ตรัง - เกษตรกรชาว ต.หนองปรือ อ.รัษฎา จ.ตรัง ทยอยตัดโค่นต้นยาง-ปาล์ม เพื่อปลูกกาแฟ พร้อมนำผลผลิตมาแปรรูปเป็นกาแฟคั่วมือ และผลิตภัณฑ์ต่างๆ ภายใต้ชื่อ “Ratsada Coffee” ส่งขายเป็นสินค้าขึ้นชื่อ
กลุ่มวิสาหกิจชุมชนกาแฟรัษฎาและแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร หมู่ 8 บ้านหนองครก ต.หนองปรือ อ.รัษฎา จ.ตรัง นำโดย นางกนกวรรณ คำเนตร และครอบครัว ซึ่งเดิมประกอบอาชีพทำสวนยางพารา และสวนปาล์มน้ำมัน บนเนื้อที่ 8 ไร่ แต่ขณะนี้ได้ทยอยตัดโค่นทีละเล็กละน้อย เพื่อหันมาทำการเกษตรแบบผสมผสานแทน ทั้งการเลี้ยงไก่ เลี้ยงหมู และการปลูกพืชเศรษฐกิจที่สำคัญคือ “กาแฟพันธุ์โรบัสต้า” จนกลายเป็นแหล่งศึกษาดูงานสำหรับเกษตรกร และประชาชนทั่วไป โดยการนำเมล็ดพันธุ์มาเพาะผลิตกล้าพันธุ์จำหน่าย ทั้งในพื้นที่และต่างจังหวัด เช่น ระนอง กระบี่ พัทลุง นครศรีธรรมราช
นอกจากนั้น ยังได้นำผลผลิตเมล็ดกาแฟจากสวน และรับซื้อจากเกษตรกรในพื้นที่มาแปรรูป โดยใช้ภูมิปัญญาชาวบ้าน เช่น ตำกับครก คั่วด้วยมือ และตากแดดแทนการอบ จนได้กาแฟสดที่มีรสชาติกาแฟแท้ๆ และปราศจากสารเคมีมาจำหน่าย และแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ภายใต้ชื่อแบรนด์ของตนเองคือ “Ratsada Coffee” หรือกาแฟรัษฎา ที่ใช้ประโยชน์จากทุกส่วนของกาแฟ เช่น นำก้านมาตากแดดทำเป็นชาดอกกาแฟ นำเมล็ดมาทำเป็นเมล็ดกาแฟสำเร็จบรรจุถุง หรือทำกาแฟผงคั่วมือบรรจุในซอง พร้อมซองสำหรับชงดื่ม ส่วนกากกาแฟที่ผ่านมาการชงมาแล้ว 1 ครั้ง จะนำมาทำเป็นผงสครับ สำหรับขัดผิว ทำสบู่อาบน้ำ ทำก้อนน้ำหอม เพื่อจำหน่ายให้แก่โรงแรม รีสอร์ตตามเกาะต่างๆ เรียกได้ว่านอกจากจะนำมาทำเป็นกาแฟสดสำหรับคอกาแฟแล้ว ยังสามารถทำส่วนอื่นๆ ที่ปกติอาจเหลือทิ้งมาแปรรูปเป็นสินค้าได้ทุกส่วน แถมยังปลอดสารเคมีไร้สารพิษ
นางกนกวรรณ คำเนตร ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกาแฟรัษฎาและแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร หมู่ 8 บ้านหนองครก ต.หนองปรือ กล่าวว่า แบรนด์ “Ratsada Coffee” กำลังเป็นสินค้าขึ้นชื่อของ อ.รัษฎา โดยปัจจุบันได้ส่งขายออนไลน์ไปทั่ว และมีเสียงตอบรับดีมาก เนื่องจากมีกระบวนการผลิตแบบโบราณ เช่น ก้านดอกกาแฟที่ถูกต้นสลัดทิ้งหลังติดผล เมื่อนำมาตากแดดให้แห้งทำเป็นชากาแฟ จะได้รสชาติชาที่หวาน และออกขมนิดๆ แต่จะหอมกรุ่น อร่อยมาก ส่วนเมล็ดกาแฟสำหรับทำเป็นกาแฟ เมื่อนำมาตากแดดให้แห้ง เพื่อกะเทาะเปลือกออก แล้วนำเมล็ดมาตากซ้ำ ก่อนตำในครกด้วยเครื่องตำข้าวด้วยมือ แล้วคัดแยกเปลือกทิ้ง ก่อนนำไปตากแดดอีกครั้งประมาณ 2-3 อาทิตย์ จะได้เมล็ดกาแฟแท้ที่แห้งอย่างดี ไม่มีความชื้น เมื่อนำไปคั่วจะหอม
โดยในขั้นตอนนี้สามารถนำมาบรรจุเป็นเมล็ดกาแฟสำเร็จ ใส่ถุงๆ ละ 1 กิโลกรัม เพื่อให้คนซื้อนำไปคั่ว และบดเองที่บ้าน จนกลายเป็นกาแฟคั่วสดทำมือด้วยตัวเอง ซึ่งเมล็ดกาแฟสำเร็จจะมีราคาถุงละ 180 บาท ส่วนกาแฟที่คั่วมือแล้ว จะมีราคาซองละ 20 บาท พร้อมถุงชง ขณะที่กากกาแฟที่นำไปทำเป็นผงสครับขัดผิว จะมีราคากล่องละ 20 บาท และสบู่อาบน้ำ ก้อนใหญ่มีราคา 25 บาท ก้อนเล็กมีราคา 2.50 บาท ขณะที่ต้นกล้าพันธุ์กาแฟโรบัสต้าอายุ 1 ปี ราคาต้นละ 30 บาท และอายุ 7-8 เดือน ราคาต้นละ 20 บาท ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ทางเฟซบุ๊ก “Ratsada Coffee” หรือโทร.09-3707-4031