xs
xsm
sm
md
lg

ท่าอากาศยานภูเก็ตพร้อมรับเที่ยวบินต่างประเทศ คาดช่วงกินผักคนไทยบินมาภูเก็ตวันละ1.5 หมื่นคน ทำรายได้กว่า 200 ล้าน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ท่าอากาศยานภูเก็ตประกาศพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์รับเที่ยวบินต่างประเทศ รอเพียงคำสั่งการจากส่วนกลางเท่านั้น เผยโควิด-19 ทำเที่ยวบินและผู้โดยสารลดลง คาดถือศีลกินผักคนไทยบินมาภูเก็ตวันละกว่า 15,000 คน ทำเงินสะพัดกว่า 200 ล้านบาท

เรืออากาศตรี ธานี ช่วงชู ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต
วันนี้ (8 ต.ค.) ที่อาคาร X-Terminal ท่าอากาศยานภูเก็ต อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ท่าอากาศยานภูเก็ต บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทภก.ทอท.) ได้จัดงานครบรอบ 32 ปี การดำเนินงานท่าอากาศยานภูเก็ตพร้อมแถลงข่าว โดยมี เรืออากาศตรีธานี ช่วงชู ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต เป็นประธานในพิธี และมี นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ตัวแทนสายการบิน และผู้ประกอบการ ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

เรืออากาศตรีธานี ช่วงชู ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต กล่าวว่า ในปีงบประมาณ 2563 ที่ผ่านมา ทภก. ได้ดำเนินการตามโครงการพัฒนาท่าอากาศยานในระยะที่ 2 ตามแผนแม่บท ทอท. ปี 2561 โดยได้ก่อสร้างห้องโถงเช็กอินผู้โดยสารกรุ๊ปทัวร์ ซึ่งเป็นโครงการเร่งด่วนระยะสั้นเพื่อแก้ไขปัญหาความแออัดของผู้โดยสารภายในอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ และ ทภก. ยังคงดำเนินการตามแผนพัฒนาท่าอากาศยานในระยะที่ 2 เพื่อให้มีขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารได้ 18 ล้านคนต่อปี


อย่างไรก็ตาม ในปีที่ผ่านมาทั่วโลกได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เป็นวงกว้าง ซึ่งส่งผลให้ท่าอากาศยานภูเก็ตถูกระงับการให้บริการท่าอากาศยานตามคำสั่งของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาด เป็นเหตุให้ในปีงบประมาณ 2563 ท่าอากาศยานภูเก็ตมีจำนวนเที่ยวบินรวมทั้งสิ้น 59,647 เที่ยวบิน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 48.73 แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 30,222 เที่ยวบิน ลดลงร้อยละ 52.38 และเที่ยวบินภายในประเทศ 29,425 เที่ยวบิน ลดลงร้อยละ 43.49 และมีผู้โดยสารใช้บริการรวมทั้งสิ้น 9,089,577 คน ลดลงร้อยละ 49.09 โดยแบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 5,126,522 ล้านคน ลดลงร้อยละ 50.34 และ ผู้โดยสารภายในประเทศ 3,963,055 ล้านคน ลดลงร้อยละ 47.39%

ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต กล่าวต่อว่า หลังจากที่ประเทศไทยสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ในระดับที่เป็นที่ยอมรับได้แล้วนั้น คณะรัฐมนตรีได้มีแนวทางการเปิดรับนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ Special Tourist Visa (STV) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งท่าอากาศยานภูเก็ตได้เตรียมความพร้อมในการรับนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าว โดยมีการประสานงานกับทางจังหวัดภูเก็ต พร้อมทั้งจัดตั้งศูนย์ภาวะฉุกเฉิน ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต เพื่อรายงานผลการปฏิบัติให้แก่ทางจังหวัดรับทราบ พร้อมทั้งกำหนดรูปแบบ กระบวนการ และให้การสนับสนุนพื้นที่เพื่อใช้เป็นจุดคัดกรอง และเก็บสิ่งส่งตรวจ โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ และสำนักงานป้องกันโรค เขต 11 ในการสนับสนุนห้องเก็บสิ่งส่งตรวจและปฏิบัติการชีวโมเลกุล พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่มาดำเนินการคัดกรอง รวมทั้งยังได้รับการสนับสนุนรถพระราชทานตรวจโรคติดเชื้อชีวนิรภัย มาประจำการอีกด้วย เมื่อมีการเปิดรับนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น



“ท่าอากาศยานภูเก็ตมีความพร้อม 100% ในการรองรับผู้โดยสารทั้งเที่ยวบินภายในประเทศและเที่ยวบินต่างประเทศ โดยเฉพาะในส่วนของเที่ยวบินจากต่างประเทศนั้น หากมีการสั่งการลงมาจากส่วนกลาง ท่าอากาศยานภูเก็ตพร้อมทุกเวลา เพราะได้มีการเตรียมความพร้อมทั้งเรื่องของบุคลากร อุปกรณ์ทางการแพทย์ในการตรวจคัดกรอง รวมถึงการมีห้องปฏิบัติการ และการให้บริการที่ได้มาตรฐานของ ICAO และกรมการบินพลเรือน” เรืออากาศตรีธานี กล่าวและว่า

อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ทางท่าอากาศยานภูเก็ตได้เปิดให้บริการในส่วนของเที่ยวบินในประเทศตั้งแต่เดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา มีเที่ยวบินมาภูเก็ตในวันปกติประมาณ 7 พันคน เที่ยวบิน 60-70 เที่ยวบิน ส่วนวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดยาว จะอยู่ที่วันละ 80 เที่ยวบิน ผู้โดยสาร 13,000 คน และในช่วงประเพณีถือศีลกินผักระหว่างวันที่ 16-25 ต.ค.นี้ คาดว่าจะมีคนไทยเดินทางมาภูเก็ตเพื่อท่องเที่ยวและร่วมประเพณีถือศีลกินผักมากขึ้น ประมาณการว่าจะมีผู้โดยสารไม่ต่ำกว่าวันละ 15,000 คน เที่ยวบินประมาณ 90 เที่ยวบิน ทำให้มีเงินสะพัดในภูเก็ตกว่า 200 ล้านบาท และคาดว่าหลังจากช่วงประเพณีถือศีลกินผักไปแล้วจะมีคนไทยเดินทางมาภูเก็ตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวและการจัดกิจกรรมต่างๆ ในภูเก็ต ซึ่งจะทำให้การท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของภูเก็ตดีขึ้นเป็นลำดับ


นอกจากการดำเนินงานด้านธุรกิจแล้วนั้น ทภก. ยังให้ความสำคัญด้านความรับผิดชอบต่อสังคมควบคู่กันไป โดยในปีงบประมาณ 2563 ทภก.ได้ดำเนินการจ่ายเงินชดเชยผลกระทบด้านเสียง รวมไปถึงการจัดซื้อที่ดินโดยรอบและพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบทางเสียง ให้แก่ชุมชนโดยรอบท่าอากาศยานซึ่งได้ดำเนินการไปแล้วทั้งสิ้น 63 อาคารจาก 4 ชุมชน เป็นมูลค่า 1,173,588,182 บาท และอยู่ระหว่างการดำเนินการสำรวจเพื่อจ่ายเงินชดเชยอีก 536 อาคาร ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามแผนการพัฒนาอย่างยั่งยืน ตามพันธกิจของ ทอท. คือ การประกอบและส่งเสริมกิจการท่าอากาศยาน รวมทั้งดำเนินการกิจการอื่นที่เกี่ยวข้องหรือต่อเนื่องกับการประกอบกิจการท่าอากาศยานโดยคำนึงถึงการพัฒนาที่ยั่งยืน


กำลังโหลดความคิดเห็น