ตรัง - แม่น้อง ป.2 เข้าแจ้งความดำเนินคดีเอาผิดพี่ ม.3 แล้ว ฐานทำร้ายร่างกาย พร้อมร้องเรียนผ่านเพจถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่ลูกชายด้วย
วันนี้ (12 ต.ค.) จากกรณีเกิดเหตุเรียนชั้น ป.2 อายุ 8 ขวบ ประจำโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใน อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ที่ถูกพี่ ม.3 ทำร้ายร่างกายด้วยการตบตีจนได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้า ศีรษะ หลังมือ และกลางหลัง เหตุเพราะน้อง ป.2 ล้อเลียนพี่ ม.3 ว่าเป็น “กะเทย” เหตุเกิดภายในโรงเรียนเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2563
ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุทางครอบครัวได้พยายามติดต่อกับทางโรงเรียนเพื่อขอดูกล้องวงจรปิด แต่ทางโรงเรียนบอกว่าได้แต่ไม่ยอมให้ดู จนกระทั่งผ่านมาอีกประมาณ 1 สัปดาห์ ผู้ปกครองขอดูภาพวงจรปิดอีก แต่ทางโรงเรียนระบุว่า ภาพไม่มีแล้วเพราะถูกบันทึกซ้ำไปแล้ว และได้รับคำพูดที่ไม่ดีจากปากของผู้บริหารโรงเรียน และจากผู้ปกครองของอีกฝ่าย ทำให้ครอบครัวร้องเรียนว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม
และล่าสุด ทางสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดตรัง ได้เรียกตัวผู้ปกครองไปพบ เพื่อขอเวลาไกล่เกลี่ยเจรจากับทางโรงเรียนและผู้ปกครองพี่ ม.3 โดยระบุว่า เหตุเกิดภายในโรงเรียน โรงเรียนจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ พร้อมขอเวลาพูดคุยกับทางโรงเรียนและผู้ปกครองพี่ ม.3 แต่ท้ายที่สุด นายปราโมทย์ เกี่ยวพันธ์ ศึกษาธิการตรัง ออกมาระบุว่า ทางสำนักงานได้มีการประสานทุกฝ่ายแล้ว และก็ได้มีการไปหาข้อมูลที่โรงเรียนว่าเกิดเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น แต่ที่ยังไม่ดำเนินการก่อน เพราะกลัวจะมีการโต้แย้งกันขึ้น ส่วนของการเยียวยาหรือทำขวัญนั้น ทางโรงเรียนยืนยันไม่สามารถทำได้ ส่วนผู้ปกครองพี่ ม.3 ก็จ่ายเงินให้ได้แค่ 1,000 บาทนั้น
ล่าสุด ที่สถานีตำรวจภูธรย่านตาขาว นางวรรดี ณ พัทลุง แม่น้อง ป.2 ได้หอบหลักฐาน ซึ่งประกอบด้วย ภาพถ่ายลูกชายที่มีบาดแผลตามจุดต่างๆ โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า ศีรษะ มือ และด้านหลัง ที่เกิดจากการถูกทำร้าย รวมทั้งใบรับรองแพทย์ จากโรงพยาบาลตรังที่ระบุว่า น้องถูกทำร้ายร่างกาย มีบาดแผลถลอก ฟกช้ำที่ใบหน้า ริมฝีปากฟกช้ำ เดินทางเข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.สาโรจน์ ช่องรักษ์ พนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีกับพี่ ม.3 คนดังกล่าว ในข้อหาทำร้ายร่างกาย
นางวรรดี ณ พัทลุง แม่น้อง ป.2 กล่าวว่า หลังจากได้เข้าพูดคุยกับศึกษาธิการจังหวัดตรัง ก็ยังไม่ได้ข้อสรุปใดๆ ทั้งจากทางโรงเรียนและทางผู้ปกครองพี่ ม.3 ตนจึงได้เดินทางมาแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับพี่คนดังกล่าวให้ถึงที่สุด ในข้อหาทำร้ายร่างกายตามคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่องค์กรสิทธิเด็ก เนื่องจากไม่มีความรับผิดชอบต่อการกระทำ อีกทั้งตนเองยังได้ร้องเรียนผ่านเพจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการแล้วด้วย ซึ่งได้รับคำตอบกลับมาว่าจะรับดูแลเรื่องนี้ให้ และขอให้คำตอบภายใน 15 วัน ทั้งนี้ ตนขอยืนยันจะเอาเรื่องและเรียกร้องความเป็นธรรมให้ถึงที่สุด
