สตูล - ครูสตูลยุคใหม่แปลงกายเป็นพระฤๅษีสอนหนังสือนักเรียน ร.ร.บ้านช่องไทร อ.ทุ่งหว้า จ.สตูล หวังเพิ่มทักษะการจดจำ เรียกความสนใจให้เด็กขยันเรียน เผยนักเรียนมีผลการเรียนดีขึ้นทันตา
การเรียนการสอนแต่ละโรงเรียนในพื้นที่ จ.สตูล จะมีแนวการสอนที่แตกต่างกันไป เพื่อกระตุ้นให้นักเรียนอยากมาเรียน โดยเฉพาะวิชาภาษาไทย ครูโรงเรียนบ้านช่องไทร ถึงกับต้องลงทุนแปลงโฉมตัวเองก่อนเข้าสอนเพื่อสร้างสีสัน โดยคุณครูสอนเรื่องอะไรก็จะแต่งตัวให้เข้ากับสิ่งที่จะสอน จนสามารถเรียกความสนใจจากนักเรียนได้มากเลยทีเดียว
ที่โรงเรียนบ้านช่องไทร หมู่ 3 ต.นาทอน อ.ทุ่งหว้า จ.สตูล นักเรียนชั้น ป.1-.ป.6 จำนวน 149 คน กำลังเข้าแถวเคารพธงชาติ ส่วนอีกด้าน นายสุวิทย์ นวลสังข์ทอง ครูสอนวิชาภาษาไทย ก็กำลังแต่งตัวเป็นพระฤๅษี หนึ่งในตัวละครในวรรณคดีเรื่องสุดสาคร โดยเร่งเปลี่ยนชุดใส่เสื้อผ้าที่นำมาจากวัสดุที่เหลือใช้ เช่น หนวด ทำมาจากกาบมะพร้าว ใช้ยางวงรัดหัว ส่วนสร้อยคอลูกประคำ ก็ใช้ลูกยางพาราที่ช่วงนี้จะมีเยอะในพื้นที่มาร้อยเป็นสร้อย วิกผมลอนได้รับมาจากร้านเสริมสวยที่มอบให้ ส่วนชุดพระฤๅษีเป็นผ้าชิ้นลายเสือที่นำมาจากผ้าปูโต๊ะเอามาห่มตัวเหมือนห่มจีวร และครูสุวิทย์ จะใช้เหล็กยาวพันผ้าไว้ และมีระฆังแขวนอยู่ที่ไม้เท้า ซึ่งระฆังก็ได้จากโรงเรียนมอบให้ เพื่อให้ทันการสอนในคาบวิชาภาษาไทย ซึ่งวันนี้จะสอนวรรณคดีไทยเรื่องสุดสาคร
เมื่อแปลงกายเป็นพระฤๅษีเสร็จเรียบร้อย ก็ถือไม้เท้าวิเศษคู่กาย เข้าสอนนักเรียนชั้น ป.4 เมื่อถึงห้องเรียน ครูสุวิทย์ ในรูปของพระฤๅษีก็ตีระฆัง ก่อนร่ายบทกลอนอันไพเราะ ด้านนักเรียนก็ร่ายบทกลอนตอบประสานเสียงกันอย่างไพเราะน่าฟัง ครูสุวิทย์ ร้องบทกลอนไป เดินหลังโก่งไปรอบๆ ห้องเรียน เหมือนคุณตาพระฤๅษีออกจากหนังสือเรียนมาสอนด้วยตนเอง เด็กนักเรียนต่างสนใจเรียน และดูมีความสุข ทำให้คาบเรียนวิชาภาษาไทยไม่น่าเบื่อ ครูสร้างความจดจำผ่านตัวละครได้อย่างสนุกสนาน เด็กจะตื่นเต้นกับชุดที่ครูสวมใส่มา ซึ่งไม่ซ้ำกันในแต่ละวัน
นายสุวิทย์ นวลสังข์ทอง ครูสอนวิชาภาษาไทย กล่าวว่า สืบเนื่องมาจากโลกมีการเปลี่ยนแปลง สังคมมีการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 เพราะฉะนั้น ตามนโยบายของกระทรวงต้องมีการปฏิรูปการเรียนรู้ โดยยึดนักเรียนเป็นสำคัญ เราต้องการให้นักเรียนเกิดทักษะหลายๆ อย่าง ซึ่งนักเรียนจะนำทักษะเหล่านี้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ เด็กในศตวรรษที่ 21 ต้องเป็นเด็กที่อยู่ในโลกแห่งการเรียนรู้ เพราะฉะนั้น ครูต้องเปลี่ยนบทบาท ต้องปรับวิธีเรียน เปลี่ยนวิธีสอน จากในยุคก่อนเราจะเห็นได้ว่า ตอนที่ยุคเราเคยเรียนภาษาไทยกันมา พอถึงภาคภาษาไทยคุณครูจะถือหนังสือเข้ามา แล้วมาป้อนความรู้ให้เรา เข้ามาในยุคนี้ เนื่องจากว่าสังคมมันเปลี่ยนไปแล้ว เด็กเขาอาจจะเรียนรู้ในเรื่องที่กำลังจะเรียนพรุ่งนี้ก่อนคุณครูแล้ว เด็กสามารถที่จะเปิดหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต เพราะฉะนั้น เด็กกับครูต้องเรียนรู้ไปด้วยกัน โดยเราจะเน้นให้เด็กค้นคว้าด้วยตัวเอง ครูต้องจัดกระบวนการเรียนรู้โดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
เพราะฉะนั้น แรงบันดาลใจที่ต้องปรับวิธีเรียนเปลี่ยนวิธีสอน ประการสำคัญหนึ่งคือ อยากพัฒนาเด็ก อีกอย่างถ้าครูแน่วแน่ที่จะพัฒนา ด้วยหลากหลายวิธีที่ครูจะเอามา ผลคะแนนมันต้องขึ้นอยู่แล้ว เด็กย่อมได้รับการพัฒนา เพราะเป็นไปไม่ได้ที่เด็กจะพัฒนาโดยที่ครูยังใช้วิธีการสอนแบบเดิมอยู่ เพราะฉะนั้น วิชาภาษาไทย เป็นวิชาที่เอื้อต่อการจัดการเรียนการสอนที่หลากหลาย แต่ละสาระสามารถจัดได้อย่างน่าสนใจ ที่สำคัญคือครูผู้สอน ครูคือสื่อการสอนที่สำคัญที่สุด สิ่งที่ได้รับอย่างแรกก็คือคะแนนผลสัมฤทธิ์ปีนี้ขึ้นเยอะ อย่างที่ 2 ที่สำคัญกว่าผลสัมฤทธิ์ก็คือเด็กมีความสุขกับการเรียนภาษาไทย และเด็กอยากมาโรงเรียน
ด้าน น.ส.ธาริกา กุกามา ผู้อำนวยการชำนาญการพิเศษ โรงเรียนบ้านช่องไทร กล่าวว่า จากการที่ครูเปลี่ยนแปลงการเรียนการสอน ทำให้เด็กนักเรียนสนใจเรียนมากขึ้น นักเรียนจะรอว่าครูจะแต่งเป็นอะไรในการเรียนวรรณคดีในวันนี้ ส่งผลให้การเรียนการสอนมีประสิทธิภาพมากขึ้น ผลโอเน็ตสูงขึ้น ผลการเรียนก็สูงขึ้น นักเรียนมีความตั้งใจเรียนมากยิ่งขึ้น โดยเริ่มแรกที่ครูเปลี่ยนแปลงการเรียนการสอนจะใช้อุปกรณ์เสริม เช่น ผ้า ส่วนการแต่งตัวที่ผ่านมาจะแต่งเป็นแม่นาค เพื่อดึงดูดให้นักเรียนอยากเรียนมากยิ่งขึ้น แต่งเป็นพระอภัยมณี บางครั้งก็เอาสไบมาห่มอย่างเดียว ถ้ามีเวลาน้อยก็จะแต่งง่าย แต่ถ้ามีเวลามากก็จะแต่งเต็มรูปแบบ ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายในการแต่งตัวนั้นครูไม่เคยขอ แต่ทางโรงเรียนจะสนับสนุนสื่อที่จำเป็นต้องใช้
ด.ช.ธีรเดช แก้วขาว อายุ 9 ปี และ ด.ช.อิงครัต เกื้อเดช อายุ 10 ปี หัวหน้าห้องเรียน บอกว่า วันนี้คุณครูแต่งตัวเป็นพิเศษ ชอบเพราะทำให้เด็กในโรงเรียนไม่เบื่อวิชาภาษาไทย พอถึงคาบมันก็สนุกเพราะครูแต่งตัว ผมชอบครูแตตัวเป็นผีที่สุด เพราะว่ามันมีอยู่ในหนังสือ ครูสอนบทไหนก็จะแต่งตัวตามบทนั้น มันจะเข้าใจได้ง่ายขึ้นว่าตัวละครนั้นเป็นอะไร จะได้ให้เด็กเห็นภาพด้วย และไม่อยากให้ครูย้ายไปไหน
นอกจากนี้ ครูสุวิทย์ นวลสังข์ทอง ครูสอนวิชาภาษาไทย ยังสร้างสื่อการเรียนการสอนอีกหลายอย่าง เช่น รูปภาพประกอบการออกเสียง เช่น อะ อา อิ อี อุ อู ครูสุวิทย์ บอกอีกว่า ไม่สงวนแนวคิดนี้ สำหรับครูที่อยากสอนแนวนี้ก็ลองสอนเลย เด็กจะตั้งใจเรียนมากขึ้น ทำให้ผลการเรียนดีขึ้นด้วย สำหรับโรงเรียนบ้านช่องไทร มีนักเรียนทั้งหมด 149 คน ครูสุวิทย์ จะสอนชั้น ป.4-ป.6