xs
xsm
sm
md
lg

“วัชระ” จี้รัฐเร่งเก็บกู้ขยะพิษ 50 ตันที่จมไปพร้อมกับเรือเฟอร์รี่ล่มที่เกาะสมุย

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวภาคใต้ - “แจ๊ค วัชระ” จี้รัฐบาลเร่งเก็บกู้ขยะพิษ 50 ตันที่จมไปพร้อมกับเรือเฟอร์รี่ล่มที่เกาะสมุย ชี้สังคมวิตกส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และการท่องเที่ยวในทะเลอย่างใหญ่หลวง

วันนี้ (4 ส.ค.) นายวัชระ เพชรทอง หรือแจ๊ค อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านทาง นายสมพาศ นิลพันธ์ ที่ปรึกษาสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ให้เร่งรีบดำเนินการเก็บกู้ขยะ จำนวน 50 ตัน จากเรือราชาเฟอร์รี่ 4 ที่ล่มเมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา บริเวณเกาะสี่เกาะห้า อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ทำให้รถบรรทุกพ่วง 3 คัน ที่บรรทุกขยะอัดก้อนหนักประมาณ 50 ตัน จมลงทะเลในบริเวณนั้น

ซึ่งขยะดังกล่าวมีทั้งขยะอันตราย ขยะพิษ พลาสติก และสิ่งปฏิกูลทั่วไป การที่เรือล่มลงสู่ใต้ท้องทะเล อาจทำให้ขยะรั่วซึมหรือแตกกระจายสู่ท้องทะเลและอาจถูกคลื่นซัดสู่ฝั่งในอำเภอเกาะสมุย และบริเวณใกล้เคียง ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเล และกระทบกระเทือนต่อการท่องเที่ยวซึ่งเป็นจุดขายของ อ.เกาะสมุยได้ และสำคัญที่สุดคือการรั่วซึมหรือการกระจัดกระจายของขยะ อาจส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตในท้องทะเลอ่าวบ้านดอน และกระทบต่อชีวิตของประชาชนตลอดแนวชายฝั่ง และผู้บริโภคอาหารทะเลในอนาคต

นายวัชระ กล่าวว่า จำนวนขยะ 50 ตันดังกล่าวไม่ทราบว่าเป็นจำนวนต่อ 1 คันรถบรรทุกพ่วง หรือเป็นจำนวนขยะทั้งหมด เพราะคนในวงการรถบรรทุกระบุว่า ต่อ 1 คันรถพ่วงบรรทุกขยะได้ถึง 30 ตัน ถ้า 3 คันก็ 90 ตัน ซึ่งปัญหาการขนขยะทางเรือจากเกาะสมุยไปสุราษฎร์ธานี ได้รับการเตือนจากผู้ห่วงใยตั้งแต่ก่อนเริ่มโครงการให้ระมัดระวัง เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุแล้วจะกระทบถึงการท่องเที่ยวของ อ.เกาะสมุย อ.ดอนสัก และบริเวณอ่าวบ้านดอนในที่สุด

เมื่อเกิดเหตุขึ้นมาก็ไม่มีการเร่งรีบเก็บกู้ขยะดังกล่าว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ไม่ได้ใส่ใจไปแก้ไขปัญหาโดยเร็ว ทั้งที่เรื่องนี้กระทบกระเทือนในภารกิจหลักของกระทรวงที่ตนเองรับผิดชอบ

จึงขอให้นายกรัฐมนตรี สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเร่งรีบดำเนินการเก็บกู้ขยะ จำนวน 50 ตัน หรืออาจมากกว่านั้นให้ขึ้นบกโดยเร็วที่สุด และให้มีมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเช่นนี้อีกเป็นอันขาด เพราะจะกระทบต่อระบบนิเวศในทะเลอย่างใหญ่หลวง และกระทบต่อการท่องเที่ยวของภาคใต้และการบริโภคอาหารทะเลของประชาชนโดยทั่วไปได้ และต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีการปกปิดข้อมูลหรือไม่ มีขยะจมทะเลทั้งหมดเท่าใด เป็นขยะพิษเท่าใด และต้องดำเนินการทางกฎหมายอย่างเฉียบขาดในกรณีนี้ด้วย เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน


กำลังโหลดความคิดเห็น