พัทลุง - คนร้ายลอบเผารถแบ็กโฮพร้อมยิงปืน 4 นัด พบเป็นรถของผู้รับเหมาจากกรุงเทพฯ เข้ามาก่อสร้างพนังกันน้ำของเทศบาลเมืองพัทลุงได้แค่ 3 วัน เผยเสนอราคาต่ำกว่าราคากลางถึง 5 แสนบาท จาก 5 ล้านบาท เหลือ 4.5 ล้านบาท
วานนี้ (12 ส.ค.) เมื่อเวลา 23.40 น. พ.ต.ท.ศิริพงศ์ สุขแก้ว สารวัตรเวรสอบสวน สภ.เมืองพัทลุง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลเมืองพัทลุง พร้อมด้วยข่ายรถยกตำรวจทางหลวง ฉก.ใต้หว้า พัทลุง เข้าตรวจสอบภายในวัดนางลาด หมู่ที่ 11 ต.เขาเจียก อ.เมืองพัทลุง หลังได้รับแจ้งว่า มีคนร้ายเข้ามาลักลอบวางเพลิงรถแบ็กโฮ ของบริษัท เอส แอนด์ เอ็น โซลูชั่น จำกัด ผู้รับเหมาที่เข้ามาก่อสร้างพนังกั้นน้ำ โครงการของเทศบาลเมืองพัทลุง ยังไม่แล้วเสร็จ และได้จอดอยู่บริเวณหลังเมรุภายในวัด ขณะไปถึงไฟกำลังลุกไหม้อยู่บริเวณห้องเครื่อง โดยเจ้าหน้าที่รถยกที่ไปถึงก่อนได้ช่วยกันนำน้ำเข้ามาราดจนดับ ก่อนที่รถดับเพลิงจะเข้ามาถึง
จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบว่า มีร่องรอยการราดน้ำมันเชื้อเพลิงบริเวณรอบๆ รถแบ็็กโฮ จากการสอบถามพระสงฆ์ภายในวัด กล่าวว่า ขณะที่กำลังนั่งอ่านหนังสือกันอยู่ภายในกุฏิ จู่ๆ ก็ได้ยินเสียง คล้ายอาวุธปืนดังขึ้น จำนวน 4 ครั้ง หลังสิ้นเสียงออกมาดู พบว่า มีรถจักรยานยนต์ขับออกไปจากซอยหน้าวัด และหันไปเห็นรถแบ็กโฮที่จอดอยู่บริเวณดังกล่าวมีไฟลุกไหม้โหมอยู่ จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่
ล่าสุด เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (13 ส.ค.) ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน ตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุงพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองพัทลุง และเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองพัทลุง เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง พร้อมเก็บวัตถุพยานในที่เกิดเหตุ พบไฟแช็ก 1 อัน และฝาแกลลอนน้ำมันที่คาดว่าคนร้ายเปิดทิ้งไว้ก่อนจุดไฟเผา
ด้าน นายดำรงฤทธิ์ ศรีภักดิ์ ผู้ดูแลงานของบริษัท เอส แอนด์ เอ็น โซลูชั่น จำกัด ระบุว่า บริษัทเพิ่งเข้ามาดำเนินการปรับพื้นที่สร้างพนังกันน้ำตรงบริเวณหลังวัดได้ 3 วัน ซึ่งสาเหตุตนก็ไม่ทราบเช่นกัน
ทั้งนี้ โครงการสร้างพนังกันน้ำบริเวณหลังวัดนางลาด เทศบาลเมืองพัทลุง ตั้งงบประมาณไว้ 5 ล้านบาท โดยมีผู้รับเหมาเข้าซื้อซองหลายราย หนึ่งในจำนวนนั้นเป็นบริษัท เอส แอนด์ เอ็น โซลูชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทจากกรุงเทพฯ มีนางสุมาลี กาญจนนิคม เป็นกรรมการบริษัท เสนอราคาโดยกดราคาเหลือ 4,500,000 บาท โดยทำสัญญาก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 2 มิ.ย.2563 สิ้นสุดโครงการ 28 ม.ค.2564 และเพิ่งได้ดำเนินการก่อสร้าง
ด้านการสอบสวนของตำรวจ กำลังหาภาพจากกล้องวงจรปิดในพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อหาเบาะแสคนร้าย และประสานเจ้าของบริษัทเข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกครั้งหนึ่ง