สุราษฎร์ธานี - เปิดใจหนุ่มกะลาสีเรือหลังรอดชีวิตจากเหตุเรือเฟอร์รี่ล่ม ระบุขณะเกิดเหตุวิ่งบอกให้ทุกคนออกไปจากระวางจอดรถพร้อมส่งเสื้อชูชีพให้ทุกคน แต่ตัวเองกลับหลุดไปอยู่ในจุดที่เรือเอียงก่อนจมทะเล
จากกรณีเรือเฟอร์รี่ราชา 4 ซึ่งเป็นเรือเหมาลำ บรรทุกรถขยะ จำนวน 3 คัน รถกระบะ 1 คันจากเกาะสมุยไปขึ้นฝั่งที่ท่าเรือดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี โดยมีลูกเรือและผู้โดยสารจำนวน 16 คน ประสบอุบัติเหตุอับปางขณะเดินทางออกจากฝั่งเกาะสมุยเพียง 5 ไมล์ทะเล โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือลูกเรือและผู้โดยสารได้แล้ว 11 คน เสียชีวิต 1 คน สูญหายอีก 4 คน
ล่าสุด นายพชร ทิพรัตน์ กะลาสีเรือที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ได้เล่าถึงนาทีที่เกิดเหตุว่า ขณะที่เรือแล่นอยู่ในทะเลมีคลื่นขนาดใหญ่ซัดเข้าใส่เรือจนทำให้รถบรรทุกไหลไปทางเดียวกัน เรือเอียงไปทางขวา ตนจึงวิ่งไปบอกคนที่อยู่ในระวางเรือให้รีบวิ่งออกมาพร้อมส่งเสื้อชูชีพให้แก่ทุกคน ซึ่งระหว่างนั้นเห็นหลายคนวิ่งไปอีกฝั่งของเรือ ส่วนตนนั้นหลุดไปทางฝั่งที่เรือกำลังเอียงหลังจากนั้นก็จมลงไปพร้อมเรือ แต่สามารถว่ายน้ำออกมานอกเรือได้
โดยตนต้องลอยคอเพื่อรอการช่วยเหลืออยู่ที่บริเวณเกาะสี่เกาะ เกาะห้าประมาณ 2 ชั่วโมง หลังจากนั้นประมาณ 03.00 น. คลื่นได้ซัดตนลอยไปในทะเลโดยไม่รู้ว่าลอยไปที่ไหนจนหมดสติไป มาตื่นอีกทีตอนเช้าประมาณ 08.00 น. มองไปเห็นมีเกาะเล็กๆ เกาะหนึ่งจึงตัดสินใจและพยายามว่ายน้ำเข้าไปจนถึงเกาะ ซึ่งมาทราบว่าเกาะดังกล่าวชื่อเกาะมดแดง หลังจากนั้นไม่นานก็ได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่
นายพชร กล่าวต่อไปว่า รู้สึกดีใจมากที่รอดมาได้ ไม่คิดว่าจะมีชีวิตรอด ระหว่างที่ลอยคออยู่ในทะเลไม่เห็นใครเลย และไม่รู้ว่ามีใครถูกคลื่นซัดไปทางไหนบ้าง