สตูล - “พริกไทยสุไหงอุเป” ผลผลิตดาวเด่นแห่ง อ.ทุ่งหว้า จ.สตูล ชาวบ้านรวมกลุ่มตั้งศูนย์เรียนรู้ฯ นำผลผลิตแปรรูปได้หลายชนิด สร้างงานสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ
พริกไทยสด สวยๆ เรียงตัวเต็มต้นพริกไทย บนแผ่นดินสุไหงอุเป หรือ อ.ทุ่งหว้า จ.สตูล ในปัจจุบันเป็นที่ต้องการของตลาดโลก ตั้งแต่ 150 ปีก่อน สมัยเจ้าพระยาภูมินารถภัคดี เจ้าเมืองสตูลในสมัยนั้น ซึ่งได้ส่งเสริมให้มีการปลูกพริกไทย ส่งออกไปยังรัฐปีนัง และอังกฤษ จนได้ขนานนามว่า “ปีนังน้อย” เพราะมีความเจริญรุ่งเรืองมากในขณะนั้น
ภายในศูนย์เรียนรู้พริกไทย เจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำเกษตรกร การเข้ามาสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐ ปัจจุบันเกษตรกร 3 ตำบล ได้แก่ ต.ทุ่งหว้า ต.นาทอน และ ต.ป่าแก่บ่อหิน ของ อ.ทุ่งหว้า จำนวน 40 ราย ยึดอาชีพปลูกพริกไทยพันธุ์สุไหงอุเป บนพื้นที่ 10 ไร่ ซึ่งให้ผลผลิตปีละ 1,000 กิโลกรัม จำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 2,000 บาท สร้างรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ ก่อนขยายผลสู่การแปรรูปผลิตภัณฑ์จากพริกไทย
นายพรหมพจน์ สิริพรชัยเจริญ ประธานศูนย์เรียนรู้พริกไทยสุไหงอุเป กล่าวว่า สาเหตุที่เริ่มต้นทำพริกไทย เพราะว่ามีการปลูกยางพารา และปาล์มน้ำมัน เดิมช่วงนั้นราคาปาล์ม และยางพาราตกต่ำ ในพื้นที่ปลูกยาง 300 ต้น เมื่อแบ่งกับคนตัดแล้วจะได้คนละ 100 บาท จึงคิดกันว่าจะปลูกอะไร หรือทำอะไรกันดีที่จะเพิ่มรายได้ แล้วภาพที่เราเคยเล่นในแปลงพริกไทยของพ่อที่สะพานวา ภาพพ่อเก็บพริกไทย เอาพริกไทยตาก มันขึ้นอยู่ในสมองเรา จึงค้นข้อมูลพริกไทย เจอพริกไทยซีลอน 300 บาท กับราคายางกิโลกรัมละ 30 บาท จึงเริ่มสนใจที่จะปลูกพริกไทย ก็เริ่มหาข้อมูลขึ้นเรื่อยๆ จึงมีการตั้งกลุ่มเล็กๆ ขึ้นมาในปี 2557 จดทะเบียนกับสำนักงานเกษตร มีหลายหน่วยงานเข้ามาสนับสนุน วิทยาลัยชุมชนเกษตรอำเภอเกษตรจังหวัด พัฒนาชุมชน อำเภอทุ่งหว้า และอีกหลายหน่วยงานเข้ามาช่วย
นางวรรณนภา คงเคว็จ เกษตรอำเภอทุ่งหว้า กล่าวว่า แปลงพริกไทยสุไหงอุเป เป็นพริกไทยโบราณของ อ.ทุ่งหว้า ขณะนี้พริกไทยสุไหงอุเป ได้ปลูกกันเกือบทุกบ้าน เราก็เลยส่งเสริมให้มีการรวมกลุ่ม โดยการจดทะเบียนวิสาหกิจชุมชน ณ ขณะนี้ก็รวมกลุ่มกันได้ 40 คน จนมีความสนใจมากรวมแล้วประมาณ 200 ราย ณ พื้นที่เดิมคือประมาณ 10 ไร่ แต่เมื่อรวบรวมเกษตรกรกันแล้วก็จะได้ประมาณ 100 ไร่ พริกไทยนี้จะมีลักษณะเด่นตรงที่ว่ามีความเผ็ดร้อน มีกลิ่นหอม เนื้อจะมีลักษณะเป็นแป้ง ผู้ที่ได้ชิมก็จะรู้ถึงรสชาติของความเผ็ด ความอร่อยของพริกไทย สำหรับผู้ที่มีความชื่นชอบในการกินพริกไทยนี้
โดยกลุ่มนี้ยังได้รับรางวัลผลิตภัณฑ์สินค้าดีเด่นของสภาเกษตรกร ในส่วนของสำนักงานเกษตรได้ส่งเสริมให้มีการขยายพันธุ์เพิ่ม เนื่องจากว่าการขยายพันธุ์เป็นไปด้วยความยากมาก ไม่เหมือนกับพริกไทยชนิดอื่น ตอนนี้ก็กำลังทำแปลงเพื่อขยายพันธุ์พืชอยู่ มีการให้ความรู้แก่เกษตรกรที่สนใจ เพื่อนำไปปลูกเอง และเพื่อจำหน่าย
อีกอย่างหนึ่งคือเป็นการเสริมรายได้ให้แก่เกษตรกร โดยทั่วไปพริกไทยจะชอบพื้นที่แดดจ้า แต่พริกไทยชนิดนี้จะชอบลักษณะที่มีความชื้น แต่ไม่ชื้นมาก อาจจะมีร่มเงาบ้างเล็กน้อย จะให้ผลผลิตที่สูง การให้ปุ๋ยก็รณรงค์ให้ใช้ปุ๋ยอินทรีย์จะไม่ให้ใช้สารเคมี ในส่วนของการดูแลรักษาจะใช้การตัดหญ้า และจะไม่ใช้สารเคมี เช่น การฉีดยา
จากผลพริกไทยสด 100 กิโลกรัม ตากแห้ง และคัดเมล็ดที่สมบูรณ์ คงเหลือ 40 กิโลกรัม ที่เหลืออีก 30 กิโลกรัม เกษตรกรจะนำไปแปรรูปเพิ่มมูลค่า โดยทำเป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ชนิดต่างๆ เช่น ขนมผูกรัก ข้าวเกรียบพริกไทย ไอศกรีมพริกไทย ลูกประคบ ยาดม และยาหม่องจากพริกไทย และยังมีอีกหลายผลิตภัณฑ์ที่นำพริกไทยมาแปรรูป
โดยชุมชนบ้านทุ่งหว้าโฮมสเตย์-สุไหงอุเปย้อนยุกต์ ซึ่งตั้งอยู่หมู่ 6 ต.ทุ่งหว้า อ.ทุ่งหว้า จ.สตูล มีเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนมาร่วมกันแปรรูปขนมของฝาก จำหน่ายให้แก่นักท่องเที่ยว รวมทั้งสาธิตการทำขนมพื้นเมืองให้นักท่องเที่ยวได้ชม และเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้ทดลองทำขนมบุหงาบูดะ สูตรพริกไทย ที่เริ่มตั้งแต่การร่อนแป้งลงบนกระทะ ใส่พริกไทยที่มีผสมงาขาวงาดำลงบนแป้ง จากนั้นใส่ไส้มะพร้าวหลากสี ก่อนบรรจงห่อให้เป็นรูปทรงสี่เหลี่ยม อย่างทะนุถนอม แตกบ้างเละบ้าง สร้างรอยยิ้ม และความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังได้ชมการทำคุกกี้พริกไทย ก่อนจะซื้อหาไปเป็นของฝาก สร้างงานและรายได้ให้แก่กลุ่มเครือข่ายเกษตรกรที่มารวมตัวกันที่นี่
ด้าน น.ส.วาสนา เศษแอ ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนคนรักดี กล่าวว่า กลุ่มพริกไทยสุไหงอุเปของเรามีผลิตภัณฑ์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นขนมบุหงาบูดะ ขนมผูกรัก ขนมพริกไทย ขนมข้าวเกรียบธัญพืชพริกไทย และลูกประคบพริกไทย การที่เรานำสินค้าพริกไทยมาแปรรูปเพื่อส่งเสริมให้ชุมชนของเรามีรายได้ และเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป เพราะพริกไทยสุไหงอุเปขึ้นชื่อเรื่องความหอม ความเข้มข้น และเผ็ดร้อน และมีที่เดียวในทุ่งหว้า ทำให้รสชาติของขนมเราเข้มข้นขึ้น เพราะมีรสชาติของพริกไทยผสมเข้ามา เหมือนขนมหวานก็จะลดความเลี่ยนของขนมหวานไปได้ เพิ่มรสชาติของพริกไทยล้วนๆ ทุกๆ ผลิตภัณฑ์ของเรามีส่วนผสมของพริกไทยทุกตัวเลย
ภาพขนมแต่ละชนิดถูกจัดอยู่บนจานอย่างสวยงาม สำหรับพริกไทยพันธุ์สุไหงอุเปนั้น เมื่อผ่านการคัดสรรอย่างดีจะถูกบรรจุขวดขนาด 100 กรัม ขายในราคา 250 บาท หรือซื้อขายเป็นกิโลกรัมละ 2,000 บาท ส่วนขนมของกลุ่มแม่บ้าน ซื้อขายหลากหลายราคา ตั้งแต่กระปุกละ 50 บาท หรือ 3 กล่อง 100 บาท นับว่าเกษตรกรในพื้นที่ อ.ทุ่งหว้า มีรายได้จากพริกไทยเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์