สุราษฎร์ธานี - ผู้ช่วยพยาบาลสาวศูนย์ฟอกไต โรงพยาบาลค่ายววิภาวดีรังสิต สุดแสบ! หลอกตุ๋นหลอกเงินผู้ป่วยโรคไตและเพื่อนร่วมงานกว่า 3 ล้าน เผ่นหนีหายไร้เงา ผู้เสียหายจึงแห่แจ้งความดำเนินคดี ในขณะที่ผู้ป่วยหญิงสูงอายุร่ำไห้ผ่านสื่อขอให้นำเงินมาคืนเพื่อนำไปใช้จ่ายค่าฟอกไตเทียม
วันนี้ (19 ต.ค.) ที่ตึกศูนย์ฟอกไต โรงพยาบาลค่ายวิภาวดีรังสิต จ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ผู้ป่วยโรคไต และเจ้าหน้าที่ได้ร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าวว่า มีผู้ช่วยพยาบาลสาว อายุ 33 ปี หน้าตาดี และทำงานในตำแหน่งผู้ช่วยเจ้าหน้าที่ในตึกศูนย์ฟอกไต มานาน 8-9 ปี ได้หลอกยืมเงินคนไข้ที่ป่วยโรคไตและเพื่อนร่วมงาน อีกทั้งได้เปิดเป็นวงแชร์รายเดือน มือละ 3,000-5,000 บาท และเชิดเงินหนีไปมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท โดยมีผู้เสียหายถึง 42 คน ซึ่งทางผู้เสียหายบางรายได้นำหลักฐานการยืมเงินและข้อความที่คุยในกลุ่มไลน์รวบรวมเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีที่ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ตั้งแต่วันที่ 14 ต.ค.แล้ว โดยทางพนักงานสอบสวนยังอยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเตรียมออกหมายจับ
นางสุวรรณี สุดจำนงค์ อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 142 ม.2 ต.สมอทอง อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ตนเองป่วยเป็นโรคไตมานานและต้องฟอกไตสัปดาห์ละ 3 ครั้งทุกวันจันทร์ /พุธ/เสาร์ มีค่าใช้จ่ายครั้ง 2,000-2,500 บาท ซึ่งตนเองได้เก็บเงินสะสมเก็บเล็กผสมน้อยได้ 1 แสนกว่าบาทเพื่อเป็นค่าใช้จ่าย แต่ถูกผู้ช่วยพยาบาลคนนี้หลอกยืมเงินไปจำนวน 120,000 บาท ผู้ช่วยพยาบาลคนนี้เข้ามาตีสนิท พูดเพราะ ตนเชื่อสนิทใจ เข้ามาร้องห่มร้องไห้บอกว่าตนเองมีความเดือดร้อน มีความจำเป็นต้องใช้เงินมาก หากป้าไม่ช่วยเหลือแล้ว ไม่มีใครช่วย ด้วยความสงสาร ตนเองก็ให้ยืมไปหลายครั้ง รวมจนเป็นเงิน 120,000 บาท
จากนั้นก็ติดต่อไม่ได้ หนีหายไปเลย และหลอกยืมเงินเพื่อนร่วมงานด้วย ตนเองคาดไม่ถึงว่ารู้จักกันมานาน 8-9 ปีจะทำกันได้ ตนคิดเป็นลูกเป็นหลาน ถ้ายังไงขอให้มาพูดคุยกัน มาพบหน้ากัน มีปัญหาอะไรให้บอก ผ่อนจ่ายป้าทีละนิดก็ได้ ป้าไม่ว่าอะไร ขอให้ติดต่อมาเพื่อตนจะได้นำเงินมาเป็นค่ารักษาพยาบาลในการฟอกไต ที่มีรายจ่ายในการฟอกไตครั้งละ 1,500 บาท ซึ่งผู้ป่วยรายนี้ได้ร่ำไห้วอนผ่านสื่อ
ด้านผู้ป่วยชายอีกราย ระบุว่า ตนก็ถูกหลอกยืมเงินไปหลายครั้งรวมแล้วเกือบ 200,000 บาท
เช่นเดียวกันกับ น.ส.จิราพร หีตหนู แม่บ้าน ห้องแผนกไตเทียม กล่าวว่า รู้จักกับผู้ช่วยพยาบาลคนนี้มาตั้งแต่วันแรกที่เข้าทำงานเมื่อ 8-9 ปีที่แล้ว กินข้าวด้วยกัน เจอหน้ากันทุกวันไม่คิดว่าจะทำกับตนเองและเพื่อนร่วมงานได้ ช่วงแรกที่เข้ามาทำงาน ตีสนิทคุยเรื่องงาน และขอร้องไม่ให้เพื่อนร่วมงานบอกว่ามาทำงานที่โรงพยาบาลแห่งนี้เพราะเคยทำความผิดมาแต่ได้รับโทษแล้ว ตนเองก็ให้ความร่วมมือและเห็นว่าควรให้โอกาส จนกระทั่งเวลาผ่านไปหลายปี ทำตัวปกติดียืมเงินก็คืนดีแต่ช่วงหลังเปิดเป็นวงแชร์ ชักชวนให้เพื่อนและคนไข้ ญาติคนไข้เล่นแชร์ ตนเองตอนแรกบอกไม่เล่นแล้วเพราะเคยถูกโกง แต่ถูกคะยั้นคะยอ จึงใจอ่อนยอมเล่น และจะต้องได้เงินแชร์งวดวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา แต่ว่าผู้ช่วยพยาบาลคนนี้หลบหนีหายไปไม่มาทำงานตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค.แล้ว ปิดเฟซ ปิดไลน์ โทรศัพท์ติดต่อไม่ได้ เมื่อสอบถามไปทางสามีเพราะเงินค่าแชร์ที่โอนเข้าไปผ่านบัญชีสามีผู้ช่วยพยาบาลก็ได้รับคำตอบว่าไม่รู้ ไม่เห็น ไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น
“อยากให้ผู้ช่วยพยาบาลคนนี้ติดต่อกลับมาพูดคุยกันกับผู้ป่วย ญาติผู้ป่วย และเพื่อนร่วมงาน มีปัญหาอะไรให้บอก ไม่ใช่หลบหนีหายไปเฉยๆ แบบนี้ สงสารคนไข้ บางส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุทั้งนั้นกว่าเขาจะเก็บเงินได้เพื่อรักษาตัวใช้เวลานานเกือบทั้งชีวิต” แม่บ้านแผนกไต กล่าวในที่สุด