ตรัง - อบต.วังวน อ.กันตัง จ.ตรัง จับมือ มทร.ศรีวิชัย สอนชาวบ้านให้นำวัสดุเหลือใช้จากกากกาแฟ มาทำเป็นสบู่ผสมน้ำผึ้ง และสบู่ผสมมะขาม ช่วยสร้างรายได้เสริมในยุคโควิด-19 และลดปัญหาขยะมูลฝอย
จากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้หลายพื้นที่ต้องประสบกับปัญหา โดยเฉพาะปากท้อง เพราะประชาชนต้องขาดรายได้ แต่สำหรับพื้นที่ ต.วังวน อ.กันตัง จ.ตรัง ทาง อบต.วังวน จึงร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย (มทร.) วิทยาเขตสงขลา และตรัง นำโดย นางประภาพรรณ กันตังพันธุ์ นายก อบต.วังวน ผศ.ดร.นันทชัย ชูศิลป์ อาจารย์สาขาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ มทร.ศรีวิชัย สงขลา และ ดร.พัชชญา สังขะกุล อาจารย์สาขาสถาปัตยกรรม คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มทร.ศรีวิชัย สงขลา ได้ช่วยกันพลิกวิกฤต โดยการนำเศษวัสดุเหลือใช้จากชุมชนมาแปรรูปเพิ่มมูลค่า สร้างรายได้ให้แก่ชุมชน และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการกำจัดเศษวัสดุเหลือใช้ มาจัดฝึกอบรมด้านอาชีพเสริมรายได้ เรื่อง “นวัตกรรมการทำสบู่จากกากกาแฟ” ซึ่งมี 2 สูตร คือการทำสบู่จากกากกาแฟผสมน้ำผึ้ง และการทำสบู่จากกากกาแฟผสมมะขาม
ทั้งนี้ การทำสบู่สมุนไพร จะมีส่วนประกอบคือ กลีเซอรีน น้ำหอม น้ำผึ้ง กากกาแฟ/ผงสมุนไพร เอทิลแอลกอฮอสล์ ขวดสเปรย์ แม่พิมพ์ซิลิโคน ถ้วยตวงขนาด 120 ML จวักขนาดกลาง หม้อสเตนเลสขนาดกลาง หม้อสเตนเลสขนาดเล็ก ซีลห่ออาหาร กล่องใส่สบู่ 60 ชิ้น คัตเตอร์ ถาดพลาสติก และกรรไกร โดยสบู่กากกาแฟผสมน้ำผึ้งมีขั้นตอนการทำ คือ 1.นำหม้อใบใหญ่ตั้งไฟอ่อน และใส่น้ำลงในหม้อ แล้วนำหม้ออีกใบตั้งบนน้ำ 2.ใส่กลีเซอรรีนลงในหม้อให้ละลายจนเป็นน้ำใส และกวนเบาๆ ในทิศทางเดียวกันเพื่อไม่เกิดฟอง ก่อนยกลงจากเตา รอให้อุ่นๆ 3.ตวงน้ำผึ้งปริมาณ 5 ML ใส่ในถ้วยตวง 4.ตักกากกาแฟ ปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะ 5.กวนให้น้ำผึ้งและกากกาแฟเข้ากัน 6.เมื่อกลีเซอรรีนอุ่นๆ นำน้ำผึ้งและกากกาแฟที่กวนเข้ากันแล้วเทลงไปในหม้อกลีเซอรรีน 7.นำน้ำหอมที่เตรียมเทลงไปกวนให้เข้ากัน 8.ตักใส่แม่พิมพ์ แต่หากมีฟองเกิดขึ้นให้ฉีดเอทิลแอลกอฮอล์ลงไป 9.รอให้สบู่แข็งตัว ประมาณ 20 นาที 10.นำออกจากแม่พิมพ์ 11.นำมาห่อโดยซีลห่ออาหาร ส่วนการทำสบู่กาแฟผสมมะขาม ก็มีขั้นตอนเช่นเดียวกัน โดยเปลี่ยนแค่ตัววัตถุดิบเท่านั้น
นางประภาพรรณ กันตังพันธุ์ นายก อบต.วังวน กล่าวว่า จากสถานการณ์จากโควิด-19 ซึ่งมีผลกระทบต่อการดำรงชีวิต โดยเฉพาะด้านอาชีพและรายได้ ประกอบกับ ต.วังวน มีโครงการนวัตกรรมเรื่องเศษวัสดุเหลือใช้นำมาให้เกิดประโยชน์อยู่แล้ว เนื่องจากในพื้นที่มีวัสดุเหลือใช้จากทางจากของต้นจากอยู่เป็นจำนวนมาก และมีการทิ้งให้สกปรกรกรุงรัง โดยส่วนหนึ่งทาง อบต.ต้องเก็บขยะส่วนนี้ไปทิ้ง ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการจัดทิ้งในราคากิโลกรัมละ 75 สตางค์ หรือเดือนละประมาณ 20,000 กว่าบาท จึงได้คิดหาทางลดค่าใช้จ่าย และทำให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้น แถมยังสามารถสร้างให้เกิดรายได้กับประชาชน และสร้างความรักความสามัคคีในชุมชน ไม่ว่าจะเป็นตามร้านกาแฟสดต่างๆ หลังจากที่ใช้ชงกาแฟแล้ว ตามบ้านเรือน หรือตามสถานที่ต่างๆ โดยการนำมาทำเป็นสบู่จากกากกาแฟ ซึ่งก็ได้รับการสนับสนุนจาก มทร.ศรีวิชัย สงขลา และตรัง มาเป็นวิทยากร และร่วมลงพื้นที่ทำการวิจัยในพื้นที่เป็นปีที่ 3 แล้ว เพื่อนำเอาองค์ความรู้ที่น่าสนใจต่างๆ ลงมาสู่ชุมชน
