xs
xsm
sm
md
lg

แผนลึก BRN ยั่วยุรัฐใช้ความรุนแรง หวังเก็บเกี่ยวมวลชนในทุกแนวรบ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



โดย…ไชยยงค์ มณีพิลึก


แม้ว่า นับตั้งแต่ 1 ต.ค.เป็นต้นมา แนวร่วมหรือสมาชิกขบวนการแบ่งแยกดินแดน “บีอาร์เอ็น” จะการก่อการร้ายรายวันถี่ๆ ซึ่งเป็นไปตาม “วงรอบ” ที่แกนนำได้วางยุทธศาสตร์ไว้ แต่เนื่องจากการก่อการดังกล่าว ตรงกับห้วงเวลาของการปรับเปลี่ยนตำแหน่ง “แม่ทัพ นายกอง” ในพื้นที่ ทั้งแม่ทัพภาคที่ 4 รองแม่ทัพภาคที่ 4 รอง ผอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า และ ผบ.ฉก. รวมทั้งในส่วนของตำรวจและฝ่ายปกครองก็ปรับเปลี่ยนตำแหน่งผู้บังคับการและผู้ว่าราชการจังหวัด คนทั่วไปจึงมองว่า เป็นการก่อการร้าย เพื่อต้อนรับแม่ทัพภาคที่ 4 คนใหม่

ในความเป็นจริง พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 คนใหม่ ไม่ได้ข้ามห้วยมาจากที่ไหน แต่ก้าวขึ้นมาจากตำแหน่งรองแม่ทัพภาคที่ 4 และเป็น “มือทำงาน” ข้างกาย พล.อ.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 คนก่อน ที่ได้รับมอบหมายให้ลงพื้นที่เพื่อปฏิบัติการป้องกันเหตุในพื้นที่ อีกทั้งยังได้รับการผลักดันจาก พล.อ.พรศักดิ์ ให้เป็นแม่ทัพภาคที่ 4 คนใหม่ เพื่อสานต่อปฏิบัติการต่างๆ ที่ยังต้องเดินหน้าต่อไป

ในด้านการข่าวชี้ว่า ปฏิบัติการวางระเบิดแสวงเครื่องรถยนต์เจ้าหน้าที่ทหาร รถยนต์ ศอ.บต. ซุ่มยิงทหาร และฆ่าคนในพื้นที่ โดยมีการเปลี่ยนพื้นที่ปฏิบัติการจาก จ.ปัตตานี มาเป็น จ.นราธิวาส อาจจะมี ”นัย” แฝงเร้น

ว่ากันว่า บีอาร์เอ็นต้องการให้ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าใช้ความรุนแรงดับไฟใต้ ต้องการยั่วยุให้เจ้าหน้าที่ใช้กำลังปิดล้อม ตรวจค้น จับกุม และวิสามัญฯ ผู้ที่มีหมายจับ!


ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ศพของแนวร่วมที่เสียชีวิตจากการถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญฯ จะไม่อาบน้ำศพตามหลักศาสนาอิสลาม จะมีการยกระดับผู้ตายให้เป็น “นักรบของพระเจ้า” ที่เสียชีวิตจากสงครามศาสนา หรือ "จีฮัด" และจะมีคนในพื้นที่ ซึ่งเป็นวัยรุ่นจำนวนมากร่วมกันแห่แหนศพ ราวกับเป็น “วีรบุรุษ” ทั้งที่โดยข้อเท็จจริง เขาเป็นผู้ที่อยู่ในขบวนการแบ่งแยกดินแดนที่ตามกฎหมายไทย คือ ขบถ, อั้งยี่ นั่นเอง

ฝ่ายการเมืองของบีอาร์เอ็นประเมินแล้วว่า
บีอาร์เอ็นจะได้ผลทางบวกจากการที่สมาชิกเสียชีวิตจากการใช้ความรุนแรงของเจ้าหน้าที่รัฐจะทำให้มีมวลชนเพิ่มขึ้น ทำให้คนในหมู่บ้าน ในกำปงนั้นเกลียดชังและเป็นศัตรูกับเจ้าหน้าที่รัฐมากขึ้น


แกนนำจึงได้มีการสั่งการว่า หากเกิดความสูญเสียของแนวร่วม ห้ามมิให้ปฏิบัติการเอาคืน ห้ามแก้แค้น เพราะการเป็นการทำจากความความโกรธ ขาดความรอบคอบ อาจผิดพลาด และสูญเสียเพิ่มเติม แต่ให้ปฏิบัติการตามแผน โดยรอจังหวะเวลาที่ฝ่ายเจ้าหน้าที่เปิดช่องให้ และที่น่าสนใจ แกนนำยังสั่งการให้ฝ่าย “อีบู” ช่วยเหลือครอบครัวผู้ที่สูญเสียจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐด้วยความรวดเร็ว ก่อนที่การช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่รัฐจะเข้าไปถึง


นอกจากนี้ แกนนำยังสั่งการฝ่ายการเงินในพื้นที่เพิ่มเติมว่า ให้ช่วยสนับสนุนทางการเงินแก่หน่วยงานที่ช่วยเหลือทางกฎหมายแก่แนวร่วมของขบวนการที่ถูกจับกุมในการต่อสู้คดีและเรื่องทางกฎหมาย เช่น การเรียกร้อง การร้องเรียนของญาติๆ ซึ่งยังมีอีกมากมายเป็นการสั่งการของแกนนำซึ่งอยู่ในประเทศมาเลเซีย มายังแกนนำในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา ปฏิบัติตามแผนในการสร้างมวลชน

การขึ้นมาเป็น “แม่ทัพ” ของ พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ ซึ่งเป็นผู้ที่ทำงานด้านมวลชนมาโดยตลอด เรียกได้ว่า เป็น "จุดแข็ง" ของ พล.ท.เกรียงไกร ที่บีอาร์เอ็นหวั่นใจว่า จะไม่ใช้ความรุนแรงกับขบวนการในพื้นที่ และจะไม่ใช้กฎหมายเพื่อเอาผิดกับประชาชน โดยเฉพาะกลุ่ม “แนวร่วมมุมกลับ” ซึ่งจำเป็นต้องให้การช่วยเหลือและให้ที่พักพิงกับกลุ่มติดอาวุธที่เข้ามาปฏิบัติการในหมู่บ้าน

ไม่เฉพาะบีอาร์เอ็นเท่านั้นที่ต้องการให้ พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 คนใหม่ ใช้ยุทธการที่เด็ดขาดและเข้มข้นในการกวาดล้างแนวร่วมขบวนการแบ่งแยกดินแดนในพื้นที่ ยังมีองค์กรระหว่างประเทศอีกหลายสิบกลุ่มก็ต้องการให้ใช้ความรุนแรงในการดับไฟใต้ เพราะจะเข้าทางที่องค์กรเหล่านั้นจะได้รายงานว่า สถานการณ์ไฟใต้ คือ อาร์มคอนฟิก เพื่อที่ในอนาคตจะได้มีช่องทางเข้ามาแทรกแซงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ตามที่ต้องการ

สถานการณ์ของพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
ที่บางช่วงเงียบผิดปกติ ไม่ได้หมายความว่าบ้านเมืองมีความเรียบร้อย และผู้มีหน้าที่รับผิดชอบเดินมาถูกทางแล้ว เพราะวันนี้ ขบวนการบีอาร์เอ็นในส่วนหัว ที่มีฐานที่มั่นในรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ไม่ได้หยุดนิ่ง แต่มีการเดินหน้า เน้นงานด้านการเมือง ทั้งในพื้นที่และต่างประเทศเป็นด้านหลัก เพื่อแย่งความได้เปรียบ รอเวลาในการทำสงครามแย่งชิงดินแดนครั้งใหม่


แน่นอน นี่ไม่ใช่สงครามที่จบลงด้วยการยึดครองดินแดนได้โดยการโจมตีทางอาวุธและกำลังพล แต่เป็นสงครามที่มีองค์กรต่างประเทศเข้ามาเป็นผู้จัดการ เพื่อให้เป็นไปตามความประสงค์ของคนในพื้นที่ ซึ่งวันนี้อยู่ระหว่างการ "สัประยุทธ์" ระหว่าง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) กับ ขบวนการบีอาร์เอ็น ซึ่งเป็นสงครามใต้ดิน ที่คนในพื้นที่อาจจะมองไม่เห็น และไม่เข้าใจ

บีอาร์เอ็นไม่ได้หยุดนิ่ง บีอาร์เอ็นกำลังขยายฐานไปยังรัฐซาบาห์ ประเทศมาเลเซีย บีอาร์เอ็นกำลังสร้างหมู่บ้านแนวชายแดน ตั้งแต่ อ.แว้ง-ตากใบ จ.นราธิวาส จนถึง อ.วังประจัน จ.สตูล โดยจัดกิจกรรมเล็กๆ ในพื้นที่เต็มไปหมด ตั้งแต่กีฬาต่างๆ
เพื่อสร้างความสัมพันธ์ในขบวนการ แม้แต่การแต่งเพลงอนาซีดใหม่ๆ เพื่อเป็นการปลุกใจแนวร่วม เหล่านี้คือสิ่งที่เจ้าหน้าที่รัฐเห็น แต่เข้าไม่ถึง และยังขาดการที่จะทำลายล้าง


แม้แต่เรื่องการเคลื่อนไหวเพื่อการพูดคุยสันติสุข ที่ พล.อ.วันลพ รักเสนาะ หัวหน้าคณะพูดคุยอยู่ระหว่างเดินสายพบปะผู้นำมุสลิมกลุ่มต่างๆ ในพื้นที่ ก็ถูกแกนนำสั่งให้แนวร่วมในพื้นที่เก็บรายละเอียด “ทุกเม็ด ทุกประเด็น” เพื่อประโยชน์ต่อการขับเคลื่อนทางการเมืองในเวทีโลก

ก็ต้องจับตากันต่อไปว่า พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 คนใหม่ จะใช้ยุทธศาสตร์ในงานการเมือง งานด้านมวลชนที่ถนัด เพื่อ "ปิดจ๊อบ" งานการเมืองของบีอาร์เอ็นอย่างไร จนถึงวันนี้แม่ทัพภาค 4 คนใหม่ยังไม่ได้แถลงอย่างเป็นทางการถึงนโยบายดับไฟใต้ ให้คนในพื้นที่ได้ฟังวิสัยทัศน์ ได้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นจากการที่มีแม่ทัพภาคที่ 4 คนใหม่ในครั้งนี้


กำลังโหลดความคิดเห็น