นครศรีธรรมราช - กกต.ติวเข้ม 300 ผู้สมัคร ส.อบจ. และนายก อบจ.นครศรีธรรมราช จัดรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งให้อยู่ในกรอบของกฎหมาย จ่อวางบิลค่าเลือกตั้งกับอดีตนายก อบจ.หลังถูกใบแดง
วันนี้ (10 พ.ย.) ที่ศาลาประชาคมโรงละครองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช น.ส.นุชนภางค์ ลิ่มดุลย์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เชิญผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน 8 ราย และผู้สมัครสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราชอีกเกือบ 300 ราย จากทั้งสิ้น 42 เขตเลือกตั้งของจังหวัดนครศรีธรรมราช เข้าประชุมอบรมและทำความเข้าใจกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่น พร้อมทั้งลักษณะต้องห้ามต่างๆ ความรู้ที่เท่าทันในการกระทำผิดทางการเมือง ซึ่งครอบคลุมทั้งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการ ผู้สนับสนุนหรือที่เรียกว่าหัวคะแนน รวมทั้งผู้มีสิทธิเลือกตั้ง สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับกฎหมาย ระเบียบวิธีปฏิบัติในการเลือกตั้งแก่ผู้สมัครรับเลือกตั้งและผู้ที่เกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ อบจ.นครศรีธรรมราช ไม่มีนายก อบจ.นครศรีธรรมราช มากว่า 6 ปี เนื่องจากนายมาโนช เสนพงศ์ นายก อบจ.นครศรีธรรมราช ต้องคดีทุจริตเลือกตั้งส่งผลให้ถูกเพิกถอนสิทธิและพ้นจากตำแหน่ง ทำให้ถูกจับตามองว่า ผู้ที่ต้องคำพิพากษาศาลให้พ้นจากตำแหน่งอาจต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งเกือบ 100 ล้านบาทที่เกิดขึ้นในครั้งนี้
นายพลัฎฐ์ นิลเนาวรัตน์ รองผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า กรณีศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชมีคำพิพากษาให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง นายมาโนช เสนพงศ์ และนายเทพไท เสนพงศ์ โดยไม่ได้กำหนดให้มีการชดใช้ค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งเอาไว้ท้ายคำพิพากษา ในกรณีดังกล่าวนี้ พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่น 62 ได้กำหนดไว้ในบทเฉพาะกาลว่า คดีแพ่งที่เกิดขึ้นตาม พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่น 45 ให้มีผลบังคับใช้ต่อไป ซึ่งในกรณีดังกล่าวนี้ค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งใหม่คณะกรรมการการเลือกตั้งจะต้องฟ้องร้องต่อผู้ที่ทำให้ต้องจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่
ซึ่งในกรณีของ นายมาโนช เสนพงศ์ ยังไม่ปรากฏว่าคณะกรรมการการเลือกตั้งได้ฟ้องร้องให้มีการชดใช้ค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งใหม่ และตามข้อเท็จจริงการเลือกตั้งใหม่ที่เกิดขึ้นในปี 2563 ไม่ได้เกิดขึ้นจากการที่ นายมาโนช เสนพงศ์ ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง แต่เกิดจากการกำหนดให้มีการเลือกตั้งตามมติคณะรัฐมนตรี ดังนั้น ในกรณีดังกล่าวจึงต้องรอข้อเท็จจริงว่าคณะกรรมการการเลือกตั้งจะมีการฟ้องร้องให้มีการชดใช้ค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง หรือ อบจ.นครศรีธรรมราช จะมีการฟ้องร้องเรียกให้มีการใช้จ่ายในการเลือกตั้งใหม่หรือไม่อีกครั้งหนึ่ง
