ปัตตานี - ทัพเรือภาค 2 จับกุมเรือเวียดนาม 4 ลำ พร้อมด้วยลูกเรือ 36 คน ลักลอบทำประมงผิดกฎหมายในพื้นที่เศรษฐกิจจำเพาะ บริเวณแบริ่ง 180 ระยะทาง 92 ไมล์ จากปลายแหลมตาชี
วันนี้ (18 ส.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ท่าเทียบเรือหน่วยป้องกันและปราบปรามประมงทะเลปัตตานี ต.รูสะมิแล อ.เมือง จ.ปัตตานี น.อ.ธีรนันท์ มาแดง รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล จ.ปัตตานี พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าวการจับกุมเรือประมงต่างชาติที่ลักลอบเข้ามาทำประมงผิดกฎหมาย จำนวน 4 ลำ พร้อมด้วยลูกเรือ 36 คน
ทั้งนี้ พล.ร.ท.สำเริง จันทร์โส ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 2 และผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 ได้รับรายงานจากเรือประมงไทยที่ทำการประมง ว่า พบเรือต่างชาติลักลอบทำการประมงโดยผิดกฎหมาย จึงได้สั่งการให้เรือหลวงประจวบคีรีขันธ์ ออกเรือลาดตระเวนพิสูจน์ให้ทราบ และได้ตรวจพบเรือประมงต่างชาติ 4 ลำ ในพื้นที่เขตเศรษฐกิจจำเพาะ บริเวณแบริ่ง 180 ระยะทาง 92 ไมล์ จากปลายแหลมตาชี อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี จากการตรวจสอบ พบว่า เป็นเรือประมงสัญชาติเวียดนาม ประเภทเรืออวนล้อม จำนวน 2 ลำ และเรือปั่นไฟ จำนวน 2 ลำ ลูกเรือ จำนวน 36 คน จึงได้ควบคุมเรือดังกล่าวมาทำการสอบสวนที่ท่าเทียบเรือหน่วยป้องกันและปราบปรามประมงทะเลปัตตานี เพื่อส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำหรับการดำเนินคดีต่อเรือประมงสัญชาติเวียดนาม เนื่องจากเป็นการจับกุมในพื้นที่เขตเศรษฐกิจจำเพาะ จึงได้ตั้งข้อกล่าวหาผู้กระทำความผิดไว้ 5 ข้อหา ดังนี้ 1.ร่วมกันทำการประมงพาณิชย์โดยไม่มีใบรับอนุญาตทำการประมง 2.ทำการประมงในเขตการประมงไทย โดยทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุมเรือโดยไม่ได้รับอนุญาต 3.เป็นคนต่างด้าวร่วมกันทำหน้าที่เป็นลูกเรือในเรือประมงโดยไม่ได้รับอนุญาต 4.ไม่เข้าออกตามช่องด่านตรวจคนเข้าเมือง เขตท่าสถานีหรือท้องที่ที่กำหนด/ไม่เข้าออกตามเวลาที่กำหนด และ 5.เข้ามาหรือออกไปโดยยื่นรายการและไม่ผ่านการตรวจของพนักงานเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจคนเข้าเมืองเส้นทางนั้น
สำหรับการจับกุมเรือประมงต่างชาติ ในพื้นที่ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 2 ในปี 2563 ได้จับกุมมาแล้ว 12 ครั้ง รวม 22 ลำ ในการจับกุมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 13 รวมทั้งหมด 26 ลำ ลูกเรือ จำนวน 165 คน สำหรับพื้นที่รับผิดชอบของศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 2 ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 113,275 ตารางกิโลเมตร
