พัทลุง - เศร้าสลด! สมาชิก อบต.ปันแต อ.ควนขนุน จ.พัทลุง พร้อมกับภรรยา เข้าแย่งอาวุธปืนจากลูกชายวัย 25 ปี ที่กำลังถือจะเอาไปยิงคู่อริจนเกิดปืนลั่น ลูกชายเสียชีวิตคาที่ ส่วนแม่ได้รับบาดเจ็บ
เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานสถานีตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุมิตร ศรีนวล ผกก.สภ.ควนขนุน และแพทย์เวร ได้เข้าตรวจสอบเหตุปืนลั่นจนมีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บ ที่บ้านเลขที่ 200 หมู่ 1 ต.แหลมโตนด อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ของนายวุฒิพงศ์ เส้งเอียด อายุ 53 ปี อบต.หมู่ 15 ต.ปันแต อ.ควนขนุน
โดยเมื่อไปถึงที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบศพ นายเกริกชัย เส้งเอียด อายุ 25 ปี ลูกชายเจ้าของบ้าน นอนจมกองเลือดอยู่บริเวณประตูบ้าน โดยมีนายวุฒิพงศ์ ผู้เป็นพ่อนั่งมองร่างของลูกชายด้วยอาการเสียใจ บริเวณห้องโถงใกล้กับศพยังพบกองเลือดอีกหลายจุด ทราบว่าเป็นเลือดของ นางอมรรัตน์ เส้งเอียด อายุ 48 ปี เป็นแม่ของผู้ตายได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากถูกกระสุนปืนบริเวณแขนขวา จำนวน 1 นัด กระสุนฝังใน เจ้าหน้าที่เร่งนำส่งโรงพยาบาลพัทลุง ล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว ส่วนในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ยังพบอาวุธปืน .40 มม. จำนวน 1 กระบอก วางอยู่บนหมอนใกล้ศพผู้ตาย พร้อมหัวกระสุนอาวุธปืน .40 มม. จำนวน 1 หัว จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบถามของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า นายวุฒิพงศ์ เส้งเอียด พ่อของผู้ตาย ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุลูกชายได้ออกไปหาแฟนสาว หลังจากนั้นก็กลับบ้านด้วยอาการมึนเมา เมื่อมาถึงบ้านได้รีบเข้าไปคว้าอาวุธปืนขนาด .40 ซึ่งจดทะเบียนเป็นชื่อของตน และเก็บไว้ในห้องนอน แล้วบอกว่าจะไปยิงคู่อริ ตนกับภรรยาเห็นท่าไม่ดีจึงเข้าห้ามพร้อมกับแย่งอาวุธปืน ในขณะที่ยื้อแย่งปืนกันอย่างชุลมุน ปืนเกิดลั่นขึ้น จำนวน 4 นัด และไปถูกภรรยา จำนวน 1 แผล ส่วนลูกชายถูกเข้าหน้าอกซ้าย 2 แผล ใต้ราวนมซ้าย 1 แผล อกขวา 1 แผล ด้านหลัง 1 แผล และข้อมืออีก 1 แผล จนทำให้ลูกชายเสียชีวิตคาที่
นายวุฒิพงศ์ ยังกล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ลูกชายไปติดพันสาวในตัวเมืองพัทลุง ช่วงหลังก็เลิกรากันไป ตนก็ไม่ทราบสาเหตุ หลังจากเลิกรากับแฟนสาว ลูกชายได้ขอเข้ามานอนด้วยกันในห้องของตน และจะขอนอนตรงกลางระหว่างพ่อกับแม่ โดยจะขอให้พ่อกับแม่นอนกอด เป็นอย่างนี้มาประมาณ 10 คืน ทุกครั้งที่ไปดื่มมาจนเมาก็จะกลับมานอนกับพ่อแม่ทุกคืน ล่าสุด ไปรู้จักหญิงสาวคนใหม่เมื่อไม่นานมานี้ ก่อนเกิดเหตุตนคิดว่าไปหาสาวคนใหม่ และกลับมาเมาอาละวาดจนก่อเหตุดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งทางวิทยาศาสตร์ และหลักฐานในที่เกิดเหตุ ในเบื้องต้นได้แจ้งข้อหานายวุฒิพงศ์ ในข้อหากระทำโดยประมาท ส่งผลให้ผู้อื่นเสียชีวิตไว้ก่อน