ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ยายยืนยันเอาเรื่องถึงที่สุดครูถีบหน้าหลานชายอายุ 5 ขวบ ระบุอดทนมานานถูกกระทำหลายครั้ง ด้าน ผอ.โรงเรียนวิชิตสงคราม ตั้งคณะกรรมการสอบวินัยให้หยุดสอนก่อน พร้อมให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย
วันนี้ (6 พ.ย.) นักจิตวิทยา เจ้าหน้าที่เขตพื้นที่การศึกษาจังหวัดภูเก็ตพร้อม ด้วยผู้อำนวยการโรงเรียนวิชิตสงคราม หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว สำนักงานยุติธรรมจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทยอยลงพื้นที่เยี่ยมยายและเด็กชายวัย 5 ขวบ ที่ได้รับบาดเจ็บจาก การถูกครูใช้เท้าถีบเข้าที่ใบหน้าและให้เพื่อนในห้องรุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงและเยี่ยมให้กำลังใจ ซึ่งเหตุดังกล่าวเกิดเมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา และเมื่อวันที่ 5 พ.ย. ยายของเด็กชายได้ร้องเรียนไปยังมูลนิธิปวีณาฯ โดยทางฝั่งของคุณยายของเด็กชายผู้เสียหายยืนยันจะดำเนินคดีต่อครูคนดังกล่าวจนถึงที่สุด
นางวิญญา การนิกร อายุ 56 ปี ยายของเด็กชายวัย 5 ขวบ กล่าวว่า หลานชายถูกครูคนดังกล่าวทำร้ายมาอย่างต่อเนื่อง บางครั้งมีการพูดจาด่าทอในลักษณะว่าหลานชายมีปมด้อยจากการที่ไม่ได้อยู่กับพ่อและแม่ จนหลานชายมาเล่าให้ฟังบ่อยครั้ง แต่ที่ผ่านมา ตนเองอดทนมาตลอด กระทั่งมีการลงโทษหลายครั้ง ทั้งทุบตี ใช้ตัวกระแทกร่างของหลาน มีการลงโทษให้นั่งยองๆ เป็นชั่วโมงจนเด็กปัสสาวะรดกางเกง
ก่อนหน้านี้ เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เคยลงโทษให้กวาดขยะบนถนนในโรงเรียนท่ามกลางแสดงแดดเป็นครึ่งวัน เมื่อกวาดเสร็จก็ให้เพื่อนมา แต่น้องเอาไม้ไปตีโดนหัวของเด็กที่มาตาม ทำให้ครูไม่พอใจเอาน้ำสาดใส่หน้าน้องจนเปียกหมด ยังไม่พอยังเอาไม้กวาดตีน้องอีกจนเจ็บตัว ล่าสุด เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ตนรู้สึกว่าไม่สามารถที่จะทนกับพฤติกรรมของครูคนดังกล่าวได้แล้ว เพราะครูคนดังกล่าวทำเกินกว่าเหตุไป ทำร้ายหลานชายด้วยการถีบเข้าที่หน้าจนได้รับบาดเจ็บบริเวณตาด้านขวาบวมช้ำ นอกจากนั้น ยังให้เพื่อนในห้องมารุมทำร้ายอีกทำให้หลานชายมีอาการหวาดกลัว และบอกว่าจะไม่กลับไปเรียนยังโรงเรียนเดิมอีกแล้ว
จึงตัดสินใจเข้าร้องต่อมูลนิธิปวีณาเพื่อขอความเป็นธรรม แม้ว่าก่อนหน้านี้เคยไปพบกับทางผู้อำนวยการโรงเรียน ซึ่งครูสาวคนดังกล่าวได้จ่ายเงินค่าเยียวยาให้แก่ครอบครัว จำนวน 5,000 บาท แต่มองว่าเป็นการไม่ยุติธรรม และไม่ต้องการให้ครูคนดังกล่าวสอนต่อไป และต้องการที่จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ซึ่งขณะนี้ได้เข้าแจ้งความต่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว เพราะก่อนหน้านี้ ครูทั้งด่า และลงโทษหลานชายมาโดยตลอด รวมทั้งมีการข่มขู่ไม่ให้บอกยาย ถ้านำเรื่องมาบอกยายก็จะตีอีก ความอดทนถึงที่สุดแล้ว ถูกกระทำมาโดยตลอดตั้งแต่อยู่อนุบาล 2
หลังจากนี้ ตนก็จะไม่ให้หลานเรียนที่โรงเรียนดังกล่าวอีกแล้วแม้ว่าจะไม่ให้ครูที่ก่อเหตุสอนเด็กแล้วก็ตาม ครูแบบนี้ไม่ควรที่จะเป็นครูต่อไป ควรที่จะเอาออกไป หลานก็กลัวไม่กล้าที่จะไปโรงเรียนอีกแล้ว
ยายยังกล่าวต่อไปว่า เบื้องต้น เข้าใจว่าหลานชายเป็นเด็กซุกซนการลงโทษถ้าเด็กทำผิดตนก็รับได้ สำหรับเหตุการณ์ล่าสุดครูคนที่ก่อเหตุอ้างว่าหลานชายเอาหัวเพื่อนโขกกับพื้นห้อง ถ้าเด็กทำผิดครูควรมีวิธีการตักเตือน หรือหากจะตีก็ควรใช้เหตุผลมากกว่าการลงโทษด้วยอารมณ์ ที่สำคัญคือ สาเหตุที่ตัดสินใจเอาเรื่องครูคนดังกล่าวเพราะไม่ต้องการให้ครูสาวรายนี้กระทำกับเด็กนักเรียนคนอื่นๆ เหมือนกับที่กระทำกับหลานชายของตนอีก
ขณะที่นายพงศ์ธร จันพลโท ผู้อำนวยการโรงเรียนวิชิตสงคราม กล่าวว่า หลังเกิดเหตุการณ์ทางโรงเรียนไม่ได้นิ่งนอนใจ ทันทีที่ทราบว่าเด็กถูกครูทำร้าย ในวันเกิดเหตุได้นำตัวเด็กไปรักษาที่โรงพยาบาลสิริโรจน์ในทันที และได้เรียกครูที่ก่อเหตุมาสอบถามและให้เขียนรายงานเบื้องต้น โดยขณะนี้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนเอาผิดทางวินัยครูคนดังกล่าว และหยุดปฏิบัติหน้าที่การสอนแล้วในระหว่างรอผลการสอบสวน
ผู้อำนวยการโรงเรียน กล่าวต่อไปว่า ขอยืนยันว่าทางโรงเรียนจะให้ความเป็นธรรมกับทางเด็กชายที่ถูกทำร้ายและครอบครัวอย่างถึงที่สุด และจะไม่ปกป้องครูที่กระทำความผิด สำหรับครูที่ก่อเหตุถีบหน้าเด็กส่วนเรื่องที่ทางผู้ปกครองแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายนั้นก็ต้องว่ากันไปตามข้อเท็จจริง ซึ่งเป็นหน้าที่ของทางตำรวจที่จะสืบสวนหาข้อเท็จจริง แต่ในส่วนของโรงเรียนก็จะดำเนินการตามระเบียบ
