xs
xsm
sm
md
lg

ชาวน้ำผุดเมืองตรังรวมกลุ่มปลูกพืชระยะสั้นขาย สร้างรายได้เสริมช่วงหน้าฝน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ตรัง - ชาว ต.น้ำผุด อ.เมืองตรัง 18 ครัวเรือน รวมกลุ่มกันขอพื้นที่ว่างในสวนยาง-ปาล์ม ของเพื่อนบ้านมาแบ่งกันปลูกพืชระยะสั้นชนิดต่างๆ ในช่วงหน้าฝน จนสร้างรายได้เสริมให้ปีละหลายหมื่นบาท

ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 8 ต.น้ำผุด อ.เมือง จ.ตรัง รวม 18 คน หรือจำนวน 18 ครัวเรือน ได้ใช้เวลาว่างเฉพาะในช่วงฤดูฝน หลังเสร็จสิ้นจากภารกิจประจำวันในการกรีดยางพารา รวมกลุ่มกันปลูกพืชไร่ หรือพืชล้มลุก (พืชระยะสั้น) ที่ใช้ระยะเวลาปลูกประมาณ 3-4 เดือน หรือแล้วแต่ชนิด ก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตส่งขายได้ ซึ่งชาวบ้านทั้งหมดได้จับมือกันมายาวนานหลายปีแล้ว ในการมองหาพื้นที่ว่างของเพื่อนบ้าน ทั้งในหมู่บ้านเดียวกัน และหมู่บ้านหรือตำบลใกล้เคียง ที่ได้ทำการโค่นยางพารา หรือล้มปาล์มน้ำมันเก่าเพื่อปลูกทดแทนใหม่ แต่ในระหว่างที่เจ้าของที่ดินเพิ่งปรับพื้นที่ใหม่แล้วเสร็จ หรือยาง-ปาล์มยังมีอายุได้เพียง 1-2 ปี ก็จะไปขอใช้พื้นที่ว่างกลางร่องสวน เพื่อแบ่งพื้นที่กันปลูกพืชระยะสั้นหลากหลายชนิด เช่น ถั่วลิสง ถั่วหรั่ง มันขี้หนู มันแกว เผือก มัน พริก มะเขือ ข้าวโพด

ทั้งนี้ เจ้าของสวนก็ใจดีจะให้ชาวบ้านปลูกฟรีโดยไม่คิดเงิน หรือค่าเช่าแต่อย่างใด เพราะชาวบ้านจะได้ช่วยกันดูแลสวนให้ด้วย ทั้งไม่ให้สัตว์เลี้ยงเข้าไปกัดกิน หรือทำลายยาง-ปาล์มที่เพิ่งปลูกใหม่ รวมทั้งยังทำให้สวนไม่ถูกหญ้ารกปกคลุม ไม่ต้องเสียเงินซื้อยาฆ่าหญ้า ไม่ต้องจ้างคนฉีดหญ้า หรือตัดหญ้าด้วย และท้ายสุดพืชระยะสั้นที่ตายหลังเก็บเกี่ยวเสร็จแล้ว ก็ยังเป็นปุ๋ยบำรุงดินภายในสวนได้ด้วย


ตัวแทนชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 8 ต.น้ำผุด กล่าวว่า พวกตนจะพากันไปขอใช้พื้นที่ปลูกพืชระยะสั้นเฉพาะหน้าฝนเท่านั้น โดยไม่ต้องรดน้ำ เพราะอาศัยน้ำฝนตามฤดูกาล ทั้งนี้ แต่ละแปลงจะปลูกซ้ำได้แค่ 2 ปี เพราะปลูกลงไปบนดินธรรมชาติ ซึ่งเมื่อเก็บเกี่ยวพืชชนิดใดหมด ก็จะใช้วิธีดายหญ้าด้วยคน และเผาทำเป็นปุ๋ย แต่จะไม่ใช้ยาฆ่าหญ้า หรือหากใส่ปุ๋ย ก็จะใช้ปุ๋ยคอกที่ผ่านการหมักแล้ว เช่น มูลวัว มูลหมู จึงทำให้ต้นไม้อุดมสมบูรณ์ และสามารถรักษาคุณภาพดินได้ โดยจะหมุนเวียนปลูกพืชต่างๆ ลงไป เช่น เมื่อเก็บถั่วลิสง ก็อาจปลูกมันแกว หรือเก็บข้าวโพดหมดแล้ว ก็จะปลูกเผือกต่อไป เป็นต้น

โดยเน้นที่ให้ผลผลิตเร็ว ขายง่าย ราคาดี แถมบางชนิดยังมีราคาดีกว่ายางเสียอีก เช่น ถั่วลิสง ราคา กก.ละ 35-40 บาท ถั่วหรั่ง ราคา กก.ละ 49 บาท เผือก ราคา กก.ละ 40 บาท ข้าวโพด ราคา กก.ละ 20-30 บาท มันแกว ราคา กก.ละ 15-20 บาท นอกจากนั้น พืชพวกนี้ยังมีตลาดกว้าง ทั้งพ่อค้าแม่ค้าในตลาดสด ตลาดนัดชุมชน หรือโรงพยาบาล เรียกได้ว่ามีเท่าไหร่ก็ขายไม่พอ ทำให้ชาวบ้านมีรายได้คนละประมาณ 25,000-40,000 บาท/ปี ขึ้นอยู่กับว่าใครทำไหวแค่ไหน ถือเป็นเงินก้อนไว้ใช้จ่าย เสริมจากยางที่ราคาไม่ดี จนพึ่งพาแทบไม่ได้ และหากฝนตกก็จะอดกรีดไม่มีรายได้








กำลังโหลดความคิดเห็น