ศูนย์ข่าวภูเก็ต - “วิสุทธิ์ สันติกุล” อดีตรองนายก อบจ.ภูเก็ต หนึ่งในบุคคลที่คาดว่าจะลงชิงเก้าอี้นายก อบจ.ภูเก็ต ในครั้งนี้ เผยเหตุไม่ลงรับสมัครเลือกตั้ง เพราะต้องการเปิดให้คนรุ่นใหม่เข้ามาเปลี่ยนแปลงภูเก็ต ทำสิ่งใหม่ๆ จากปัจจุบันภูเก็ตได้เปลี่ยนไปหลังโควิด-19 ระบาด
เมื่อเวลา 16.00 น. วันนี้ (6 พ.ย.) ก่อนถึงเวลาปิดรับสมัครเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต นายวิสุทธิ์ สันติกุล นักธุรกิจ และอดีตรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ซึ่งคาดว่าจะเป็นอีกบุคคลหนึ่งที่จะลงชิงชัยสนามนายก อบจ.ภูเก็ต ในรอบนี้ ได้เปิดแถลงข่าวกับสื่อมวลชน ว่า การเลือกตั้งนายก อบจ.ภูเก็ต ในครั้งนี้ ตนไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากเห็นว่าการสมัครรับเลือกตั้งในครั้งนี้มีผู้สมัครหน้าใหม่ที่เป็นคนรุ่นใหม่ลงเลือกตั้ง และเห็นว่าภูเก็ตน่าที่จะเข้าสู่ยุคของการให้คนรุ่นใหม่ที่มีแนวคิดใหม่ๆ มาบริหารภูเก็ต เพื่อที่จะให้ภูเก็ตได้มีการเปลี่ยนแปลงบ้าง และเดินไปข้างหน้า
“จริงๆ แล้ว ผมได้เตรียมพร้อมที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.ภูเก็ต ทั้งในเรื่องของเอกสารต่างๆ แต่ก็ตัดสินใจถอยออกมา เพราะมองว่าภูเก็ตในขณะนี้ไม่ใช่ยุคของผมแล้ว เป็นเรื่องของคนรุ่นใหม่ รุ่นลูก รุ่นหลาน จึงขอถอยออกมาก่อนในครั้งนี้ และขอเว้นวรรคในเรื่องของการเมืองไว้สักระยะหนึ่งก่อน” นายวิสุทธิ์ กล่าวและว่า
ต้องขอขอบคุณผู้ใหญ่ทุกท่านและหลายๆกลุ่มที่ได้ประสายมายังตนเพื่อให้ลงสมัครเลือกตั้งนายก อบจ.ภูเก็ต ในครั้งนี้ แต่ในอนาคตอาจจะเสนอตัวลงสมัครในสนามเลือกตั้งอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นเวทีท้องถิ่นหรือเวทีระดับชาติ ในช่วงนี้ขอให้เป็นสนามเลือกตั้งของคนรุ่นใหม่ ซึ่งการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สอนให้คนภูเก็ตเห็นว่าเราจะอยู่แบบเดิมๆ การบริหารจัดการภูเก็ตในรูปแบบเก่าๆไม่ได้แล้ว ภูเก็ตเปลี่ยนแปลงไปมาก และเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เหมาะกับคนรุ่นใหม่
นายวิสุทธิ์ กล่าวอีกว่า หากคนภูเก็ตต้องการให้ภูเก็ตอยู่แบบเดิม การบริหารแบบเดิมก็เลือกคนเดิมๆ แต่อยากให้ภูเก็ตมีการเปลี่ยนแปลงก็เลือกคนใหม่เข้ามาบริหาร อบจ.ภูเก็ต ซึ่งคิดว่าการเลือกนายก อบจ.ภูเก็ต ครั้งนี้คนภูเก็ตไม่น่าจะพลาดและน่าจะเจ็บแล้วจำว่าเลือกไปแล้วได้ทำประโยชน์อะไรให้แก่ภูเก็ตบ้าง เด็กรุ่นใหม่ที่อายุระหว่าง 16-26 ปี น่าที่จะเป็นพลังในการเปลี่ยนแปลงภูเก็ต เพราะภูเก็ตไม่ได้เลือกตั้งนายก อบจ.มานานแล้ว และการหาเสียงผ่านทางโซเชียลก็มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงภูเก็ต ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้น่าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับภูเก็ต