xs
xsm
sm
md
lg

ศบค.ลงพื้นที่ภูเก็ต หารือเตรียมความพร้อมผ่อนปรนให้คนต่างชาติเข้าภูเก็ต ฟื้นฟูเศรษฐกิจ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ศบค.ลงพื้นที่ภูเก็ต หารือเตรียมความพร้อมผ่อนปรนให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าภูเก็ต ขับเคลื่อนท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ ระบุหากพร้อมเริ่มรับจากกลุ่มเล็กๆ มากักตัวใน ALSQ 14 วัน ก่อนท่องเที่ยวตามจุดที่กำหนด พร้อมกำหนดแนวทางสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้แก่ชาวภูเก็ตก่อนนำต่างชาติเข้ามา

วันนี้ (13 ส.ค.) พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รองผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะรองหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการ ศบค. และคณะ เดินทางมายังจังหวัดภูเก็ตเพื่อประชุมหารือเตรียมความพร้อมรับการท่องเที่ยวภูเก็ต "Phuket Bubble Model" โดยมี นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต หัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน เข้าร่วม ณ ห้องประชุมคอซิมบี้ ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต

พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า การลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตในครั้งนี้ เนื่องจากนายกรัฐมนตรีห่วงใยความเป็นอยู่ของคนภูเก็ต และเศรษฐกิจของภูเก็ตที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทาง ศบค.ชุดเล็ก จึงได้เดินทางมาภูเก็ตในวันนี้ เพื่อมารับทราบข้อมูล และรับฟังความคิดเห็นของคนภูเก็ตในการที่จะผ่อนปรนให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามายังจังหวัดภูเก็ตได้ ว่าภูเก็ตมีความพร้อม และมีศักยภาพในการต้อนรับชาวต่างชาติมากน้อยแค่ไหน เพื่อทาง ศบค.จะได้นำข้อมูลไปประกอบการตัดสินใจว่าจะมีการผ่อนปรนให้ชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวที่ภูเก็ตเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของภูเก็ตให้เดินต่อไปได้

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะลงมาภูเก็ตได้รับทราบข้อมูลบางส่วนทั้งจากภาคราชการและเอกชน ว่า ชาวภูเก็ตมีทั้งที่เห็นด้วย เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และไม่เห็นด้วยในการที่จะผ่อนปรนให้นำคนต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวภูเก็ต เนื่องจากยังมีความกังวลในเรื่องของการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ซึ่งการที่จะนำต่างชาติเข้ามาภูเก็ตนั้นจะต้องเกิดจากความยินยอมของคนภูเก็ตเท่านั้น เพื่อให้คนภูเก็ตเกิดความสบายใจและมีความสุข


พล.อ.ณัฐพล กล่าวต่อว่า การที่จะพิจารณาผ่อนปรนให้คนต่างชาติเข้าภูเก็ตได้นั้น ในเบื้องต้นทางจังหวัดภูเก็ตจะต้องดำเนินการดังต่อไปนี้ คือ 1.ต้องมีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการจังหวัดภูเก็ต (ศปก.จว.ภูเก็ต) ในการบริหารงานอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ มีคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ซึ่งประกอบด้วย ผู้แทนส่วนราชการต่างๆ อย่างครบถ้วนเป็นทีมงานดำเนินการ และทางสำนักงานสาธารณสุขต้องเป็นเจ้าหน้าที่หลักที่คอยให้ข้อเสนอแนะด้านสาธารณสุขอย่างมีหลักการและประสานสอดคล้องในทุกมิติ รวมไปถึงต้องมีการชี้แจงข้อมูลข้อเท็จจริงต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างทันท่วงทีต่อเนื่อง และจะต้องชี้แจงอย่างเปิดเผยตามความเป็นจริง มีระบบการติดตามและรายงานต่อ ศปก.ศบค. แบบสื่อสารสองทางอย่างใกล้ชิดต่อเนื่อง และมีประสิทธิภาพ

2.การเตรียมความพร้อมของท่าอากาศยานภูเก็ต ต้องมีมาตรการคัดกรองบุคคลเดินทาง เข้ามาในพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพทั้งการคัดกรองคนไทยและคนต่างชาติ ต้องพัฒนาขีดความสามารถในการตรวจหาผู้ติดเชื้อโควิด-19 อย่างเพียงพอใช้เวลาไม่มากและมีประสิทธิภาพ มีการอำนวยความสะดวกให้แก่บุคคลที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่อย่างเป็นระบบโดยยึดถือมาตรฐานรักษาความปลอดภัยบุคคลและสถานที่อย่างเคร่งครัด มีระบบคุมไว้สังเกตและการรายงาน ศปก.จังหวัดภูเก็ต มีการแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการการเดินทางเข้ามาทางอากาศ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธาน และมีผู้แทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งทหาร และตำรวจ เพื่อรับผิดชอบในการควบคุมกำกับดูแลให้เป็นไปตามมาตรฐานที่ ศบค. กำหนด

3.มีการจัดตั้ง Alternative Local State Quarantine (ALSQ) ที่มีประสิทธิภาพและมีจำนวนเพียงพอ จะต้องเป็นไปตามมาตรฐานที่กรมส่งเสริมสุขภาพ (สบส.สธ.) กำหนด


4.มีการกำหนดเส้นทาง และยานพาหนะที่จะรับส่งคนต่างชาติเฉพาะ จากท่าอากาศยานไปยัง ALSQ ที่เป็นระบบปิด หรืออยู่ในระบบคุมไว้สังเกตตลอด มีทีมติดตามทางการแพทย์และสาธารณสุขในการกำกับดูแลการดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ในภาพรวมของจังหวัดให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

5.กำหนดพื้นที่ท่องเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ (คนไทยสามารถร่วมกิจกรรมได้) เมื่อกักตัวครบ 14 วัน ต้องเป็นพื้นที่ค่อนข้างปิด หรือควบคุมการเข้าออกได้ และจำกัดเฉพาะบางพื้นที่ ให้มีการประเมินผลการดำเนินงานและประเมินความพร้อมของส่วนที่เกี่ยวข้อง หากมีผลการดำเนินการที่เป็นระบบมีประสิทธิภาพจึงให้ขยายผลไปยังพื้นที่อื่นๆต่อไป ทั้งในภูเก็ต และพื้นที่ใกล้เคียง และให้มีการเข้มงวดในลักษณะคุมไว้สังเกตของบุคคลที่เดินทางเข้าออกพื้นที่จังหวัดภูเก็ตทั้งทางบกและทางน้ำเพื่อสวัสดิภาพของชาวภูเก็ตในภาพรวมด้วย


นอกจากนี้ ได้นำข้อเสนอแนะอื่นๆ เพื่อให้จังหวัดภูเก็ต ได้เป็นข้อมูลในการเตรียมความพร้อมหากมีการ เปิดรับนักท่องเที่ยว ดังนี้ 1.ต้องมีแผนเตรียมความพร้อมด้านสาธารณสุขทั้งด้านบุคลากรทางการแพทย์และเวชภัณฑ์ รวมทั้งสิ่งของจำเป็นสำหรับ ดำรงชีวิตให้มีความพร้อมระดับหนึ่งรองรับการระบาดรอบต่อไปที่อาจเกิดขึ้น 2.อาจพิจารณาจัดตั้งกองทุนเตรียมความพร้อมรองรับการระบาดที่อาจเกิดขึ้นเพื่อให้ชาวภูเก็ตที่มีความกังวลได้มีความผ่อนคลายขึ้นบ้าง โดยมีการหารือในการแบ่งส่วนรายได้จากการอนุญาตให้บุคคลต่างชาติเดินทางเข้าพื้นที่สมทบกองทุนดังกล่าวด้วยความสมัครใจและการยอมรับจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และ 3.ให้มีการสร้างการรับรู้สร้างความเข้าใจให้แก่เจ้าหน้าที่หรือบุคลากรที่เกี่ยวข้องหรือมีส่วนร่วมในแต่ละกิจกรรมให้ยึดถือมาตรฐาน Self-Quarantine ตามที่สาธารณสุขกำหนดโดยเคร่งครัด

อย่างไรก็ตาม การผ่อนคลายให้คนต่างชาติโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในจังหวัดภูเก็ต จะสามารถทำได้เมื่อไหร่ อย่างไร สิ่งสำคัญ คือ ภาครัฐจะต้องมีความพร้อม ภาคเอกชนจะต้องมีความพร้อม และภาคประชาชนจะต้องมีความพร้อม ถ้าภูเก็ตยังไม่พร้อม ก็ยังไม่ดำเนินการ

พล.อ.ณัฐพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้การเริ่มต้นรับนักท่องเที่ยชาวต่างชาติเข้ามาภูเก็ตในช่วงแรกนั้น อาจจะเริ่มด้วยการทดลองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มเล็กๆ 3-4 คนเข้ามาก่อน เพื่อเซ็ตระบบให้มีความพร้อม อาจจะเริ่มตั้งแต่ 15 สิงหาคมนี้เป็นต้นไป ซึ่งจะต้องมีการประเมินการทำงานทุกขั้นตอน หากประสบความสำเร็จจึงจะขยายผลไปสู่นักท่องเที่ยวกลุ่มที่ใหญ่ขึ้น อาจจะมาด้วยชาร์เตอร์ไฟลต์ แต่ในเบื้องต้นที่ทดลองนั้นจะต้องผ่านมาทางสนามบินสุวรรณภูมิก่อน และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจะเข้ามาภูเก็ตได้นั้นจะต้องผ่านการเห็นชอบจาก ศบค.ก่อนเท่านั้น

“ถ้าภูเก็ตมีความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ศบค.ก็จะเริ่มดำเนินการเตรียมความพร้อมในการให้ภูเก็ตเปิดรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ซึ่งข้อมูลที่ได้รับในวันนี้จะนำเสนอนายกรัฐมนตรีต่อไป”


ขณะที่ นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ในมุมมองของภาคเอกชนภูเก็ต การนำนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามานั้น ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของคนภูเก็ตเป็นสำคัญ เพื่อให้คนภูเก็ตหายกังวลในเรื่องของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทางเอกชนได้มีการนำเสนอภูเก็ตโมเดลไปยังรัฐบาลแล้ว คือ กลุ่มเป้าหมายที่จะนำเข้ามานั้นจะต้องเป็นประเทศที่ปลอดภัยจากเชื้อโควิด-19 มีระบบการจัดการและป้องกันที่ดี เมื่อมาถึงสนามบินจะต้องมีการตรวจหาเชื้อก่อนที่จะให้เข้ามาในพื้นที่ หลังจากที่เข้ามาแล้วจะมีระบบการติดตามตัว และจะรับนักท่องเที่ยวเพียงวันละ 29,000 คนตามศักยภาพที่ความพร้อมของห้องไอซียูที่มีหากมีการแพร่เชื้อเกิดขึ้น ซึ่งเป็นจำนวนที่ลดลงจากก่อนหน้าที่จะเกิดโควิด-19 ถึง 50% แต่เป็นจำนวนที่ภาคส่วนธุรกิจต่างๆ ในภูเก็ตสามารถเดินต่อไปได้

“ภูเก็ตจะค่อยๆ แย้มประตูรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบค่อยเป็นค่อยไป เลือกรับเฉพาะกลุ่มที่มั่นใจว่าจะไม่นำเชื้อเข้ามาในภูเก็ต เริ่มจากกลุ่มเล็กๆ ที่มาด้วยเครื่องบินส่วนตัว หรือชาร์เตอร์ไฟลต์ แล้วค่อยขยับเป็นกลุ่มที่ใหญ่ขึ้นตามความพร้อมและความมั่นใจของคนภูเก็ต”


กำลังโหลดความคิดเห็น