xs
xsm
sm
md
lg

กมธ.ที่ดินลุยตรวจสอบสวนปาล์มในกันตัง หลังพบมีปัญหาล่าช้าเพิกถอน น.ส.3 ก.ออกโดยมิชอบ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ตรัง - หัวหน้าคณะทำงานวิสามัญฯ สภาผู้แทนราษฎร ลงพื้นที่ตรวจสอบสวนปาล์มกว่า 600 ไร่ ในพื้นที่ ต.วังวน อ.กันตัง จ.ตรัง ที่มีปัญหาล่าช้าในการเพิกถอน น.ส.3 ก. ซึ่งออกโดยมิชอบ แต่กลับยืดเยื้อมานานหลายปี

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง เขต 2 พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงาน คณะกรรมาธิการวิสามัญ (กมธ.) พิจารณาศึกษาปัญหาที่ดิน และการออกเอกสารสิทธิในที่ดิน สภาผู้แทนราษฎร ลงตรวจสอบพื้นที่สวนปาล์มน้ำมันของนายทุน เนื้อที่รวมกว่า 600 ไร่ ในพื้นที่บ้านทุ่งไพร หมู่ 5 ต.วังวน อ.กันตัง จ.ตรัง หลังชาวบ้านร้องเรียนว่า กรมที่ดินดำเนินการล่าช้าในการเพิกถอน น.ส.3 ก. จำนวน 11 ฉบับ ออกจากสารบบที่ดิน ตามมติของอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐจังหวัดตรัง เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2560 หลังตรวจสอบแล้วพบว่า ออกเอกสารสิทธิ น.ส.3 ก.ทั้ง 11 ฉบับดังกล่าว ออกมิชอบด้วยกฎหมายตั้งแต่ปี 2533 โดยออกผิดตำแหน่ง และเนื้อที่มากว่าหลักฐาน ส.ค.1 เดิม แถมยังออกทับที่ดินทำกินของชาวบ้าน พร้อมทั้งยังมีการฟ้องขับไล่ชาวบ้าน ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินเดิมออกจากพื้นที่ด้วย

จากนั้นคณะได้ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบตำแหน่งที่ตั้งของสวนปาล์มน้ำมันดังกล่าว แต่ในที่นี้ไม่สามารถจะเดินทางเข้าไปด้วยรถยนต์ได้ เพราะถูกนายทุนผู้ถือครองที่ดินทำรั้วปิดกั้น ไม่ให้เจ้าของที่ดินเดิม และบุคคลภายนอกเข้าไปในพื้นที่ได้ คณะจึงต้องยอมนั่งเรือหางยาวลัดเลาะเข้าไปตามลำคลองเดิมที่ชาวบ้านเคยเข้าไปทำมาหากิน ซึ่งขณะนี้พบว่ามีการถมคลองสาธารณะเดิม จนเปลี่ยนเส้นทางไหลของน้ำ และยังมีการบุกรุกเพิ่มเข้าไปในป่าชายเลนเพื่อปลูกปาล์มน้ำมันด้วย ทำให้คณะต้องนั่งเรือลัดเลาะไปตามลำคลองใหม่ที่รกรุงรังอย่างทุลักทุเล


นายสาทิตย์ กล่าวว่า ได้ลงพื้นที่มาตรวจสอบสภาพพื้นที่จริง และรับฟังปัญหาของชาวบ้านที่ถูกเจ้าหน้าที่ที่ดินบางคน ร่วมมือกับนายทุนในขณะนั้น นำเอาเลขที่ ส.ค.1 เดิมของชาวบ้าน ไปออกเป็น น.ส.3 ก.ทั้ง 11 ฉบับ เนื้อที่รวมกว่า 600 ไร่ ทั้งที่ ส.ค.1 เดิม มีเนื้อที่เพียง 100 ไร่เศษเท่านั้น ซึ่งกรณีนี้ทางเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดตรัง สาขากันตัง ที่เดินทางมากับคณะด้วย ได้ชี้แจงให้ทราบว่าจะเร่งเรียกประชุมคณะกรรมการที่กรมที่ดินแต่งตั้งมาให้เร็วที่สุดไม่เกินวันที่ 20 สิงหาคมนี้ แล้วเสร็จจะเรียกชาวบ้านที่ถือเอกสาร ส.ค.1 เดิม ไปสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้งหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ถ้ามีเอกสารเดิมที่สอบปากคำไปแล้วใช้ได้ก็จะใช้ของเดิม แต่ถ้าข้อมูลยังไม่ครบก็จะสอบเพิ่มรวมทั้งข้างเคียง จากนั้นจะประมวลผลรายงานไปที่กรมที่ดินให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน

นอกจากนั้น ในส่วนของตนเอง นายสาทิตย์ กล่าวว่า จะนำปัญหาดังกล่าวเข้าคณะกรรมาธิการที่ดิน สภาผู้แทนราษฎร พร้อมจะเชิญอธิบดีกรมที่ดิน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจง เพื่อให้เรื่องจบ เพราะอำนาจการเพิกถอนเป็นอำนาจของอธิบดีกรมที่ดิน เชื่อว่าเรื่องนี้จะต้องได้ข้อยุติเสียที โดยตนเองก็ได้ทำความเข้าใจกับชาวบ้านแล้วว่า ถ้าถึงที่สุดกรมที่ดินมีคำสั่งเพิกถอน น.ส.3 ก. ออกจากสารบบที่ดิน ก็เชื่อว่าทางเจ้าของผู้ครอบครองก็มีสิทธิจะดำเนินการฟ้องร้อง อาจจะต้องใช้ระยะเวลาอีกในกระบวนการศาล แต่ส่วนตัวเชื่อมั่นในระบบยุติธรรมว่า ถ้าที่ดินเป็นของใคร ก็ต้องเป็นของคนนั้น ไม่อาจเป็นอื่นได้


ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ที่ผ่านมาทางที่ดินกันตังทำงานล่าช้า เปลี่ยนเจ้าพนักงานที่ดินไปแล้วหลายคน และไม่มีใครอยากแก้ปัญหาเรื่องนี้ ทำให้กระบวนการเพิกถอนล่าช้ายาวนานมาแล้วกว่า 3 ปี จนถูกชาวบ้าน และสังคมมองว่า จ้าหน้าที่ที่ดินกันตังยื้อเวลา โดยมีเรื่องผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง หลังจากนี้ในฐานะที่เป็นคณะกรรมาธิการการที่ดินจะติดตามเรื่องนี้อย่างไรให้แล้วเสร็จ ตามระยะเวลาที่รับปากไว้กับชาวบ้าน

นายสาทิตย์ กล่าวว่า หลังจากนี้เชื่อว่าจะยื้อเวลาไม่ได้แล้ว เพราะกระบวนการผ่านมาหลายปีแล้ว และคิดว่าคนที่ยื้อเรื่องนี้ต่อไป จะต้องระวังจะถูกข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ส่วนตัวก็จะติดตามด้วย เพื่อให้เรื่องจบให้ได้ในยุคตน ขณะเดียวกัน ก็เตรียมตรวจสอบเจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าฯ ในพื้นที่ ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เพราะไม่ดำเนินการแจ้งความเอาผิดนายทุน ตามคำสั่งอธิบดีกรมอุทยานฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นับตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นมา ที่มีการร้องเรียนเรื่องนี้ ได้มีการตรวจสอบอย่างจริงจังจากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่าปัญหาการดำเนินการเพื่อเพิกถอน น.ส.3 ก.ออกจากสารบบนั้น ทางเจ้าหน้าที่ที่ดินอำเภอกันตัง มีการดำเนินการอย่างล่าช้า และมีการขอย้ายออกจากพื้นที่แล้วหลายคน






กำลังโหลดความคิดเห็น