xs
xsm
sm
md
lg

ม.อ.ชง ครม.ผุดศูนย์สุขภาพนานาชาติอันดามัน สร้างรายได้เพิ่มจากการท่องเที่ยวปีละ 62,000 ล้าน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ม.อ. ชง ครม.ผุดโครงการศูนย์สุขภาพนานาชาติอันดามัน ขับเคลื่อนประเทศไทยก้าวสู่การเป็น Medical Hub คาดใช้งบกว่า 5,100 ล้านบาท สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มจากปี 62 ไม่น้อยกว่า 62,000 ล้านบาท


วันนี้ (16 ต.ค.) ที่โรงแรมเมโทรโพลภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต รองศาสตราจารย์ ดร.พันธ์ ทองชุมนุม รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมระดมความคิดเห็น การสร้างศูนย์สุขภาพนานาชาติอันดามัน มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมจากหลายภาคส่วนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตและจังหวัดในกลุ่มอันดามัน ทั้งจากหน่วยงานสาธารณสุข หน่วยงานราชการ หอการค้าจังหวัด องค์กรเอกชน ธุรกิจท่องเที่ยว และประชาชนชาวจังหวัดภูเก็ต

สำหรับโครงการดังกล่าว ทางมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มีแผนจะดำเนินการสร้างศูนย์สุขภาพนานาชาติอันดามัน มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต เพื่อให้ประชาชนในจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดในกลุ่มอันดามันได้รับบริการรักษาโรคซับซ้อนต่างๆ ที่ต้องอาศัยเครื่องมือที่ทันสมัย และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะ เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ ซึ่งสถานพยาบาลในพื้นที่ไม่สามารถรองรับได้ รวมถึงการลดค่าใช้จ่ายของประชาชนในการส่งตัวไปรักษาโรคซับซ้อนนอกพื้นที่

นอกจากนี้ ยังช่วยกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว หลังสถานการณ์ COVID-19 คลี่คลาย เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติระดับ Premium ให้เข้ามาท่องเที่ยวในเชิงสุขภาพ รวมทั้งเป็นการเตรียมความพร้อมการรองรับสังคมผู้สูงวัย ซึ่งเป็นการดำเนินการที่สอดคล้องต่อยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ซึ่งมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์มีความพร้อมอย่างมากทั้งบุคลากร เครื่องมือ ความเชี่ยวชาญด้านการแพทย์ โดยได้มีการบรรจุโครงการดังกล่าวในแผนยุทธศาสตร์ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ พ.ศ.2561-2565


สำหรับการจัดประชุมระดมความคิดเห็นในครั้งนี้ สืบเนื่องจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ได้มอบหมายให้ศูนย์พัฒนานวัตกรรมด้านการบริหารจัดการ (MIDC) คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้ในการดำเนินแผนงานศูนย์สุขภาพนานาชาติอันดามัน มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต ที่สอดคล้องต่อบริบทของจังหวัดภูเก็ต เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการดำเนินโครงการต่อไป โดยผู้เข้าร่วมการประชุมจะได้รับฟังข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดของโครงการศูนย์สุขภาพนานาชาติอันดามัน มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต และจะมีการแบ่งกลุ่มย่อยเพื่อระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับการดำเนินการสร้างศูนย์สุขภาพนานาชาติอันดามัน มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ตดังกล่าว

ทั้งนี้ โครงสร้างการดำเนินงานของศูนย์สุขภาพนานาชาติอันดามัน ประกอบด้วย 4 ภารกิจหลัก ได้แก่ (1) โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ภูเก็ต สถานที่ตั้งในวิทยาเขตภูเก็ต เน้นการบริการ Tertiary Care การแพทย์แม่นยำ การแพทย์ทางไกล การบริการนักท่องเที่ยวต่างชาติระดับ Premium การส่งต่อผู้ป่วยระหว่างภูเก็ต-หาดใหญ่ (2) โรงพยาบาลทันตกรรมสงขลานครินทร์ภูเก็ต สถานที่ตั้งบริเวณสะพานหิน เน้นบริการทันตกรรมครบวงจร และการบริการทันตกรรมแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ

(3) Wellness Center สถานที่ตั้งในศูนย์กีฬาและที่พักในวิทยาเขตภูเก็ต เน้นการดูแลผู้สูงอายุ การใช้กีฬาบำบัด การใช้แพทย์แผนไทย และ (4) วิทยาลัยสุขภาพนานาชาติ ประกอบด้วย การสร้างบุคลากรวิชาชีพแพทย์ ทันตแพทย์ เภสัช พยาบาล แพทย์แผนไทย เทคนิคการแพทย์ โดยการเรียนพื้นฐานใช้ที่วิทยาเขตหาดใหญ่ การฝึกปฏิบัติงานระยะแรกใช้ที่โรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข และโรงพยาบาลเอกชนในภูเก็ต


ผู้ช่วยศาสตราจารย์ธีรวัฒน์ หังสพฤกษ์ คณบดีคณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวว่า มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาและขับเคลื่อนให้มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ก้าวเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำ 1 ใน 5 ของอาเซียนสู่ “มหาวิทยาลัยเพื่อนวัตกรรมและสังคม” โดยปัจจุบันมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์มีด้วยกัน 5 วิทยาเขต ประกอบด้วย วิทยาเขตหาดใหญ่ วิทยาเขตภูเก็ต วิทยาเขตปัตตานี วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี และวิทยาเขตตรัง และจากยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศไทยที่ต้องการมุ่งเน้นให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) ในปี พ.ศ.2560-2569

มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จึงมีแผนที่จะดำเนินการตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ชาติด้วยการสร้างศูนย์สุขภาพนานาชาติอันดามัน มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต เพื่อให้ประชาชนในจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดในกลุ่มอันดามันได้รับบริการรักษาโรคซับซ้อนต่างๆ ที่ต้องอาศัยเครื่องมือที่ทันสมัย และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะ ซึ่งสถานพยาบาลในพื้นที่ไม่สามารถรองรับได้จึงต้องส่งต่อผู้ป่วยไปยังสถานพยาบาลที่มีความพร้อมมากกว่า หนึ่งในนั้นคือ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

ทำให้ประชาชนในจังหวัดกลุ่มอันดามันเสียโอกาสในการดูแลสุขภาพที่เกิดจากการขาดความพร้อมของระบบสาธารณสุขในพื้นที่เป็นอย่างยิ่ง ซึ่งประชาชนในจังหวัดชายฝั่งอันดามันมีปัญหาการเข้าถึงระบบการให้บริการด้านสุขภาพในโรคที่มีความซับซ้อน โดยพบว่า ปี 2562 มีผู้ป่วยในจังหวัดภูเก็ต พังงา และกระบี่ ที่ต้องส่งต่อไปยังโรงพยาบาลระดับสูงในพื้นที่อื่นๆ จำนวน 9,036 คน คิดเป็น 13,542 ครั้ง และเป็นภาระค่าใช้จ่ายที่สูงมากของประชาชน นอกจากนี้ ยังช่วยกระตุ้นและฟื้นฟูธุรกิจต่างๆ หลังสถานการณ์ Covid-19 ดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติระดับ Premium ให้เข้ามาท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ


ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า พื้นที่ในกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามันมีกิจกรรมด้านการท่องเที่ยวที่หนาแน่นมากของประเทศ รวมทั้งเป็นการเตรียมความพร้อมการรองรับสังคมผู้สูงวัย ซึ่งเป็นการดำเนินการที่สอดคล้องต่อยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เพราะประเทศไทยเริ่มเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงเป็นสังคมผู้สูงวัยตั้งแต่ปี พ.ศ.2543 และคาดการณ์ว่าใน ปี พ.ศ.2573 ประเทศไทยจะเข้าสู่ระดับสังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ ซึ่งประเทศไทยมีสัดส่วนผู้สูงอายุร้อยละ 19.45 และจะเข้าสู่ระดับสังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มที่ในปี พ.ศ.2593 จากการคาดการณ์ดังกล่าว แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มความต้องการทางด้านสาธารณสุขที่เพิ่มสูงขึ้นอีกด้วย

ส่วนงบประมาณในการดำเนินโครงการดังกล่าวนั้นจะเสนอของบประมาณผ่านไปยังคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณา ซึ่งในการประชุม ครม.สัญจร ทาง มอ.ก็จะนำเสนอแผนงานโครงการดังกล่าว โดยจะใช้งบในการดำเนินโครงการเต็มรูปแบบประมาณ 5,100 ล้านบาท ถ้าหากโครงการนี้เกิดขึ้นจะเกิดประโยชน์ในด้านต่างๆ มหาศาลกับจังหวัดภูเก็ตและฝั่งอันดามัน เช่น ลดค่าใช้จ่ายของประชาชนในพื้นที่ในการเดินทางไปรักษาโรคซับซ้อน รวมทั้งสามารถให้บริการผู้ป่วยโรคซับซ้อนที่ไม่สามารถรักษาได้ มีรายได้จากการรักษาผู้ป่วยชาวต่างชาติที่เดินทางมารักษาที่ศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ 1,080,000,000 บาทต่อปี

และจะทำให้อันดามันมีรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอีก 10% จากตัวเลขรายได้จากการท่องเที่ยวปี 2562 หรือประมาณ 62,000 ล้านบาท สามารถผลิตบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่จังหวัดภูเก็ตทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ใน 6 สาขา จำนวน194 คนต่อปี ประกอบด้วยแพทย์ 24 คน ทันตแพทย์ 30 คน พยาบาล 30 คนเภสัช 30 คนแพทย์แผนไทย 30 คน และเทคนิคการแพทย์ 50 คน




กำลังโหลดความคิดเห็น