xs
xsm
sm
md
lg

ชาวสุราษฎร์ฯ แสดงพลังร่วมรับฟังความคิดเห็นครั้งที่ 2 โครงการโรงไฟฟ้าสุราษฎร์ธานีเนืองแน่น

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ชาวสุราษฎร์ฯ พร้อมใจแสดงพลังร่วมเวทีรับฟังความคิดเห็น ครั้งที่ 2 โครงการโรงไฟฟ้าสุราษฎร์ธานี ชุดที่ 1-2 เนืองแน่น

การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และบริษัท ซีคอท จำกัด ขอขอบคุณชาวสุราษฎร์ธานี ที่พร้อมใจแสดงพลังการมีส่วนร่วมในการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 2 โครงการโรงไฟฟ้าสุราษฎร์ธานี ชุดที่ 1-2 เพื่อนำความคิดเห็นที่ได้ไปจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ให้ครบถ้วนสมบูรณ์ เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ชาวสุราษฎร์ฯ และทุกกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียให้มากที่สุด

โดยเมื่อระหว่างวันที่ 3-4 สิงหาคม 2563 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โดยบริษัท ซีคอท จำกัด จัดเวทีประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 2 ต่อการจัดทำร่างรายงานและมาตรการป้องกัน และแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม และมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม ในรายงาน EIA (Environmental Impact Assessment) โครงการโรงไฟฟ้าสุราษฎร์ธานี ชุดที่ 1-2 โดยมี นายจเร ขวัญเกิด ปลัดจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายสิทธิชัย ไทยเจริญ นายอำเภอพุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี และนางศรีวรรณ บูรณโชคไพศาล ผู้ช่วยผู้ว่าการแผนงานโรงไฟฟ้า กฟผ. พร้อมผู้เกี่ยวข้องร่วมงาน มีประชาชนในพื้นที่ศึกษาโครงการฯ ส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา องค์กรพัฒนาเอกชน ผู้นำศาสนา และประชาชนที่สนใจเข้าร่วมรับฟังความคิดเห็น จำนวน 1,127 คน และมีผู้แสดงความคิดเห็นด้วยวาจา จำนวน 19 คน ซึ่งเป็นตัวแทนจากประชาชนในพื้นที่ อ.พุนพิน จำนวน 6 ตำบล ได้แก่ ต.พุนพิน ต.ท่าข้าม ต.หนองไทร ต.ท่าโรงช้าง ต.เขาหัวควาย ต.ท่าสะท้อน และ อ.เมือง 1 ตำบล คือ ต.คลองน้อย รวมถึงพื้นที่ใกล้เคียง และประชาชนทั่วไป ณ ศูนย์การประชุมและแสดงสินค้านานาชาติอุบลรัตนราชกัญญา สหกรณ์สุราษฎร์ธานี (โค-ออป) อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี


นายจเร ขวัญเกิด ปลัดจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า มีความยินดีที่ กฟผ. และบริษัทที่ปรึกษาได้จัดรับฟังความคิดเห็น ครั้งที่ 2 เพื่อให้ประชาชน และทุกภาคส่วนได้มาร่วมรับฟังผลการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม และมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมของโครงการฯ ในแต่ละด้าน และร่วมแสดงความคิดเห็นต่อการจัดทำโครงการฯ จ.สุราษฎร์ธานี ถือเป็นเมืองหลักของภาคใต้ มีอุตสาหกรรม และแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สำคัญ ได้แก่ เกาะสมุย เกาะพงัน และเขื่อนรัชชประภา (เขื่อนเชี่ยวหลาน) มีความจำเป็นต้องใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ไม่ให้เกิดไฟฟ้าตก ไฟฟ้าดับ โครงการโรงไฟฟ้าสุราษฎร์ธานี ชุดที่ 1-2 จึงมีความจำเป็น และสำคัญเป็นอย่างยิ่ง สามารถสร้างความมั่นคงทางพลังงานไฟฟ้าให้จังหวัด และประเทศ

นายขรรชัย เกรียงไกรอุดม ผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อม บริษัท ซีคอท จำกัด กล่าวว่า การจัดรับฟังความคิดเห็นในครั้งนี้ บริษัทฯ ได้ให้ข้อมูลแก่ประชาชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวกับรายละเอียดการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมในทุกมิติ รวมถึงมาตรการป้องกัน และแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม และมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม พร้อมเปิดให้ประชาชนในพื้นที่ รวมถึงส่วนราชการ ผู้นำท้องถิ่น องค์กรเอกชน สถาบันการศึกษา สื่อมวลชน และประชาชนทั่วไปได้ร่วมแสดงความคิดเห็น และข้อเสนอแนะในการพัฒนาโครงการให้ครอบคลุมครบถ้วน ซึ่งเพิ่มเติมจากการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็น ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2562 ซึ่งเป็นการกำหนดขอบเขต และแนวทางการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ยังได้มีการสำรวจทัศนคติ และความคิดเห็นจากทั้งหน่วยงาน และประชาชนในระดับครัวเรือน ระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2562 ถึงเดือนเมษายน 2563

สำหรับสิ่งที่ประชาชนยังมีความกังวล เช่น การดูแลผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม การเปิดโอกาสให้เยาวชน และชุมชนท้องถิ่นเข้าทำงานในโรงไฟฟ้า การพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ การส่งเสริมให้โรงไฟฟ้าเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านพลังงาน การให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมการพัฒนาชุมชนจากงบประมาณกองทุนพัฒนารอบโรงไฟฟ้านั้น ทุกข้อคิดเห็น และข้อเสนอแนะของประชาชนเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ซึ่งบริษัทฯ จะนำไปปรับปรุงรายงานการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) โครงการโรงไฟฟ้าสุราษฎร์ธานี ชุดที่ 1-2 ให้มีความครบถ้วนสมบูรณ์ เพื่อนำเสนอสำนักงานนโยบาย และแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) พิจารณาต่อไป


ด้าน นางศรีวรรณ บูรณโชคไพศาล ผู้ช่วยผู้ว่าการแผนงานโรงไฟฟ้า กฟผ. กล่าวขอบคุณผู้เข้าร่วมประชุมทุกคนที่สละเวลามาร่วมประชุมรับฟังความคิดเห็น ทุกคนถือได้ว่าเป็นส่วนสำคัญของการศึกษาโครงการฯ สำหรับทุกความคิดเห็น ทุกข้อเสนอแนะในวันนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาโครงการฯ ซึ่ง กฟผ.และบริษัทที่ปรึกษาจะนำไปจัดทำรายงานให้ครบถ้วน และเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนในพื้นที่

โครงการโรงไฟฟ้าสุราษฎร์ธานี ชุดที่ 1 และ 2 เป็นโรงไฟฟ้าที่บรรจุอยู่ในแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2561-2580 (PDP2018) เพื่อเสริมความมั่นคงของระบบไฟฟ้าของภาคใต้ โดยเฉพาะฝั่งอันดามันที่ยังขาดโรงไฟฟ้าหลักในพื้นที่ พร้อมรองรับการขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวของภาคใต้ ซึ่ง จ.สุราษฎร์ธานี เป็นจังหวัดที่มีการใช้ไฟฟ้ามากเป็นอันดับ 3 ของภาคใต้ โดยจะก่อสร้างบนพื้นที่โรงไฟฟ้าสุราษฎร์ธานีเดิม ซึ่งปัจจุบันได้หยุดดำเนินการแล้ว เนื่องจากหมดอายุการใช้งาน และยังเป็นพื้นที่ที่มีความพร้อมของระบบส่งไฟฟ้าอยู่แล้ว จึงช่วยลดการก่อสร้างระบบส่งไฟฟ้า ไม่เพิ่มต้นทุนในการผลิตไฟฟ้า โครงการฯ มีขนาดกำลังผลิตติดตั้งสูงสุดประมาณ 1,660 เมกะวัตต์ ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงหลัก และน้ำมันดีเซลเป็นเชื้อเพลิงสำรอง มีกำหนดจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (Commercial Operation Date : COD) ชุดที่ 1 ในปี 2570 และชุดที่ 2 ในปี 2572 ตามลำดับ นอกจากนี้ โรงไฟฟ้าใหม่จะช่วยสร้างรายได้ และอาชีพให้แก่ท้องถิ่น ตลอดจนได้รับงบประมาณจากกองทุนพัฒนาไฟฟ้าเพื่อนำไปพัฒนาชุมชนอีกด้วย

ทั้งนี้ ประชาชนทุกภาคส่วนสามารถแสดงความคิดเห็นต่อเนื่องได้จนถึงวันที่ 20 สิงหาคม 2563 โดยส่งข้อคิดเห็นได้ที่งานประชาสัมพันธ์โรงไฟฟ้าสุราษฎร์ธานี กฟผ. โทรศัพท์ 0-7724-2538 ต่อ 4249 โทรสาร 0-7724-2537 หรือ น.ส.จันทิมา ยะนิล และ น.ส.ณัชชาวีร์ ชูดวงแก้ว บริษัท ซีคอท จำกัด เลขที่ 239 ถนนริมคลองประปา แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ 10800 โทรศัพท์ 0-2959-3600 ต่อ 410, 412-413 โทรสาร 0-2959-3535 หรือ E-mail: eedmail@secot.co.th








กำลังโหลดความคิดเห็น