ปัตตานี - ผู้บริหารโรงงานเฟอร์นิเจอร์แฉเพิ่ม ปรึกษาข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ใน จ.ปัตตานี ก่อนซื้อที่ดินผังเมืองสีเขียวแล้วบอกซื้อได้ จะช่วยเปลี่ยนเป็นสีม่วงให้ ศอ.บต.รับปากซ้ำจะจัดให้ แต่ก็ยังไม่คืบ ส่วนโรงงานร้างใน ต.บ่อทอง ก็ขัดข้อกฎหมายเป็นพื้นที่สาธารณะ ด้าน ศอ.บต.แจงพยายามแล้วแต่ติดปัญหาใกล้แหล่งรับน้ำ เกรงชาวบ้านจะเดือดร้อน อ้างมีพื้นที่สีม่วง แต่โรงงานตกลงกับเจ้าของที่ไม่ได้
จากกรณีบริษัท ซูเพิร์บ ครีเอชั่น เฟอร์นิเจอร์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทประกอบชิ้นส่วนฟอร์นิเจอร์เพื่อส่งออกไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา ตั้งอยู่ที่ ต.บางเขา อ.หนองจิก จ.ปัตตานี จากที่มีแผนที่จะสร้างโรงงานเพื่อขยับขยายกิจการและเพิ่มคนงานไม่น้อยกว่า 3,000 คน แต่ล่าสุด บริษัทเตรียมย้ายออกจากพื้นที่ จากกรณี ศอ.บต.ไม่ยอมจ่ายส่วนต่างค่าขนส่ง และไม่แก้ไขผังเมืองจากสีเขียวเป็นสีม่วง เพื่อให้สร้างโรงงานได้ ทำให้บริษัทสูญเสียกว่า 400 ล้านบาทนั้น
วันนี้ (14 ต.ค.) หนึ่งในผู้บริหารบริษัทซูเพิร์บฯ เปิดเผยว่า เริ่มแรกบริษัทรับเงื่อนไขต่างๆ ที่รัฐจะอำนวยความสะดวกให้ บริษัทจึงมาเช่าศูนย์ฝึกอาชีพดอนมอสโกเพื่อสร้างโรงงาน จากนั้นพื้นที่เต็มจึงต้องการหาพื้นที่เพิ่มเพื่อขยายโรงงาน หน่วยงานรัฐจึงเสนอให้ไปดูที่โรงงานแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร OTOP ฮาลาล ซึ่งปลูกสร้างบนที่สาธารณประโยชน์ทุ่งนเรนทร์ ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ที่ร้าง บริษัทก็พอใจที่จะใช้เป็นสถานที่เพื่อขยายกิจการ แต่ก็ติดข้อกฎหมายเพราะเป็นที่สาธารณะ จะให้เอกชนเข้ามาใช้ประโยชน์ไม่ได้ จึงต้องรอการแก้ไขในกฎหมาย แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้า
หนึ่งในผู้บริหารบริษัทซูเพิร์บฯ เปิดเผยว่า เมื่อเช่าโรงงานดังกล่าวไม่ได้ บริษัทจึงหาพื้นที่ที่เหมาะสม มีนายหน้าเข้ามาติดต่อเสนอที่ดินในราคาประมาณไร่ละ 2 แสนกว่าบาท จึงไปดูพื้นที่และตกลงซื้อขาย จากนั้นสักพัก นายหน้าขอขยับราคาขึ้นเป็นไร่ละ 4 แสนกว่าบาท บริษัทก็ไม่มีปัญหา แต่เมื่อไปดูอีกครั้ง ได้รับแจ้งว่า เป็นคนละแปลงกับที่ดินเดิมที่เคยมาดูครั้งแรก มีสภาพเป็นบ่อกุ้งร้าง บริษัทจึงปฏิเสธไม่ซื้อ เพราะทำเลไม่ค่อยดี
“จนมาเห็นพื้นที่ติดกับที่ตั้งของศูนย์บอสโก ซึ่งติดกับถนนใหญ่ จึงติดต่อกับนายหน้าซื้อขายที่ดินดังกล่าว 211 ไร่ โดยก่อนตัดสินใจได้ตรวจสอบที่ดินดังกล่าวพบว่า เป็นพื้นที่สีเขียวแถบขาว จึงไปปรึกษากับข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของ จ.ปัตตานี เขาก็บอกว่าซื้อได้ เดี๋ยวจะดำเนินการเปลี่ยนผังเมืองจากเขียวให้เป็นม่วง รวมทั้ง ศอ.บต.ก็รับที่จะดำเนินการ จนถึงทุกวันนี้ยังไม่ได้ดำเนินการใดๆ เลย” หนึ่งในผู้บริหารบริษัทซูเพิร์บฯ กล่าว
ด้าน ศอ.บต. เจ้าหน้าที่รายหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ชี้แจงถึงประเด็นที่บริษัทซูเพิร์บฯ ซื้อที่ดิน จำนวน 211 ไร่ เพื่อขยายโรงงานแต่กลับอยู่บนผังเมืองสีเขียวว่า ศอ.บต. ในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบ ได้หยิบยกเรื่องการเปลี่ยนผังเมืองในที่ดินแปลงนี้เข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการร่วมรัฐและเอกชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจร จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 27 ม.ค. เพื่อขอความร่วมมือให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปเร่งรัดดำเนินการตามที่ภาคเอกชนร้องขอแล้ว
“จังหวัดปัตตานีไม่ได้นิ่งนอนใจในการทำงาน
เพียงแต่การทำงานนั้นจะต้องใช้ความรอบคอบอย่างมาก เนื่องจากพื้นที่รอบนอกเป็นพื้นที่รับน้ำของ จ.ปัตตานี หากการดำเนินการไม่รอบคอบก็จะกระทบต่อประชาชนในเขตพื้นที่อย่างที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ และทั้งหมดต้องเป็นไปตามกฎหมายของแต่ละหน่วยงานที่กำหนดไว้เป็นขั้นเป็นตอน”
เจ้าหน้าที่ ศอ.บต.คนดังกล่าวยังชี้แจงอีกว่า แต่สาเหตุสำคัญที่ต้องชี้แจงสร้างความเข้าใจกันก็คือ ใน อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เมืองต้นแบบเกษตรอุตสาหกรรมผสมผสานนั้นมีพื้นที่ที่รองรับการลงทุนตามนโยบายของรัฐบาลที่เปลี่ยนเป็นสีม่วงเพื่อรองรับการลงทุนอยู่แล้ว ตั้งแต่เริ่มแรกประกาศนโยบายออกมาแล้ว จำนวนกว่า 3 พันไร่เศษ แต่ด้วยเหตุผลบางประการที่เกิดจากการเจรจาธุรกิจของเอกชน หรือเงื่อนไขอื่นใดที่แทรกแซงการทำงานเข้ามาก็ดีทำให้บรรลุข้อตกลงร่วมกันไม่ได้ เป็นผลทำให้บริษัทซูเพิร์บฯ ต้องไปซื้อที่ดินสีเขียว