xs
xsm
sm
md
lg

บุกยิงดับ “เสี่ยเงินกู้” ฉกทอง-เงินสด คาดฆ่าล้างหนี้

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ชุมพร - บุกยิงกลางดึก “เสี่ยเงินกู้” เป็นเจ้าหน้าที่สิ่งแวดล้อมโรงงานสหกรณ์นิคมท่าแซะ ดับคาบ่อบำบัดน้ำเสีย ฉกทองข้อมือ 4 บาท พร้อมเงินสด 4 หมื่น ปมเหตุคาดฆ่าล้างหนี้

เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (11 ก.ย.) พ.ต.ท.อำพล นุชนงค์ สว.(สอบสวน) สภ.ท่าแซะ ได้รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงตายภายในโรงงานสหกรณ์นิคมท่าแซะ จำกัด หมู่ที่ 5 ต.คุริง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.ธงชัย นุ้ยเจริญ ผกก.สภ.เมืองชุมพร พ.ต.อ.ธานี นาคหกวิค ผกก.สส.ภ.จว.ชุมพร ตำรวจชุดสืบสวน สอบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวรโรงพยาบาลท่าแซะ และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์

ที่เกิดเหตุเป็นโรงงานสหกรณ์ขนาดใหญ่สกัดน้ำมันปาล์มและผลิตไบโอแก๊ส ตรวจสอบบริเวณที่พักจุดควบคุมระบบอิเล็กทรอนิกส์ ระบบบ่อบำบัดน้ำเสียที่อยู่ด้านหลังโรงงาน พบศพผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือ นายสราวุธ หรือน้อง สังข์นิมิตร อายุ 40 ปี พนักงานตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมฝ่ายบ่อบำบัดน้ำเสีย สภาพศพนอนหงาย มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชิด 2 นัด ที่ไหล่ขวาทะลุออกชายโครงซ้าย และกลางหลังทะลุชายโครงซ้าย ที่นิ้วนางขวาสวมแหวนทองคำหนัก 1 บาท เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมง ที่เกิดเหตุไม่พบปลอกกระสุนแต่อย่างใด
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบบริเวณพงหญ้าข้างถังน้ำพลาสติกและถังน้ำมันขนาด 200 ลิตร ใกล้กับจุดที่พักควบคุมระบบอิเล็กทรอนิกส์ ห่างจากจุดพบศพประมาณ 3 เมตร มีรอยเหยียบย่ำคาดว่าเป็นจุดที่คนร้ายมายืนซุ่มรอเป้าหมาย


จากการสอบสวนนายสุขุม ทิพย์เบ็ญจะ อายุ 32 ปี หัวหน้าแผนกสิ่งแวดล้อมโรงงาน กล่าวว่า นายสราวุธ ผู้ตายได้มาลงชื่อเข้าเวรทำงานช่วงเวลา 20.00 น.ของวันที่ 10 ก.ย.63 และ จะออกงานช่วงเวลา 04.00 น.ของวันที่ 11 ก.ย.63 และ ช่วงเวลาประมาณ 02.00 น.คืนเดียวกัน ยามในโรงงานยังเห็นผู้ตายมาเอารถจักรยานปั่นขึ้นไปตรวจสอบบ่อบำบัดน้ำเสียที่จุดเกิดเหตุซึ่งมีอยู่จำนวน 4 บ่อ เพื่อตรวจสอบคุณภาพน้ำและโยนก้อน EM ปรับสภาพน้ำและดูแลแผงควบคุมระบบบำบัดน้ำเสีย โดยจะต้องปั่นรถจักรยานไปตรวจสอบเป็นระยะๆ ตามช่วงเวลาที่กำหนด

นายสุขุม กล่าวต่อว่า หลังจากที่ตนมาทำงานตอนเช้าพบว่า นายสราวุธ ผู้ตายยังไม่มาลงชื่อออกเวร ตนจึงโทรศัพท์ไปหาหลายครั้งแต่ไม่มีคนรับสาย จนกระทั่งตอนสายตนจึงปั่นจักรยานไปตรวจสอบที่บ่อบำบัดน้ำเสีย พบนายสราวุธ นอนหมดสติอยู่เมื่อตะโกนเรียกก็ไม่รู้สึกตัว ตนเข้าใจว่าเป็นลมจึงรีบปั่นรถจักรยานกลับลงมาแล้วตามเพื่อนร่วมงานให้ขับรถยนต์ขึ้นไปรับตัวนำส่งโรงพยาบาล แต่เมื่อเข้าไปจะยกตัวพบว่า นายสราวุธ เสียชีวิตแล้ว จึงได้แจ้งตำรวจมาที่เกิดเหตุดังกล่าว

ด้าน นางสุวรรณี สรวันเพ็ญ อายุ 38 ปี กล่าวว่า นายสราวุธ สามีตนก่อนมาทำงานได้ใส่สร้อยข้อมือหนัก 4 บาท 1 เส้น และนำเงินสดติดตัวมาด้วย 4 หมื่นบาท หลังถูกยิงตายทรัพย์สินดังกล่าวได้หายไป เหลือเพียงแหวนทองคำ 1 บาท สวมคาอยู่ที่นิ้วนางข้างขวา เนื่องจากสามีตนนอกจากทำงานที่โรงงานแห่งนี้แล้วยังมีอาชีพปล่อยเงินกู้ให้แก่พนักงานในโรงงานและชาวบ้านทั่วไป รายละ 1,000, 10,000, 100,000 บาท โดยมีลูกหนี้เงินกู้อยู่หลายราย


นางสุวรรณี กล่าวต่อว่า ก่อนสามีถูกยิงตายได้พูดให้ฟังว่ามีปัญหากับลูกหนี้อยู่ 2-3 ราย ที่กู้เงินไปแล้วไม่ค่อยใช้คืน โดยล่าสุดมีลูกหนี้คนหนึ่งยังไม่จ่ายหนี้เก่าที่กู้ไปแล้วนับแสนบาทจะมาขอกู้เพิ่มอีก แต่สามีตนไม่ยอมให้และได้ถูกข่มขู่บังคับสามีว่าจะต้องกู้เงินก้อนใหม่ให้ได้ แล้วเกิดมีปากเสียงกัน จนกระทั่งมาทราบข่าวว่าสามีมาถูกยิงตายดังกล่าว

ส่วนสาเหตุเบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานน่าจะมีปมเหตุมาจากเรื่องหนี้เงินกู้ ฆ่าล้างหนี้ เนื่องจากผู้ตายมีฐานะดีปล่อยเงินกู้มานานมีลูกหนี้อยู่จำนวนมาก ส่วนทรัพย์สินที่คนร้ายนำติดตัวไปคาดว่าเพื่ออำพรางเบี่ยงเบนคดี และสาเหตุจากความขัดแย้งส่วนตัว และไม่ตัดประเด็นความขัดแย้งกับเพื่อนร่วมงาน

ส่วนคนร้ายคาดว่าจะรู้เส้นทางและความเคลื่อนไหวภายในโรงงานเป็นอย่างดี โดยย่องเข้ามาทางป่าละเมาะด้านหลังโรงงานบริเวณบ่อบำบัดน้ำเสียที่ติดกับที่ดินของชาวบ้าน ซึ่งไม่มี รปภ.ดูแล เพื่อมาซุ่มรอจังหวะที่นายสราวุธ จะมาตรวจเวรที่บ่อบำบัดน้ำเสียตอนกลางดึก แล้วลงมือยิงด้วยอาวุธปืนลูกโม่แบบไม่สลัดปลอกกระสุน ก่อนจะหลบหนีไป ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น