ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้ว่าฯ ภูเก็ตเผยยังระบุไม่ได้ 1 ต.ค.นี้ ภูเก็ตพร้อมเปิดเมืองรับต่างชาติหรือไม่ ขณะนี้อยู่ในขั้นการเตรียมความพร้อมในทุกๆ ด้าน พร้อมกับ “การบริหารจัดการความรู้สึกของคนภูเก็ต” ตาม vision ที่วางไว้ “เศรษฐกิจต้องได้รับการฟื้นฟู โดยไม่มีการแพร่ระบาดรอบสอง” ด้านโรงแรมผ่านการประเมินเป็นสถานที่ ALQ แล้ว 4 แห่ง 469 ห้อง
นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงความพร้อมของจังหวัดภูเก็ตในการเปิดรับคนต่างชาติเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ในวันที่ 1 ตุลาคม 2563 ตามนโยบาของรัฐบาล ว่า ภายหลังจากที่การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในภูเก็ตได้คลี่คลายลงไปแล้ว ไม่พบผู้ติดเชื้อกว่า 100 วัน ขณะนี้จังหวัดภูเก็ตเข้าสู่การฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของภูเก็ตนั้น ทางจังหวัดภูเก็ตได้ดำเนินการอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ทั้งภาครัฐและเอกชน โดยกำหนดไว้ 3 แนวทาง คือ ส่งเสริมและกระตุ้นให้คนภูเก็ตเที่ยวภูเก็ต คนไทยเที่ยวภูเก็ต และคนต่างชาติเที่ยวภูเก็ต
โดยในส่วนการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยคนภูเก็ตเที่ยวภูเก็ตนั้น ได้มีการจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น หรอยริมเล ที่จัดขึ้นทั้งหมด 6 ครั้ง ปรากฏว่าคนภูเก็ตออกมาจับจ่ายใช้สอยกันอย่างคึกคัก และจะมีการจัดอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ต่างๆ การจัดกิจกรรมด้านกีฬา ที่จะมีการแข่งขันกีฬาในหลายๆ รายการเกิดขึ้นในภูเก็ต ทั้งที่จัดมาแล้วและกำลังจะเกิดขึ้น เทศกาลถือศีลกินผัก ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้
โครงการไทยเที่ยวภูเก็ต ส่งเสริมและกระตุ้นให้คนไทยเดินทางมาภูเก็ต ทำให้การท่องเที่ยวของภูเก็ตคึกคักขึ้น มีคนไทยเดินทางมาท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ปัญหาภูเก็ตแพงหมดไป เพราะโรงแรม ที่พัก และกิจกรรมด้านการท่องเที่ยวได้พร้อมใจกันลดราคาลงมา ความกังวลในเรื่องของการติดเชื้อก็หมดไปจากความเชื่อมั่นด้านสาธารณสุข และภูเก็ตไม่พบผู้ติดเชื้อมานานกว่า 100 วันแล้ว ทำให้คนไทยมาภูเก็ตกันมากขึ้นโดยเฉพาะในช่วงวันหยุดยาว กลุ่ม อสม.ที่ตอนนี้เดินทางมาภูเก็ตแล้วกว่า 2 หมื่นคน สร้างรายได้ให้เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าคนไทยจะมาเที่ยวภูเก็ตคึกคักขึ้นหลังโควิด-19 คลี่คลาย แต่จำนวนนักท่องเที่ยวคนไทยปีละกว่า 4 ล้านกว่าคน สร้างรายได้ 5 หมื่นล้านบาทนั้น ไม่สามารถที่จะทำให้เศรษฐกิจของภูเก็ตขับเคลื่อนไปได้ทั้งหมด เศรษฐกิจของภูเก็ตขับเคลื่อนด้วยนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้าปีละกว่า 10 ล้านคน สร้างรายได้กว่าปีกว่า 4 แสนล้านบาท ซึ่งในการที่จะนำนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาภูเก็ตนั้น เป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องเกิดขึ้นไม่ช้าก็เร็วๆ นี้ เพราะภูเก็ตไม่สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้เพียงนักท่องเที่ยวคนไทยเพิ่มกลุ่มเดียว ภูเก็ตต้องพึ่งพานักท่องเที่ยวต่างชาติ
“แต่ในสังคมภูเก็ตวันนี้ยังมีความเห็นที่แตกต่างกันในการนำคนต่างชาติเข้ามา กลุ่มหนึ่งเห็นด้วยนำเข้ามาเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ อีกกลุ่มเห็นด้วยอย่างมีเงื่อนไข ว่า ถ้านำเข้ามาทำต้องดำเนินการอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดในรอบ 2 และยังมีกลุ่มที่ไม่เห็นด้วย เพราะเกรงว่าจะมีการแพร่ระบาดในรอบสอง ซึ่งทางจังหวัดภูเก็ตจะต้องบริหารจัดการความรู้สึกของคนภูเก็ตทุกฝ่าย จึงได้วาง vision ไว้ว่า “เศรษฐกิจต้องได้รับการฟื้นฟู โดยไม่มีการแพร่ระบาดรอบสอง” ด้วยการรับฟังความคิดเห็นของทุกกลุ่ม ทุกฝ่าย เพื่อให้คนภูเก็ตเกิดความมั่นใจสูงสุด
ในส่วนวันที่ 1 ตุลาคม 2563 นี้ ภูเก็ตจะเปิดประตูรับคนต่างชาติได้หรือไม่นั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ระบุว่า ยังไม่สามารถระบุได้ว่าภูเก็ตจะแง้มประตูเปิดรับคนต่างชาติให้เข้ามาในพื้นที่ได้เมื่อไหร่ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการเตรียมความพร้อมในทุกๆ ด้าน ตั้งแต่ประเทศกลุ่มเป้าหมายที่จะเข้ามา โดยส่วนกลางจะเป็นผู้กำหนดจากเมืองที่ปลอดภัย เมื่อเข้ามาแล้วจะต้องมีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เพื่อให้ทุกคนมั่นใจ ซึ่งการนำคนต่างชาติเข้ามานั้นจะมีการตรวจหาเชื้อทั้งหมด 3 ครั้ง คือ ที่ประเทศต้นทาง และที่ประเทศไทยอีก 2 ครั้ง แต่ภูเก็ตขอตรวจทั้งหมด 4 รอบ โดยขอตรวจเพิ่มที่สนามบินภูเก็ตเมื่อไม่พบเชื้อให้สามารถเข้ามาในพื้นที่กักตัว 14 วันได้ โดยทางกรมควบคุมโรคจะมีการติดตั้งเครื่องตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่สนามบินภูเก็ต และจะทำการทดสอบระบบในวันที่ 28 กันยายนที่จะถึงนี้ รวมถึงในส่วนของโรงแรมที่จะเป็นสถานที่ ALQ นั้น ทางจังหวัดมีการตรวจอย่างเข้มข้น และต้องจับมือกับทางโรงพยาบาลของเอกชนและโรงพยาบาลของรัฐ
“เราต้องทดสอบระบบให้พร้อมที่สุดในทุกๆด้านก่อนที่แง้มประตูรับต่างชาติ โดยการทดสอบตั้งแต่กลุ่มเล็กๆ 3-4 คน ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการทดสอบไปแล้ว 1 กลุ่ม กลุ่มระดับกลาง และกลุ่มใหญ่ ซึ่งการทดสอบกลุ่มเล็กๆ ที่ผ่านมา คิดว่าภูเก็ตพร้อมในหลายด้าน ทุกอย่างเราดำเนินการตามคำสั่งของ ศบค.อย่างเคร่งครัดในทุกเรื่อง และพร้อมปฏิบัติในทุกเรื่อง คิดว่าถ้าเปิดเมืองขึ้นมาภูเก็ตพร้อมเต็มที่”
นายณรงค์ ยังกล่าวถึง การรับนักท่องเที่ยวเข้ามาพักในระยะยาว ตามมติ ครม. ที่ให้วีซ่าเข้ามาอยู่ยาวนั้น ว่า ทางจังหวัดภูเก็ตยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะรับได้จำนวนเท่าไหร่อย่างไร เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับส่วนกลางว่าจะเห็นชอบอย่างไร
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของโรงแรมที่จะเป็นสถานที่กักตัวชาวต่างชาติ 14 วัน หรือ Alternative Local Quarantine : ALQ นั้น จากการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต ครั้งที่ 50/2563 เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2563 ที่ผ่านมา ว่าที่ ร.ต.วิกรม จากที่ ปลัดจังหวัดภูเก็ต ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานตรวจประเมินสถานที่กักกันที่ราชการกำหนด (ALQ) รายงานในที่ประชุม ว่า ขณะนี้โรงแรมผ่านการประเมินและได้รับอนุมัติจาก ศบค.ให้การเป็นสถานที่ ALQ ในภูเก็ตแล้วมี 4 แห่งด้วยกัน รวมห้องพักทั้งหมด 469 ห้อง ประกอบด้วย โรงแรม Anantara Mai Khao Phuket Villas โรงแรม ตรีสรา โรงแรมเมธาดี รีสอร์ท แอนด์ วิลล่า และโรงแรม ภูเก็ต เกรซแลนด์ รีสอร์ท แอนด์ สปา
นอกจากนี้ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต ยังได้ผ่านการเห็นชอบให้โรงแรมอีกหนึ่งแห่ง ที่บริเวณหาดไม้ขาว อ.ถลาง เป็นสถานที่ ALQ จำนวน 100 ห้องพัก เพื่อเสนอขอการอนุมัติจาก ศบค.ก่อนประกาศเป็นสถานที่ ALQ ต่อไป หากทาง ศบค.อนุมัติจะทำให้ภูเก็ตมีห้องพักในการรองรับคนต่างชาติเข้ามากักตัว 14 วัน ทั้งหมด 569 ห้อง ซึ่งคิดว่าน่าจะเพียงพอในระยะแรก
อย่างไรก็ตาม ทางคณะทำงานตรวจประเมินสถานที่กักกันที่ราชการกำหนด (ALQ) ภูเก็ต คาดว่าก่อนถึงเดือนตุลาคมนี้ ภูเก็ตน่าที่จะมีโรงแรมที่ผ่านการประเมินเป็นสถานที่ ALQ ไม่ต่ำกว่า 2,500 ห้อง ซึ่งน่าจะเพียงพอในการรองรับคนต่างชาติที่จะเข้ามา เพราะมั่นใจว่าหลังมีการเปิดให้ต่างชาติเข้ามาได้ในเดือน ต.ค.นี้ คนต่างชาติคงจะไม่ทะลักเข้ามาจำนวนมาก ห้องพักที่ผ่านมาอนุมัติแล้ว น่าที่จะเพียงพอกับความต้องการ และประมาณการว่าในภูเก็ตนั้นน่าจะมีห้องพักสำหรับ ALQ ไม่น่าจะเกิน 5,000 ห้อง ตามสัดส่วนความพร้อมของแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ที่จะทำหน้าที่ในการรองรับชาวต่างชาติที่มากักตัวของโรงพยาบาลเอกชนทั้ง 2 แห่ง
สำหรับโรงแรมในภูเก็ต ที่แจ้งความประสงค์เป็นสถานที่ ALQ แล้ว 76 แห่ง ห้องพัก 5,500 กว่าห้อง มีทุกระดับตั้งแต่ละระดับ 3 ดาว ไปจนถึงโรงแรมระดับ 5 ดาว กระจายอยู่ทั่วเกาะภูเก็ต และที่ได้ทำ mou กับโรงพยาบาลเอกชนไปแล้ว 9 แห่ง ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนที่ทางคณะทำงานตรวจประเมินสถานที่กักกันที่ราชการกำหนด (ALQ) เข้าทำการประเมินว่าเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดทั้ง 7 ด้านหรือไม่ ซึ่งการประเมินนั้นดำเนินการอย่างเข้มข้น เพื่อให้คนภูเก็ตมั่นใจว่าหากเปิดรับต่างชาติแล้ว จะไม่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกสองอย่างแน่นอน