xs
xsm
sm
md
lg

ศาลนครศรีธรรมราชพิพากษาจำคุก “เทพไท เสนพงศ์” ร่วมน้องชาย คดีทุจริตเลือกตั้งนายก อบจ.

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นครศรีธรรมราช - ศาลนครศรีธรรมราชพิพากษาจำคุก “เทพไท เสนพงศ์” ร่วมน้องชาย “มาโนช เสนพงศ์” คดีทุจริตเลือกตั้งนายก อบจ. เตรียมร้อง กกต.ส่งคุณสมบัติ ส.ส.ให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาเชื่อขาดคุณสมบัติแล้วนับแต่ต้องคำพิพากษา

วันนี้ (28 ส.ค.) ที่ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อเวลา 10.00 น. นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ นายมาโนช เสนพงศ์ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช น้องชาย ซึ่งตกเป็นจำเลยในคดีทุจริตเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช ที่มี นายพิชัย บุณยเกียรติ อดีตนายก อบจ.นครศรีธรรมราช น้องชายของ นายชิณวรณ์ บุณยเกียรติ ในฐานะผู้เสียหายเป็นโจทก์ยื่นฟ้องด้วยตัวเอง โดยศาลนครศรีธรรมราช ได้นัดฟังคำพิพากษา โดยพบว่าโจทก์และจำเลยได้เดินทางมาศาล โดยมี นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส.พัทลุง รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางมาให้กำลังใจทั้ง นายเทพไท และนายพิชัย ซึ่งรู้จักสนิททั้งสองฝ่ายพร้อมทั้งเข้ารับฟังคำพิพากษาด้วย

โดยภายหลังจากฟังคำพิพากษาโดยสรุปศาลได้พิจารณาพิพากษาลงโทษจำคุก นายมาโนช เสนพงศ์ จำเลยที่ 1 และนายเทพไท เสนพงศ์ จำเลยที่ 2 เป็นเวลา 3 ปี ตัดสิทธิการเลือกตั้งเป็นเวลา 10 ปี โดยศาลได้พิจารณาปรานีโทษจำให้เหลือจำคุก 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา หลังจากนั้น ตำรวจศาลได้สวมกุญแจมือจำเลยทั้งสองส่งเข้าห้องควบคุมตัวใต้ถุนศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชทันที ขณะที่ทนายจำเลยได้เตรียมยื่นเรื่องขอประกันตัวเพื่อยื่นอุทธรณ์คดีต่อศาลอุทธรณ์ภายในเวลา 30 วัน โดยจนถึงขณะนี้ยังไม่ทราบผลว่าศาลได้พิจารณาให้ประกันตัวจำเลยทั้งสองหรือไม่


ขณะที่ นายพิชัย บุณยเกียรติ ในฐานะโจทก์ เปิดเผยว่า ต้องขอบคุณศาลที่ได้ให้ความชัดเจนในคำพิพากษา ที่ยืนยันว่าพยานหลักฐานโจทก์มีความมั่นคงแน่นหนา พยานจำเลยรับฟังไม่ได้ ขั้นตอนหลังจากนี้จะประสานกับ กกต.เพื่อดำเนินการยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้พ้นจากตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นไปตามกฎหมาย

ในเชิงข้อกฎหมายนั้นพ้นจากตำแหน่งโดยทันทีอยู่แล้ว แต่ด้วยขั้นตอนระเบียบปฏิบัตินั้น กกต.จะได้พิจารณายื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญตามขั้นตอน เพื่อให้ศาลสั่งให้พ้นสมาชิกภาพสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เพราะเป็นผู้ขาดคุณสมบัติแล้วอันเนื่องจากการถูกตัดสิทธิทางการเมือง 10 ปีนับแต่ต้องคำพิพากษาในวันนี้

สำหรับคดีนี้ กกต.ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เมื่อราว 6 ปีก่อน แต่กระบวนการมีความล่าช้าในระหว่างชั้นพนักงานสอบสวน ชั้นพนักงานอัยการ และชั้นพนักงานอัยการสูงสุด ท้ายที่สุด นายพิชัย บุณญเกียรติ ผู้เสียหายซึ่งเป็นโจทก์เห็นว่ามีความล่าช้าจนเกินสมควร ซึ่งจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่รูปคดีจึงตัดสินยื่นฟ้องด้วยตัวเอง ในขณะที่สำนวนคดียังอยู่ที่อัยการสูงสุด จนศาลได้มีคำพิพากษา และล่าสุดเมื่อวันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมา อัยการสูงสุดได้มีคำสั่งฟ้องในคดีเดียวกันนี้ โดยจะต้องนำตัวผู้จำเลยทั้งสองมาฟ้องซ้ำอีกครั้งตามขั้นตอน ซึ่งขึ้นอยู่กับศาลจะพิจารณาตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น