ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - สีสันพิธีลุยไฟในกองฟืนแห่งเดียวของ จ.สงขลา ในช่วงเทศกาลกินเจ โดยนำเอาไม้ฟืนยาวประมาณ 2 เมตร มาสุมเป็นแนวตั้งแล้วก่อกองไฟ และให้ม้าทรงฝ่าเถ้าถ่านแดงฉาน และร้อนระอุ ในงานเทศกาลถือศีลกินเจเมืองสงขลาปีนี้
เมื่อคืนนี้ที่ปะรำพิธีหน้าท่าเทียบเรือประมงเก่า ตรงข้ามพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสงขลา ถนนวิเชียรชม อ.เมือง จ.สงขลา ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานเทศกาลถือศีลกินเจ ครั้งที่ 11 ประจำปี 2563 ที่เทศบาลนครสงขลา ร่วมกับศาลพระแม่กวนอิมสวนหมาก พระตำหนักกวนซีอิมผ่อสัก เคหะสถานครูไทย และ 5 สมาคมจีนจังหวัดสงขลา ร่วมกันจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-26 ตุลาคม 2563
โดยได้มีการจัดพิธีลุยไฟสะเดาะเคราะห์ ซึ่งเป็นหนึ่งในพิธีกรรมสะเดาะเคราะห์ล้างบาป และสิ่งอัปมงคลออกจากตัว ตามความเชื่อในช่วงเทศกาลกินเจ ซึ่งเป็นพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ที่ประชาชนเคารพนับถือ และปฏิบัติกันมาอย่างยาวนาน ท่ามกลางประชาชนชาวสงขลามาร่วมงานกันอย่างเนืองแน่นรอบบริเวณพิธีลุยไฟ
ซึ่งพิธีลุยไฟที่นี่มีการนำไม้ฟืนยาวประมาณ 2 เมตร มาสุมรวมกันเป็นแนวตั้ง และจุดไฟ เพื่อให้เหลือเพียงเถ้าถ่านที่แดงก่ำ ซึ่งแตกต่างจากที่อื่นที่ส่วนใหญ่จะนำถ่านมาเผา จากนั้นจึงอัญเชิญองค์พระขึ้นประทับบนเกี้ยว บรรดาร่างทรงแบกหามเกี้ยวองค์พระอันศักดิ์สิทธิ์เดินเข้าในบริเวณพิธี และเวียนรอบกองไฟ 3 รอบ นำมาประดิษฐานหน้ากองไฟ
ต่อจากนั้นร่างทรงก็เริ่มเดินลุยผ่านกองไฟที่มีถ่านเป็นสีแดง เพื่อแสดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ของร่างทรงของแต่ละคน รวมทั้งผู้ที่ถือศีลกินเจ และมีใจกล้าก็ร่วมเดินลุยไฟในพิธีด้วย เพื่อชำระล้างบาป และสิ่งชั่วร้ายที่ไม่ดี เพื่อความเป็นสิริมงคลตามความเชื่อที่สืบทอดกันมา ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสีสันของเทศกาลกินเจในปีนี้