ตรัง - 2 แม่ลูกชาว ต.นาท่ามเหนือ สืบทอดการทำกรงต่อนกคุ้มจากย่านลิเภา ซึ่งยังเหลือแต่เพียงครอบครัวเดียวใน จ.ตรัง โดยส่วนใหญ่จะซื้อไปใช้ตกแต่งบ้าน และขายได้ราคาดีถึงลูกละเกือบ 2 พันบาท
ที่บ้านเลขที่ 169 หมู่ 8 ต.นาท่ามเหนือ อ.เมืองตรัง ซึ่งเป็นบ้านของ นายสมจิตร ซุ่นอื้อ อายุ 46 ปี และนางคลิ้ง ซุ่นอื้อ อายุ 88 ปี สองแม่ลูกได้ช่วยกันทำกรงต่อนกคุ้ม หรือกรงดักนกคุ้มจากย่านลิเภา ซึ่งยังเหลือแต่เพียงครอบครัวเดียวใน จ.ตรัง เนื่องจากต้นลิเภาเป็นพืชที่ยังพอหาได้ในท้องถิ่น และขึ้นอยู่ทั่วไปในบริเวณสวนยางพารา โดยจะต้องตัดเอาย่านลิเภาที่ได้ขนาด แต่จะต้องเลือกเอาส่วนที่ไม่ติดข้อเท่านั้น และตัดจนถึงพื้นดิน เพื่อให้ส่วนที่เหลือได้แตกยอดขึ้นมาใหม่
ทั้งนี้ นายสมจิตร จะเป็นคนออกไปหาตัดย่านลิเภาให้ได้ตามจำนวนที่ต้องการจะทำแต่ละครั้ง จะไม่ตัดไว้จำนวนมาก เนื่องจากหากสานไม่ทัน เส้นย่านลิเภาจะแห้งกรอบ จนไม่สามารถที่จะนำมาจักสานได้ จากนั้นได้นำไปให้คุณยายคลิ้ง ซึ่งเป็นคุณแม่ของนายสมจิตร เป็นคนลอกเส้นย่านลิเภา ซึ่งเส้นย่านลิเภาที่ตัดมาแต่ละเส้นจะมีลักษณะกลมๆ ยาวๆ และมีความแข็ง เหนียว โดยคุณยายจะอาศัยความชำนาญในการลอกเส้นย่านลิเภาด้วยมือ แล้วให้ลูกชายนำไปใช้สำหรับการจักสานกรงต่อนกคุ้มต่อไป
สำหรับการทำกรงต่อนกคุ้มจากย่านลิเภานั้น จะต้องใช้วัสดุที่ได้จากในป่าพื้นที่ เช่น ใช้ย่านลิเภาเพื่อจักสาน ใช้หวาย และไม้ขนุนเพื่อขึ้นโครงและเป็นฐาน โดยกรงต่อนกคุ้ม 1 ลูก นายสมจิตร จะใช้เวลาว่างหลังจากเสร็จงานจากสวนยางพารามาทำประมาณ 3-4 วันต่อ 1 ลูก และทำตามที่ลูกค้าสั่งซื้อ โดยปัจจุบันสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ทั้ง 3 อย่าง คือ ใช้สำหรับต่อนกคุ้มจริง ใช้ทำเป็นเครื่องประดับ และใช้ทำเป็นโคมไฟ ซึ่งล้วนแต่สวยงาม ประณีต ด้วยฝีมือการจักสานที่สืบทอดต่อมาจากรุ่นคุณพ่อ
โดยเฉพาะกรงต่อนกคุ้มของภาคใต้นั้น จะมีลักษณะเป็นครึ่งวงกลม มีโครงสร้างเป็นหวาย และใช้ย่านลิเภาสานถี่ๆ ปิดเป็นกรงทึบ ส่วนด้านหน้ามีประตูปิดเปิดได้ และมีประตูอีกชั้นหนึ่งคลุมด้วยตาข่าย โดยประตูทั้งสองจะมีเสาประตูเป็นซี่ไม้กลมๆ ทั้งสองข้าง มีประตูตาข่ายเปิดตั้งฉากกับพื้น และเลื่อนห่วง 2 อันไว้ที่หัวกรง โดยห่วงนี้จะเลื่อนลงมาเมื่อประตูปิด เมื่อนกจากข้างนอกเข้าชนซี่เล็กๆ ซึ่งค้ำประตูตาข่ายที่เปิดอยู่
คุณยายคลิ้ง ซุ่นอื้อ ผู้เป็นแม่ กล่าวว่า ในอดีตสามีของตนเป็นคนมีฝีมือในเรื่องจักสานเครื่องใช้ในครัวเรือน และเครื่องมือจับสัตว์ รวมทั้งกรงต่อนกคุ้มจากย่านลิเภา โดยทำขายให้แก่คนในพื้นที่ และหมู่บ้านใกล้เคียงมาร่วม 40 ปี ครั้นเมื่อสามีเสียชีวิตลง ลูกชายของตนจึงรับช่วงทำต่อ ทั้งนี้ กรงต่อนกคุ้มจากย่านลิเภา จะสามารถขายได้ราคาสูงถึงกรงละ 1,000-1,200 บาท ซึ่งนอกจากสวยงามแล้ว ยังทนทานใช้งานได้นานอีกด้วย
ด้าน นายสมจิตร ซุ่นอื้อ ผู้เป็นลูกชาย กล่าวว่า ตนสืบทอดวิชาการทำกรงต่อนกคุ้มจากย่านลิเภามาจากคุณพ่อ และจำหน่ายมาแล้วประมาณ 2 ปี โดยคนส่วนใหญ่จะซื้อไปสำหรับใช้ประดับตกแต่งบ้าน เนื่องจากปัจจุบันนี้แทบไม่มีนกแล้ว และเห็นคุณค่าของสัตว์ป่าที่นับวันจะหายาก จึงช่วยกันอนุรักษ์ โดยกรงนกคุ้มที่ตนทำนั้นมี 2 แบบคือ แบบธรรมดาทั่วไป และแบบใส่หลอดไฟไว้ด้านใน ซึ่งมีราคาเท่ากันคือลูกละ 1,800 บาท
ปัจจุบัน กรงต่อนกคุ้มจากย่านลิเภาของตนได้รับการขึ้นทะเบียน มผช. หรือมาตรฐานสินค้าชุมชน และเตรียมส่งเข้าคัดสรรสินค้าโอทอป จ.ตรัง ส่วนย่านลิเภา นอกจากหาได้เองตามสวนยางพาราทั่วไปแล้ว ขณะนี้ตนยังได้นำต้นมาปลูกไว้ในสวนยางพารา และบริเวณพื้นที่ข้างบ้านด้วย เพื่อจะได้ช่วยให้มีการขยายพันธุ์เพิ่มมากขึ้น สำหรับผู้สนใจสามารถสอบถามได้ที่ โทร.08-4397-3178