สุราษฎร์ธานี - หลายหน่วยงานในพื้นที่เกาะสมุย และสุราษฎร์ธานี บูรณาการร่วมฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุภัยพิบัติทางทะเล จำลองสถานการณ์จริง ใช้เรือเฟอร์รี่ไฟไหม้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยว เดินทางมาท่องเที่ยวในอำเภอเกาะสมุย และเกาะพะงัน
วันนี้ (24 ก.ย.) ที่สถานีเรือสมุย ฐานทัพเรือสงขลา ทัพเรือภาพที่ 2 ต.ลิปะน้อย อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) พร้อมด้วย นายเธียรชัย ชูกิตติวิบูลย์ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายธีระพงศ์ ช่วยชู นายอำเภอเกาะสมุย นายรามเนตร ใจกว้าง นายกเทศมนตรีนครเกาะสมุย นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตำรวจน้ำเกาะสมุย เจ้าหน้าที่สำนักงานเจ้าท่า สำนักงานอำเภอเกาะสมุย ตำรวจภูธร สภ.เกาะสมุย ตำรวจภูธร สภ.บ่อผุด กองทัพอากาศจากกองบิน 7 จังหวัดสุราษฎร์ธานี ทัพเรือภาคที่ 2 จังหวัดสงขลา ผู้บริหารบริษัทเรือราชาเฟอร์รี่ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารบริษัท ซีทรานเฟอร์รี่ จำกัด ศูนย์กู้ชีพนเรนทร เจ้าหน้าที่แพทย์ฉุกเฉินโรงพยาบาลเกาะสมุย ฝ่ายปกครองอำเภอเกาะสมุย พร้อม อส. หน่วยกู้ภัยทางน้ำจากมูลนิธิกุศลศรัทธาจังหวัดสุราษฎร์ธานี หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสงเคราะห์เกาะสมุย หน่วยกู้ชีพกู้ภัยเทศบาลนครเกาะสมุย หน่วยกู้ภัยวีอาร์วัดปลายแหลม ทางชมรมเจ็ตสกี อำเภอเกาะสมุย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
โดยมีการจำลองสมมติเหตุการณ์เสมือนจริง ว่าเกิดเหตุเรือเฟอร์รี่ ราชา 1 ของบริษัทราชาเฟอร์รี่ จำกัด (มหาชน) นำผู้โดยสารออกจากฝั่งท่าเรืออำเภอเกาะสมุย มีผู้โดยสารจำนวนเป็นนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ 141 คน มีรถยนต์ และรถบรรทุก หลังออกจากท่าเรือได้ประมาณ 5 ไมล์ทะเล ถึงบริเวณเกาะสี่ เกาะห้า เกิดไฟไหม้ขึ้นที่ระวางบรรทุกรถยนต์ มีกลุ่มควันพวยพุ่ง มีผู้โดยสารตกใจกระโดดลงน้ำหลายคน ทางกัปตันเรือจึงได้ร้องขอความช่วยเหลือไปยังตำรวจน้ำ และทางสำนักงานเจ้าท่า อำเภอเกาะสมุย และแจ้งให้ สภ.เกาะสมุย จากนั้นแจ้งขอกำลังสนับสนุนทางกองทัพเรือภาคที่ 2 และ กองทัพอากาศ เพื่อขอสนับสนุน เฮลิคอปเตอร์ และนักประดาน้ำเข้าสนับสนุนในที่เกิดเหตุ พร้อมรายงานไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด ตั้งเป็นศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ เพื่อบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือ โดยภารกิจสำคัญคือมีการบูรณาการกันทั้งภาคพื้นดิน และภาคอากาศยาน ที่ได้มีการลำเลียงผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที ทั้งความรู้ทางด้านวิชาการ และการปฏิบัติกับเหตุการณ์จริง เพื่อความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของนักท่องเที่ยว
ทั้งนี้ การซ้อมแผนกู้ชีพกู้ภัยทางทะเลในครั้งนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมความพร้อม และซักซ้อมปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล เนื่องจากอำเภอเกาะสมุย เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีการเดินทางได้เพียง 2 ทาง คือทางน้ำ และทางอากาศ ซึ่งการฝึกซ้อมครั้งนี้ ทางรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เดินทางไปนั่งชมการซ้อมแผนบริเวณชายหาดของสถานีเรือสมุย ฐานทัพเรือสงขลา ทัพเรือภาพที่ 2 ตำบลลิปะน้อย พร้อมใช้กล้องส่องทางไกลนั่งชม
ภายหลังจากเสร็จสิ้นการซ้อมแผน นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) ได้ให้สัมภาษณ์ กับผู้สื่อข่าวว่า จากการที่ได้นั่งชมการซ้อมแผนในครั้ง ถือว่ามีมาตรการในการเตรียมความพร้อมที่ดีเยี่ยมในการฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล ซึ่งการเตรียมความพร้อม เป็นสิ่งที่จำเป็น โดยเฉพาะเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของฝั่งอ่าวไทยในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่มีการเชื่อมโยกไปยังอำเภอเกาะพะงัน และเกาะเต่า ซึ่งการเตรียมความพร้อมในครั้งนี้ ต้องขอชื่นชมหน่วยงานทุกหน่วยงาน ทุกภาคีเครือข่ายที่ได้ร่วมมือกันอย่างจริงจังและตั้งใจ ไม่ว่าจะเป็นทางน้ำ และทางอากาศ ซึ่งการปฏิบัติก็เป็นไปตามแผนที่ได้เตรียมไว้ เพราะฉะนั้นเห็นได้ว่าความพร้อมคือสิ่งที่จำเป็น ดังนั้น ขอให้พี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวมีความมั่นใจในการเดินทางมาท่องเที่ยวที่อำเภอเกาะสมุย และเกาะพะงัน รวมถึงเกาะเต่า