ชุมพร - รวบขบวนการค้ายาเสพติด แก๊ง “ล้อแม็กทอง” 8 วัยโจ๋นครศรีธรรมราช มีลูกชายนายตำรวจใหญ่ร่วมทีม เครือข่ายนักการเมืองท้องถิ่น ลอบขนกัญชาเกือบ 2 ตัน ลงใต้ ใช้รถยนต์ 6 คันไว้ลวงสับขาหลอกเจ้าหน้าที่ แต่ไม่รอด
เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (16 ก.ย.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธร จ.ชุมพร นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร พล.ต.ต.วิมล พิทักษ์บูรพา ผบก.ภ.จว.ชุมพร พ.อ.ปกรณ์ จันทรโตะ รอง ผบ.มทบ.44 พ.ต.อ.ธานี นาคหกวิค ผกก.สส.ภ.จว.ชุมพร พ.ต.อ.ฉลาด พลนาการ ผกก.สภ.บ้านมาบอำมฤต เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ภาค 8 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ประจำด่านตรวจความมั่นคงประตูภาคใต้ (บ้านพละ) ร่วมแถลงข่าวผลการจับกุม 8 ผู้ต้องหาลักลอบขนยาเสพติด ประกอบด้วย นายอนุชา โสมจินทร์ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66/1 หมู่ที่ 11 ต.หัวไทร อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช นายอังกินันท์ หนำคอก อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 123/1 หมู่ที่ 3 ต.ท่าไร่ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช นายธีรดนย์ เทียนประทีป อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 264/43 ต.ท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช นายณัฐภัทร ภูมิภัทร อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 216/78 หมู่ที่ 2 ต.ปากนคร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช นายวรกานต์ ตันสกุล อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1508/16 ต.ท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช นายอิทธิพงศ์ ศรีศักดา อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่7/23 ต.คลัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช นายรณชัย แซ่ลิ้ม อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80/12 ต.คลัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช และนายเกรียงศักดิ์ ปฏิสุวรรณ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31 หมู่ที่ 5 ต.โคกหาร อ.เขาพนม จ.กระบี่ พร้อมของกลางที่ยึดได้เป็นกัญชาอัดแท่ง ตราดาว 5 แฉก จำนวน 1,980 แท่ง น้ำหนัก 1,980 กิโลกรัม และรถยนต์ จำนวน 6 คัน
พ.ต.อ.ฉลาด พลนาการ ผกก.สภ.มาบอำมฤต หัวหน้าด่านตรวจความมั่นคงประตูภาคใต้ (บ้านพละ) เปิดเผยถึงการจับกุมขบวนค้ายาเสพติดกลุ่มนี้ ว่า เมื่อวันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา ทางตำรวจได้สืบสวนทราบว่า จะมีรถยนต์ทั้ง 6 คัน ได้ร่วมกันลำเลียงยาเสพติดจากภาคกลางลงไปส่งที่ภาคใต้ และจะผ่านด่านตรวจความมั่นคงประตูภาคใต้ จึงได้วางแผนและร่วมกันตั้งด่านตรวจบนถนนสายเพชรเกษมขาล่องใต้ หมู่ที่ 3 ต.เขาไชยราช อ.ปะทิว จ.ชุมพร และได้กระจายกำลังไปเฝ้าระวังตามถนนสายรอง จนกระทั่งถึงเวลา 03.30 น.คืนวันเดียวกัน พบรถยนต์ส่วนบุคคล ยี่ห้ออีซูซุ รุ่น มิว 7 สีขาว ทะเบียน 8 กล 4218 กรุงเทพมหานคร มีนายอนุชา โสมจินทร์ เป็นคนขับ และมีนายอังกินันท์ หนำคอก นั่งมาด้วย และรถยนต์ส่วนบุคคล ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นมิว 7 สีขาว ทะเบียน 9 กย 9961 กรุงเทพมหานคร มีนายธีรดนย์ เทียนประทีป เป็นคนขับ ผ่านเข้ามาที่ด่านตรวจจึงเรียกขอตรวจค้น ปรากฏว่าได้มีรถยนต์ที่ตามหลังมาอีก 4 คันไหวตัว ได้ขับหลบเข้าซอยใกล้กับด่านตรวจ และพยายามขับรถหลบหนีไป จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และสั่งการให้ สภ.ใกล้เคียงตั้งด่านตรวจสกัดจับ
พ.ต.อ.ฉลาด กล่าวว่า ต่อมาได้พบรถยนต์ส่วนบุคคล ยี่ห้ออีซูซุ ชนิด 4 ประตู รุ่นดีแมคซ์สีดำ มีหลังคาแครี่บอย ทะเบียน ขษ 9851 สงขลา ขับหลบหนีเข้ามาเขตพื้นที่ อ.เมือง จ.ชุมพร จึงสกัดจับกุมไว้ได้ ทราบชื่อคนขับคือ นายณัฐภัทร ภูมิภัทร และต่อมา พบรถยนต์ส่วนบุคคล ยี่ห้อเชฟโรเลต ชนิด 4 ประตู ทะเบียน 9 กข 9064 กรุงเทพมหานคร หลบหนีไปพักอยู่ที่ รีสอร์ตแห่งหนึ่งในเขต อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร และนำตัวผู้อยู่ในห้องพัก จำนวน 4 คน ประกอบด้วย นายวรกานต์ ตันสกุล นายอิทธิพงศ์ ศรีศักดา นายรณชัย แซ่ลิ้ม และนายเกรียงศักดิ์ ปฏิสุวรรณ จึงนำตัวไปสอบสวนจนทั้งหมดให้การรับสารภาพว่าได้จอดรถยนต์ที่บรรทุกกัญชาทิ้งไว้ในสวนปาล์มพื้นที่ ต.นาสัก อ.สวี จ.ชุมพร เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวไปชี้จุด จนพบรถยนต์ส่วนบุคคล ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นมิว 7 สีขาว ทะเบียน กน 2331 นครศรีธรรมราช ซึ่งถอดเบาะนั่งออกหมด ภายในรถวางเรียงกัญชาอัดแท่ง นับได้จำนวน 950 แท่ง และรถยนต์ส่วนบุคคล ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นมิว 7 สีขาว ทะเบียน ฎฉ 7717 กรุงเทพมหานคร รื้อเบาะนั่งออกเช่นกัน ภายในพบกัญชาอัดแท่งวางเรียงนับได้จำนวน 1,030 แท่ง
ด้าน พล.ต.ต.วิมล พิทักษ์บูรพา ผบก.ภ.จว.ชุมพร กล่าวว่า จากการสอบสวนทราบว่า กลุ่มนี้มีการวางแผนมาเป็นอย่างดี โดยใช้รถยนต์อีซูซุ รุ่นมิว 7 จำนวน 4 คัน แต่งเหมือนกันทุกอย่างแม้กระทั่งล้อแม็กสีทอง โดยรถอีซูซุ มิว 7 จะซุกกัญชาเพียง 2 คัน ส่วนอีก 2 คัน หากตำรวจรู้ไล่จับก็จะทำหน้าที่คอยขับสับเปลี่ยนเรียงคัน เพื่อหลอกตำรวจที่ไล่ให้หลงคัน และรถอีก 2 คัน ซึ่งเป็นรถแบบ 4 ประตู นอกจากจะเป็นรถเซอร์วิช มีอุปกรณ์เครื่องมือ มียางอะไหล่ มีน้ำมันสแปร์ หากเกิดปัญหาสามารถซ่อมได้เลย แล้วยังทำหน้าที่คอยขับขวางรถตำรวจไม่ให้ถึงรถขนกัญชาอีกด้วย
พล.ต.ต.วิมล กล่าวอีกว่า นับวันขบวนการลักลอบขนยาเสพติดจะมีกลยุทธ์วิธีที่จะหลบหลีกและต่อกรกับทางตำรวจ ซึ่งกลุ่มนี้ก็เช่นกันที่มีการวางแผนมาเป็นอย่างดี และเป็นกลุ่มวัยรุ่นล้วนๆ ซ้ำหนึ่งในนั้นยังมีลูกชายของนายตำรวจใหญ่ระดับนายพันคนหนึ่งร่วมขบวนการนี้ด้วย ซึ่งกลุ่มนี้ยังเป็นเครือข่ายของนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ทำมาแล้ว 3 ครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่รอด เนื่องจากทางตำรวจได้ตรวจเช็กเส้นทางพบมีการขับขึ้นลงผ่านจังหวัดชุมพรติดต่อกันหลายครั้ง จึงได้ส่งสายประกบ จนนำมาสู่การติดตามจับกุมได้ในที่สุด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และเตรียมขยายผลติดตามจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดกลุ่มนี้ต่อไป