นครศรีธรรมราช - “บิณฑ์-เอกพันธ์” เข้าเคลียร์ใจปมไลฟ์สดวัดไอ้ไข่จบด้วยดี ขอโทษเจ้าอาวาส และ 16 เจ้าหน้าที่ของวัด ล่าสุด ได้ลดผ่อนโทษกลับมาทำงานได้แล้วแต่อยู่ในส่วนอื่นของวัด
วันนี้ (17 ก.ย.) ที่วัดเจดีย์ ตำบลฉลอง อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช หลังจากที่เป็นข่าวมาอย่างต่อเนื่องจากปมที่ นายบิณฑ์ และนายเอกพันธ์ บันลือฤทธิ์ ได้ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กบริเวณอุโบสถชั้นล่างที่ตั้งรูปแกะสลักของไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์ จนกลายเป็นปมที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ และยังส่งผลให้วัดเจดีย์ได้สั่งพักงานเจ้าหน้าที่วัด 16 คน ที่คอยดูแลสถานที่ เนื่องจากผิดกฎเกณฑ์กติกาที่กำหนดไว้
นางซีจิ้ว โจมฤทธิ์ หัวหน้าทีมเจ้าหน้าที่วัดเจดีย์ ได้เปิดเผยถึงการปฏิบัติตามกฎกติกาว่า ทางเจ้าหน้าที่วัดทั้ง 16 คน มาจาก 8 ครอบครัวที่ขายของอยู่ในวัด ดังนั้น การพักงานของเขานอกจากหยุดการทำหน้าที่ดูแลวัดแล้ว ผู้ที่ขายของอยู่ทั้ง 8 ครอบครัวต้องหยุดด้วย เท่ากับเสียหายไป 1 เดือน จะไปทำงานอื่นก็ไม่ได้เพราะว่างงานเพียง 1 เดือนเท่านั้น แต่ต้องทำความเข้าใจว่าการเป็นเจ้าหน้าที่วัด วัดไม่ได้จ่ายเงินเดือนให้ พวกเราต้องมาทำหน้าที่ดูแล เพราะวัดให้สิทธิในการขายของด้วยที่เป็นครอบครัวอยู่กับวัดมาดั้งเดิม ครอบครัวที่ได้สิทธิต้องทำงานตอบแทนวัด แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทราบว่าได้มีการลดหย่อนโทษให้ ด้วยการให้กลับมาทำงานได้ตามปกติ แต่ให้ย้ายสถานที่ไปประจำยังจุดอื่นแทน
ในช่วงสายของวันเดียวกัน นายเอกพันธ์ และ นายบิณฑ์ บันลือฤทธิ์ ซึ่งได้นัดหมายประสานงานกับ พ.ต.ประเสริฐ สายทองแท้ ผู้บังคับกองร้อยฝึกรบพิเศษสิชล ในการประสานงานเข้ามากราบมนัสการพระครูพุทธเจติยาภิมณฑ์ เจ้าอาวาสวัดเจดีย์ โดยทั้งคู่ได้เดินทางมารอเจ้าอาวาสซึ่งติดกิจนิมนต์ในงานสารทเดือนสิบ รวมทั้งภารกิจในการรับถวายสิ่งของจากมูลนิธิมิราเคิลออฟไลฟ์ กว่า 3 ชั่วโมง ก่อนที่ทั้งคู่จะถูกเชิญไปพบกับพระครูพุทธเจติยาภิมณฑ์ เจ้าอาวาสวัดบนกุฏิ โดยการเข้าพบไม่เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนเข้ารับฟังการพูดคุยเจรจา รวมทั้งแจ้งว่าพระครูพุทธเจติยาภิมณฑ์ งดให้สัมภาษณ์ทุกกรณี
ต่อมา กลังจากใช้เวลาในการพูดคุยเกือบ 40 นาที ได้เปิดโอกาสให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปบันทึกภาพวงพุดคุยซึ่งได้เสร็จสิ้นลงไปแล้ว โดยพระครูพุทธเจติยาภิมณฑ์ ได้นำวัตถุมงคลและผ้ายันต์มอบให้แก่ นายเอกพันธ์ และนายบิณฑ์ บันลือฤทธิ์ รวมทั้งคณะทุกคนเพื่อความเป็นสิริมงคล
ต่อมา นายบิณฑ์ บันลือฤทธิ์ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงการพูดคุยว่า ได้กราบนมัสการขอโทษเจ้าอาวาส รวมทั้งได้ขอโทษเจ้าหน้าที่ทั้ง 16 คน ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และได้เข้าใจสถานการณ์แล้วว่ามีเหตุและผลอย่างไร เหตุใดถึงมีข้อห้าม แต่จริงๆ นั้นไม่ได้มีการห้ามไลฟ์สด แต่ห้ามไลฟ์สดโดยที่ถือวัตถุมงคลเข้าไปแสดงในไลฟ์สดนั้น นี่คือประเด็นสำคัญ ซึ่งทางผมได้ทราบเหตุแลแล้วเป็นอย่างดี
ส่วนปัญหาของเจ้าหน้าที่ 16 คน ขณะนี้ได้ขอโทษถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เข้าใจว่าเป็นน้ำใจของเจ้าหน้าที่ที่เห็นเป็นบิณฑ์ และเอกพันธ์ที่เข้าไปตรงนั้น จึงมีการต้อนรับเป็นอย่างดี ซึ่งในเรื่องนี้ทางเจ้าอาวาสได้ว่ากล่าวตักเตือนเจ้าหน้าที่แล้ว และได้ให้กลับมาทำงานในวัดตามปกติแต่ให้ไปทำหน้าที่อื่น ทำให้เบาใจถือว่าทุกอย่างจบลงด้วยดี