ่มคนร้าย พร้อมประสานหน่วยที่เกี่ยวข้อง และชุดอาสาภาคประชาชนในพื้นที่ติดตามการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนร้ายดังกล่าว คาดคนร้ายยังคงกบดานในพื้นที่ ส่วนสาเหตุสันนิษฐานเป็นฝีมือกลุ่มก่อความไม่สงบ ดักสังหารเจ้าหน้าที่เพื่อป่วนชายแดนใต้
