xs
xsm
sm
md
lg

ถึงเวลาล้างบาง! “มาเฟีย” สวนสัตว์สงขลา? สางปมทุจริต-ลบข้อครหาฟอกสัตว์ป่า

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

   

โดย... ไชยยงค์
มณีพิลึก

   


คดีการฆ่ากันตายในสวนสัตว์สงขลา เมื่อวันที่ 3 ต.ค. นับเป็นคดีใหญ่แห่งปี 2563 ของ จ.สงขลา เป็นเรื่องสะเทือนขวัญที่ช็อกเจ้าหน้าที่ในสวนสัตว์สงขลา ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุ

เป็นคดีที่คนทั้งประเทศให้ความสนใจของประเด็นการสังหารว่า นอกจากเรื่องการโกรธแค้นส่วนตัวระหว่างนายสุริยา แสงพงศ์ ผอ.องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ผู้เสียชีวิต กับนายภูวดล สุวรรณะ นายสัตวแพทย์ระดับ 9 ที่มีตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายอนุรักษ์ วิจัย และสุขภาพสัตว์ สวนสัตว์สงขลา ผู้ยิง แล้ว น่าจะต้องเป็นความแค้นที่ไม่ธรรมดา หรืออาจจะยังมี "เงื่อนงำ" อื่นๆ โดยเฉพาะประเด็นที่สังคมตั้งข้อสงสัยว่า สวนสัตว์แห่งนี้มีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องในเรื่องการค้าสัตว์ป่าหรือไม่

ในวันเกิดเหตุ นายสุริยา ได้เรียกนายเฉลิมวุฒิ เกษตรสมบูรณ์ ผอ.สวนสัตว์สงขลา และนายภูวดล เข้าพบ เพื่อสอบสวนเรื่องการหายไปของ "เก้งเผือก" อย่างมีเงื่อนงำในเวลา 7 เดือนถึง 2 ตัว โดยเก้งดังกล่าวเป็นสายพันธุ์หายาก และได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชนนีพันปีหลวง โดยก่อนที่นายสุริยา จะเดินทางมาสอบสวนเรื่องดังกล่าว นายสุริยา ได้มีคำสั่งย้ายเจ้าหน้าที่สวนสัตว์สงขลา 4 คน คือ นายเฉลิมวุฒิ เกษตรสมบูรณ์ นายภูวดล สุวรรณะ นายอาคม มณีกุล และนายอุทัย พูลยรัตน์ ไปทำหน้าที่ในส่วนกลาง เพื่อสะดวกในการสอบสวนหาข้อเท็จจริง

ในขณะที่คนทั้งสามพูดคุยกัน นายภูวดล ได้ขอร้องให้นายเฉลิมวุฒิ ออกไปจากห้องก่อน อ้างว่า มีเรื่องจะคุยเป็นการส่วนตัวกับนายสุริยา เมื่อนายเฉลิมวุฒิ ออกไป เสียงปืนก็ดังสนั่นหวั่นไหว โดยเป้าทั้งหมดคือร่างของนายสุริยา หลังสิ้นเสียงปืน นายภูวดล ก็วิ่งออกจากสำนักงานไปยังบ้านพัก และเมื่อเจ้าหน้าที่ตามไปถึงบ้านพักก็พบว่า นายภูวดล ได้ใช้ปืนกระบอกเดียวกันปลิดชีพตนเองไปแล้ว ทิ้งปมปัญหาให้เจ้าหน้าที่คลี่คลายถึงสาเหตุของการก่อเหตุสะเทือนขวัญในครั้งนี้


ถ้าดูตามปูมหลังของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน จะพบว่าเป็นคนสงขลาด้วยกันทั้งคู่ อีกทั้งยังเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องรั้วโรงเรียนมหาวชิราวุธ สงขลา เมื่อจบการศึกษาก็สอบเข้าบรรจุทำงานในองค์กรสวนสัตว์เหมือนกัน แต่ทั้ง 2 คนมีเรื่องบาดหมางกันหลายเรื่อง โดยเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2561 “องค์กรสวนสัตว์ก่อการดี” ซึ่งเป็นที่รู้กันว่ามีนายภูวดล เป็นหนึ่งในแกนหลัก ร้องเรียนไปยังกรรมการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ว่า นายสุริยา มีพฤติกรรมส่อทุจริตและประพฤติมิชอบ ทั้งในฐานะรอง ผอ.องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย และสมัยที่เป็น ผอ.สวนสัตว์เปิดเขาเขียว นอกจากนี้ นายสุริยา ยังเคยเสนอย้ายนายภูวดล จากสวนสัตว์สงขลาไปยังส่วนกลางหลายครั้ง แต่ย้ายไม่สำเร็จ

การลั่นไกปลิดชีพนายสุริยา จึงมาจากความขัดแย้งระหว่างคนทั้งสองที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ การถูกย้ายจากสวนสัตว์สงขลาในครั้งล่าสุดนี้จึงเป็น "ฟางเส้นสุดท้าย" สำหรับนายภูวดล ที่มีต่อนายสุริยา

แม้คดีฆาตกรรมจะจบลงตามขบวนการของ
ป.วิอาญา แต่กลับช่วยจุดประเด็นการสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริงหลายเรื่องในสวนสัตว์สงขลา ทั้งเรื่องใหม่คือ เก้งเผือกที่หายไป และคดีเก่าที่ถูกนำขึ้นมาหาข้อเท็จจริงกันใหม่ ทั้งเรื่องการขโมยนกแก้ว 14 ตัวเมื่อหลายปีก่อน และการขโมยนอแรดขาวที่เสียชีวิต เมื่อปี 2555 ที่ทุกคดีมีเงื่อนงำชวนสงสัย

สิ่งที่ประชาชนคลางแคลงใจคือ มีการใช้สวนสัตว์เพื่อ "ฟอกสัตว์ป่า" กับสัตว์ในสวนสัตว์ หรือใช้สวนสัตว์เป็นแหล่งในการค้าสัตว์หรือไม่ เพราะเรื่องของสวนสัตว์ มีสัตว์ตาย สัตว์เกิด และสูญหายปีละเท่าไหร่ ยังเป็นปมประเด็นที่ไม่เฉพาะเกิดกับสวนสัตว์สงขลาเท่านั้น แต่สวนสัตว์ทั้งประเทศต่างมีปัญหานี้เช่นกัน


อีกประเด็นหนึ่งที่ต้องสะสางในสวนสัตว์สงขลาคือ มีการตั้งข้อสังเกตกันว่า พนักงานส่วนหนึ่งที่เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูง ต่างเป็นคนของนักการเมืองพรรคหนึ่ง ที่ส่งคนของตนเองเข้ามาทำหน้าที่ในสวนสัตว์แห่งนี้มายาวนาน และหลายคนอยู่ในตำแห่งแบบรากงอก ไม่ย้ายไปไหน หรือใครก็ย้ายไม่ได้เพราะมีลูกพี่เป็นนักการเมือง

ประเด็นนี้เองที่ทำให้เกิด "มาเฟีย" ในสวนสัตว์ หากไม่มีการแก้ไขจะเป็นปัญหาต่อการสะสางปมทุจริตในสวนสัตว์ รวมไปถึงการจัดระเบียบสวนสัตว์สงขลา ที่จะทำได้ยาก ทุกอย่างก็จะเป็นไปในรูปแบบเดิมๆ หลังจากที่ข่าวนี้เงียบหายไปจากความสนใจของผู้คน

สุดท้าย ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้สูญเสียทั้ง 2 ราย และไม่ได้เป็นความสูญเสียของครอบครัวทั้ง 2 เท่านั้น แต่องค์กรสวนสัตว์ได้สูญเสียบุคลากรที่สำคัญไปด้วย

และหวังว่าการสูญเสียครั้งนี้จะเกิดคุณูปการต่อสวนสัตว์ทุกแห่งในประเทศ ที่จะได้มีการล้างบางการทุจริต (ถ้ามี) ให้หมดสิ้น รวมทั้งการจัดระเบียบของสวนสัตว์ให้เป็นไปอย่างถูกต้องและโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อลบข้อครหาของสังคม




กำลังโหลดความคิดเห็น