ยะลา - รองนายกฯ ประวิตร ลงพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ เผยพอใจความก้าวหน้างานพัฒนาและความมั่นคง พร้อมสั่งการทุกภาคส่วนสนับสนุนการทำงาน ศอ.บต. เพื่อให้ประชาชนได้รับผลประโยชน์สูงสุด
วันนี้ (17 ต.ค.) ที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะรัฐมนตรี และ ส.ส.ลงพื้นที่ติดตามงานด้านการพัฒนาและความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมี พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. รายงานความก้าวหน้างานด้านการพัฒนา และ พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 และ ผอ.รมน.ภาค 4 รายงานการรักษาความมั่นคงในพื้นที่
พล.อ.ประวิตร เปิดเผยว่า พึงพอใจกับความก้าวหน้าการพัฒนาและความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมี ศอ.บต. กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า และผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นผู้นำในการขับเคลื่อน โดยมีข้าราชการทุกภาคส่วนให้ความร่วมมือในการดำเนินงานเป็นอย่างดี เพื่อให้ประชาชนมีความมั่นใจว่า ภาครัฐตั้งใจพัฒนาพื้นที่ให้เกิดผลประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน และเพื่อให้คนในพื้นที่อาศัยอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ
“การพัฒนาที่ ศอ.บต. ดำเนินการขึ้น สร้างงาน สร้างรายได้และสร้างความเจริญรุ่งเรืองแก่ประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงขอให้ข้าราชการทุกภาคส่วนในพื้นที่สนับสนุนการดำเนินงานของ ศอ.บต.ทุกโอกาส ไม่ว่าโครงการใดที่เล็งเห็นว่าประชาชนจะได้รับผลประโยชน์ เช่น โครงการขับเคลื่อนปูทะเลในพื้นที่ ส่งเสริมการปลูกไผ่เศรษฐกิจ กาแฟ โครงการป่า 3 อย่างประโยชน์ 4 อย่าง และอื่นๆ เพื่อให้มีการขับเคลื่อนให้ประสบผลสำเร็จ ให้ประชาชนมีอาชีพนำไปสู่การลดความรุนแรง” พล.อ.ประวิตร กล่าว
สำหรับงานด้านการพัฒนา ศอ.บต. รายงานว่า ได้พัฒนาเพื่อสร้างความมั่นคง กินดีอยู่ดี ลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรม 3 ด้าน คือ ด้านเศรษฐกิจ สังคม และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นในด้านเศรษฐกิจ มีการส่งเสริมการเลี้ยงปูทะเล ในพื้นที่ จ.ปัตตานี เพื่อยกระดับจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นเมืองปูทะเลโลก โดยตั้งเป้าสนับสนุนประชาชนพื้นที่ชายฝั่ง 10 อำเภอ ตั้งแต่ อ.จะนะ จ.สงขลา ถึง อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เพื่อสร้างอาชีพเสริมแก่พี่น้องชายฝั่ง
นอกจากนี้ ยังมีการส่งเสริมปลูกพืชเศรษฐกิจร่วมกับแปลงเกษตรเดิม โดยส่งเสริมการปลูกไผ่ นำร่อง 6,000 ไร่ เพื่อป้อนโรงงานและโรงไฟฟ้าชีวมวลในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และตั้งเป้าขยายพื้นที่เพาะปลูกอีก 30,000 ไร่ ส่งเสริมปลูกกาแฟโรบัสต้าคุณภาพภาคใต้ ร่วมกับคาเฟ่ อะเมซอน บริษัท ปตท. เพื่อสร้างอาชีพ พร้อมกับการขับเคลื่อนเมืองต้นแบบทั้ง 4 เมือง คือ เมืองจะนะ เมืองหนองจิก เมืองเบตง และเมืองสุไหงโก-ลก
สำหรับความก้าวหน้าด้านสังคม ศอ.บต.ดำเนินการจัดทำบัตรรับรองสถานะชั่วคราวแก่กลุ่มโอรังซาไก กลุ่มชาติพันธุ์โอรังอัสรี พร้อมเตรียมการจัดทำบัตรประชาชนให้ คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จให้เป็นของขวัญปีใหม่ นอกจากนี้ ยังมีการแก้ไขปัญหากลุ่มคนไร้สัญชาติ หรือไร้สถานะทางทะเบียนราษฎรในพื้นที่กว่า 13,000 คน โดยการพิสูจน์ DNA และตรวจสอบด้านอื่นๆ พร้อมดูแลและพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มคนเปราะบาง ขาดโอกาส พัฒนาสังคมและทรัพยากรมนุษย์ โดยมุ่งแก้ปัญหาสาธารณสุขและสุขอนามัยแม่และเด็ก การเสียชีวิตของเด็กจากโรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน ภาวะทุพโภชนาการในเด็กแรกเกิดและเด็กเล็ก
นอกจากนี้ ศอ.บต. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการเร่งรัดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่จะเอื้อต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ ปรับพื้นที่สถานีรถไฟ ให้เป็นสถานีเพื่อการขนส่งแก่เกษตรกรและผู้ประกอบการทุกระดับ เร่งรัดก่อสร้างท่าเรือ ให้เป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งในระดับอนุภูมิภาค เชื่อมโยงประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งออกเอกสารสิทธิที่ดินทำกินเพื่อให้ประชาชนมีสิทธิทำกิน