xs
xsm
sm
md
lg

“เสี่ยหนู” ระบุกลัวไปทำไมกับการเปิดภูเก็ตรับต่างชาติ ชี้ต้องอยู่ให้ได้กับโควิด-19 เพื่อเดินหน้าเศรษฐกิจ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวภูเก็ต - “เสี่ยหนู” ระบุกลัวไปทำไมกับการเปิดภูเก็ตรับต่างชาติ ชี้ระบบสาธารณสุขเราพร้อม ถ้าคนภูเก็ตต้องการรัฐบาลก็พร้อมจะเดินไปด้วยกัน เพื่อเดินหน้าเศรษฐกิจ ขณะที่นายก ส.ท่องเที่ยว ระบุคนภูเก็ตไม่ได้ปฏิเสธการเปิดเมือง เพียงแต่ยังกังวล


เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (5 ก.ย.) ที่โรงแรมดุสิตธานี ลากูน่า ภูเก็ต นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดการประชุมพรรคภูมิใจไทยสัญจร ประจำปี 2563 “เพื่อปากท้องประชาชน” ที่จังหวัดภูเก็ต ระหว่างวันที่ 4-7 ก.ย.2563 โดยมี นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย นางมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย กรรมการบริหารพรรค สมาชิกพรรค ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม ท่องเที่ยว และชาวภูเก็ตเข้าร่วม

ทั้งนี้ เพื่อรับฟังปัญหาของผู้ประกอบการและประชาชนในจังหวัดภูเก็ต หลังเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจซบเซาอย่างหนัก เนื่องจากไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามา ทำให้รายได้จากการท่องเที่ยวหายไปเกือบทั้งหมด เพื่อรวบรวมปัญหาเสนอต่อนายกรัฐมนตรี และรัฐสภา ในการแก้ปัญหาและให้การเยียวยาต่อไป

นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ที่เลือกมาสัญจรที่จังหวัดภูเก็ต แม้จะไม่มี ส.ส.ของพรรคก็ตาม เพราะพรรคภูมิใจไทยทำเพื่อปากท้องของประชาชน มองว่าหากภูเก็ตมีปัญหาก็จะส่งผลกระทบทั้งประเทศ การมาครั้งนี้ไม่ได้มาเพื่อหาเสียงและหวังผลทางการเมืองแต่อย่างใด แต่มาเพื่อรับฟังปัญหาของคนภูเก็ตที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เพราะถ้าแก้ปัญหาที่ภูเก็ตได้ก็เท่ากับแก้ได้ทั้งประเทศ เนื่องจากภูเก็ตเป็นผู้นำทางการท่องเที่ยว และการท่องเที่ยวสามารถสร้างรายได้ให้ประเทศไทยปีละมหาศาล เมื่อโควิด-19 ระบาดรายได้จากการท่องเที่ยวลด


หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวต่อว่า สิ่งที่พรรคภูมิใจไทยรับผิดชอบดูแลอยู่ในขณะนี้ คือ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงคมนาคม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งสอดคล้องต่อปัญหาของประเทศในวันนี้คือการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เราทุกคนต้องมั่นใจในระบบการแพทย์ของประเทศไทย ที่เราสามารถยับยั้งการแพร่ระบาดไว้ได้เป็นอย่างดี ขอให้ทุกคนอย่าตกใจกับการตรวจพบผู้ติดเชื้อรายล่าสุดที่เป็นผู้ต้องขัง เราพูดกันมานานแล้วว่าสักวันเราต้องพบผู้ติดเชื้อ เราไม่สามารถล็อกดาวน์ประเทศได้ตลอดไป โอกาสที่จะพบผู้ติดเชื้อต้องเกิดขึ้น แต่ที่เราสามารถตรวจพบผู้ติดเชื้อได้นั้นแม้ว่าจะมีเพียงคนเดียว แสดงให้เห็นว่าเรามีระบบที่ดี คนจะเข้าห้องขังเราก็กักตัว 14 วัน แรงงานที่ลักลอบมาจากด่านเจดีย์สามองค์ จ.กาญจนบุรี มาถึงจังหวัดภูเก็ต เราก็สามารถติดตามตัวจนเจอ ขณะนี้รอผลตรวจ ขอให้ประชาชนมั่นใจในระบบสาธารณสุข

“รัฐบาลพร้อมทำทุกอย่าง จะกลัวไปทำไม ในการเปิดประเทศรับต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยว เราพร้อมทั้งแพทย์ ยา เตียงผู้ป่วย เวชภัณฑ์ ระบบสาธารณสุข” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวและว่า

นายกรัฐมนตรีเสียใจมากที่จังหวัดภูเก็ตไม่เอาเป็นพื้นที่นำร่องในการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เมื่อคนภูเก็ตไม่เอาทำให้ไม่สามารถเดินต่อได้ ทั้งๆ ที่เรามีความพร้อมทุกด้าน มียาสำรองไว้ 7-8 แสนเม็ด และกำลังจะผลิตได้เอง วัคซีนก็กำลังจะผลิตได้ “เราอย่าเป็นเหยื่อของความสำเร็จของเรา” อยากให้ภูเก็ตและเกาะสมุยเป็นพื้นที่นำร่องเปิดรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ซึ่งเชื่อว่าถ้าเริ่มที่ภูเก็ตได้ ท่องเที่ยวจะกลับมาบูมอีกครั้ง ตอนนี้อยู่ที่คนภูเก็ตว่าพร้อมหรือไม่


อย่างไรก็ตาม ในส่วนของภาคเอกชนได้นำเสนอปัญหาและความต้องการของภูเก็ตในหลายๆ เรื่อง เพื่อให้พรรคภูมิใจไทยผลักดันต่อไป ไม่ว่าจะเป็นด้านโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ถนน ปัญหาขาดแคลนน้ำ รถไฟฟ้ารางเบา ภูเก็ตปกครองตนเอง รวมไปถึงมาตรการการพักชำระหนี้ของผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19

นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า คนภูเก็ตไม่ได้ปฏิเสธการเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพียงแต่ยังมีความกังวล จากสิ่งที่ภูเก็ตบอบช้ำจากการแพร่ระบาดในครั้งที่ผ่านมา จนต้องปิดเมือง ปิดรอยต่อตำบล และสิ่งสำคัญที่สุดคนภูเก็ตถูกรังเกียจจากคนจังหวัดอื่นๆ ที่ภูเก็ตเป็นพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดหนัก ทำให้คนภูเก็ตยังกังวลในสิ่งเหล่านี้ ว่า ถ้าเปิดเมืองรับต่างชาติแล้วเกิดระบาดรอบสองคนภูเก็ตจะอยู่กันอย่างไร

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่อยากจะฝากทางพรรคภูมิใจไทยในการผลักดันและเยียวยาผู้ประกอบการคือ การพักชำระหนี้ ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยที่จะสิ้นสุดในวันที่ 31 ต.ค.63 นี้ ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่มีมาตรการต่อว่าจะดำเนินการอย่างไร คิดว่าน่าจะเป็นระเบิดเวลาของภูเก็ต เมื่อผู้ประกอบการยังไม่มีรายได้ รายได้ที่เกิดขึ้นตอนนี้ที่เป็นนักท่องเที่ยวคนไทยคิดเป็นรายได้ประมาณ 15 บาท จากรายได้ที่เกิดขึ้นทั้งหมด อยากจะให้รัฐบาลช่วยกู้ระเบิดลูกนี้ให้ภูเก็ตด้วย ซึ่งภูเก็ตเป็นจังหวัดที่สร้างรายได้มหาศาล แต่ตอนนี้เรากำลังติดกับดักระเบิดเวลาที่รอเวลาที่จะระเบิดในวันที่ 31 ต.ค.นี้ เราจะรอดจากระเบิดลูกนี้ได้ก็ต้องเมื่อเรามีรายได้เข้ามา 50% ตอนนี้เรามีรายได้จากคนไทย 15% เรายังขาดอีก 35% ซึ่งจำนวนนี้จะมาจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเข้ามา


แต่การที่จะเอานักท่องเที่ยวเข้ามาคนภูเก็ตก็ต้องระมัดระวัง เพราะที่ผ่านมา คนภูเก็ตลำบากกันมาในช่วงที่ปิดตำบล คนภูเก็ตไปไหนก็มีแต่คนรังเกียจ เพราะฉะนั้นการจะนำนักท่องเที่ยวเพื่อเติมให้ได้ 50% ขอให้ทำแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยให้ทำในลักษณะเดียวกับการนำคนไทยกลับมาจากต่างประเทศ ซึ่งเรามั่นใจในระบบดังกล่าวเพราะทุกคนที่เข้ามาจะต้องผ่านการกักตัว จึงอยากให้นำระบบนี้มาใช้กับต่างชาติที่จะมาท่องเที่ยวที่ภูเก็ต ตอนนี้คนภูเก็ตเข้าใจรัฐบาล แต่อยากให้รัฐบาลเข้าใจคนภูเก็ตด้วยว่าเรากล้าๆ กลัวๆเพราะอะไร อยากให้การนำนักท่องเที่ยวเข้ามานั้นทำตามที่ทางจังหวัดภูเก็ตเสนอคือมาตรการ 5 T ซึ่งประกอบด้วย 1.Target คือกำหนดเป้าหมาย ขอเลือกกลุ่มที่มีความปลอดภัยมาจากประเทศที่มีอัตราการระบาดต่ำ

2.Testing คือการตรวจสารคัดหลั่งต้องไม่มีเชื้อไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่ต้นทางและเมื่อถึงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ตต้องรับการตรวจอีกครั้ง ก่อนเข้าสู่กระบวนการกักโรค 14 วัน โดยในระหว่างกักตัวประมาณวันที่ 3-5 จะต้องได้รับการตรวจอีกครั้ง 3.Trecing คือหลัง 14 วัน จะติดตามตัวผ่านแอปพลิเคชัน 4.Treament คือการเตรียมบุคลากรเครื่องมือและสถานที่รองรับผู้ป่วยได้อย่างเพียงพอ และ 5.Trust คือการสร้างความเชื่อมั่นให้ทุกภาคส่วนและถ้านักท่องเที่ยวจะเข้ามาจะต้องสมทบเงินเข้ากองทุนเพื่อสร้างความมั่นใจว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นจะมีเงินรักษา

อย่างไรก็ตาม หลังจากรับฟังความคิดเห็นจากภาคประชาชนและเอกชน นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า จากการรับฟังพบว่าปัญหาหลักๆ คือธุรกิจท่องเที่ยวในภูเก็ตได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งจะพยายามแก้ไขให้ได้มากที่สุด ส่วนกรณีที่คนภูเก็ตยังมีความกังวลเรื่องของการเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเนื่องจากยังไม่มั่นใจและกลัวว่าจะบริหารสถานการณ์ไม่ได้ เรื่องนี้ในฐานะตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขก็ต้องตรวจสอบก่อนที่จะเข้ามา เพราะเวลานี้เราต้องเดินไปข้างหน้า ปัญหามีอยู่ตลอดเวลาเมื่อมีปัญหาก็ต้องแก้ ตอนนี้ปัญหาโควิด-19 มีอะไรนอกจากมีคนไข้ที่เราตรวจพบเชื้อ แต่ตนรับรองว่าเจอทุกวันไม่ว่าจะเป็นลักลอบเข้ามา หรือเปิดให้เข้ามา

นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต
แต่สิ่งสำคัญคือ ตอนนี้เรามียารักษาแล้วไม่ได้น่ากลัวเหมือนที่ผ่านมาในช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย. ต้องยอมรับว่าตอนนั้นเราไม่มีอะไรเลยไม่ว่าจะเป็นเรื่องของยาที่มีไม่เพียงพอ อุปกรณ์ป้องกันที่จะนำมาใช้ก็ไม่มี แต่ตอนนี้ยา และอุปกรณ์ต่างๆ มีจำนวนมากและบางอย่างสามารถผลิตได้ในเมืองไทยแล้ว ตอนนี้มีผู้ป่วยเข้ามาก็ให้ยารักษาแล้ว เพราะฉะนั้นเราจะต้องอยู่กับโรคนี้ด้วยความเข้าใจ ส่วนการรักษาเป็นหน้าที่ของสาธารณสุข การหารายได้เป็นหน้าที่ของภาคประชาชน ภายใต้การสนับสนุนของรัฐบาลในการใช้มาตรการต่างๆ ถึงวันนี้เราต้องมาร่วมเดินหน้าไปด้วยกัน

นายอนุทิน กล่าวต่อไปว่า กรณีการเปิดภูเก็ตโมเดลเพื่อผ่อนคลายให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา จริงๆ ควรจะเริ่มได้ตั้งแต่ 2 อาทิตย์ที่แล้ว แต่คนในพื้นที่ไม่เอาทำให้ไม่สามารถเดินหน้าได้ ในขณะเดียวกัน คนในพื้นที่ได้ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลหามาตรการในการช่วยเหลือแต่เมื่อไม่เอาก็เดินไปข้างหน้าไม่ได้ เพราะฉะนั้นคนภูเก็ตต้องพร้อมที่จะเดินไปด้วยกันเพราะรัฐบาลพร้อมที่จะช่วยเหลือ ถ้าคนในพื้นที่บอกไม่กลัว รัฐบาลก็พร้อม ส่วนกรณีถ้าหากคนภูเก็ตยังไม่พร้อมที่จะรับต่างชาติเข้ามาแล้วให้ทำตลาดคนไทยมาแทนคิดว่าส่วนนี้จะแทนกันได้หรือไม่ เพราะตอนนี้คนไทยก็เดือดร้อนกันถ้วนหน้า เราก็อยากให้ไทยเที่ยวไทย แต่รายได้ไม่เพียงพอที่จะให้มาจุนเจือระบบเศรษฐกิจ และแก้ไขปัญหาให้กับภูเก็ต



นายอนุทิน กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของมาตรการนั้นขณะนี้ทางรัฐบาลมีความเข้มอยู่แล้ว คนที่มาก็จะกักตัวอยู่ที่โรงแรม 14 วัน จะออกไปข้างนอกไม่ได้ ถ้าจะหลุดก็ไม่มากและเชื่อว่าสามารถจัดการปัญหาได้อย่างแน่นอน ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นขณะนี้รัฐบาลพร้อมที่จะเข้ามาร่วมแก้ปัญหา เพียงแต่คนภูเก็ตพร้อมเท่านั้น ซึ่งท่านนายกรัฐมนตรีตั้งใจที่จะผ่อนคลายมาตรการให้มากที่สุดเพื่อให้สามารถทำมาหากินและสร้างรายได้ให้เกิดขึ้น พอถึงเวลากำลังจะบรรจุเข้าวาระ ก็มีรายงานมาบอกว่า คนภูเก็ตไม่เอาภูเก็ตโมเดล จึงต้องมาเริ่มใหม่ในการหามาตรการช่วยเหลือ ถ้าวันนี้คนภูเก็ตพร้อมรัฐบาลก็พร้อมที่จะเดินต่อ




กำลังโหลดความคิดเห็น