นครศรีธรรมราช - บุกจับเครือข่ายผสมหัวน้ำหวานสูตรต้มน้ำกระท่อม ใน อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ผู้ต้องหาสารภาพขายลิตรละ 600-700 บาท เผยใช้ “ยาฝาทอง” ผสมสูตรเอง พบสามีผู้ต้องหาเคยถูกจับกุมดำเนินคดีแล้ว แต่ครั้งนี้ภรรยายังกลับมาผลิตซ้ำอีก
วันนี้ (30 ต.ค.) มีรายงานว่า พ.ต.อ.สุขเกษม นครวิลัย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช พ.ต.ท.สวัสดิ์ นิยมเดชา สารวัตรใหญ่หัวหน้า สภ.เกาะทวด พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำหมายค้นจากศาลจังหวัดปากพนัง เข้าตรวจค้นเป้าหมายบ้านเลขที่ 153 หมู่ 6 ต.เกาะทวด อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นแหล่งผลิตน้ำหวาน 1 ใน 2 ราย โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบภายในบ้าน พบว่า มีแกลลอนบรรจุของเหลวสีแดง ลักษณะคล้ายน้ำเชื่อม อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ต้นพืชกระท่อม น้ำเชื่อมยี่ห้อหนึ่งที่ผู้ต้องหาใช้ผสมกับสีแดง และยาที่ผู้ต้องเรียกว่า “ยาฝาทอง”
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว น.ส.สราลี ทองบางพระ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ดังกล่าว และตกเป็นผู้ต้องหา โดยได้ถูกตั้งข้อหาผลิตยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (พืชกระท่อม) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย ส่วนน้ำเชื่อมที่ตรวจยึดได้นั้น เจ้าหน้าที่จะต้องนำส่งตรวจพิสูจน์สารประกอบ สารตั้งต้น ตามขั้นตอนว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่
พ.ต.ท.สวัสดิ์ นิยมเดชา สารวัตรใหญ่หัวหน้าสถานีตำรวจภูธรเกาะทวด ระบุว่า เมื่อปี 2562 เจ้าหน้าที่ได้เข้าจับกุม นายสามารถ หรือบอย อธิตัง สามีของ น.ส.สราลี โดยครั้งนั้นได้ถูกตั้งข้อหาขายยาแผนปัจจุบัน (หัวน้ำหวานผสมสมยาแก้ไอใส่ในน้ำกระท่อม) โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ พบว่า มีการผสมสาร “มีทราจีไน” และ “คลอเฟนิรามีน” หรือยาอันตราย กลุ่มยาแก้แพ้ลำดับที่ 32 ตามบัญชียาอันตราย นายสามารถ ถูกลงโทษจำคุกแต่ให้รอลงอาญา 2 ปี ทำให้ น.ส.สราลี ต้องดำเนินการผสม และขายหัวน้ำหวานแก่ผู้เสพน้ำกระท่อมแทน จนกระทั่งมาถูกจับกุมดังกล่าว
ขณะที่ น.ส.สราลี เปิดเผยว่า เดิมได้ซื้อน้ำเชื่อม หรือหัวน้ำหวานมาจากเพื่อนมารับประทานกันเอง หลังจากนั้นได้เริ่มผสมขายเอง โดยสามีใช้ยาชนิดหนึ่งซึ่งเรียกว่า “ยาฝาทอง” เป็นตัวผสม จากนั้นได้นำมาแบ่งขายให้แก่ผู้ซื้อในราคาลิตรละ 500-700 บาท และมีการส่งขายผ่านระบบขนส่งพัสดุเอกชนให้แก่ผู้ซื้อในต่างจังหวัดด้วย
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้เร่งสืบสวนติดตามแหล่งค้าอีกแหล่งที่อยู่ในพื้นที่ โดยศาลได้ออกหมายค้นมาพร้อมกันกับบ้านของ น.ส.สราลี แต่บ้านอีกหลังรู้ตัวล่วงหน้า โดยได้ปิดบ้าน และหลบหนีออกจากบ้านไปก่อนที่เจ้าหน้าที่จะไปถึง
