ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ตำรวจบุกจู่โจมเข้าตรวจค้น และจับกุมเอเยนต์ค้ายาเสพติดย่านชานเมืองหาดใหญ่ ตัวการไหวตัวหลบหนีได้ทัน ทิ้งเมียให้ถูกจับกุมแทน เมียเผยยอมรับชะตากรรมยิ้มทั้งน้ำตา บอกไม่โกรธที่สามีทิ้งไปเพราะเลือกเขาแล้ว ยึดของกลางยาบ้า 20,004 เม็ด พร้อมไอซ์อีก 28 กรัม
วันนี้ (28 ก.ค.) เจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หรือชุดตะวัน นำโดย พ.ต.อ.อภิชาติ วรรณโก ผกก.สภ.หาดใหญ่ พ.ต.ท.ธนวัต เส้งสุย รอง ผกก.สส.สภ.หาดใหญ่ ได้สั่งการให้ ร.ต.อ.พงศ์ศักดิ์ หนูบูรณ์ รอง สว.หน.ชปส.สภ.หาดใหญ่ ปฏิบัติการสายฟ้าแลบเข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านเลขที่ 34 หมู่ 7 ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หลังจากที่ได้รับการร้องเรียนผ่านศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 เป็นที่จำหน่าย และเก็บยาเสพติดจำนวนมาก
โดยเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นทางประตูหลังบ้าน เนื่องจากประตูหน้าบ้านถูกปิดเอาไว้ ปรากฏว่า นายสมภพ ไชยมิตร หรือน้อย อายุ 49 ปี ซึ่งเป็นเอเยนต์ค้ายารายใหญ่ได้ไหวตัววิ่งหลบหนีออกไปทางประตูหน้าบ้านได้ทัน และอาศัยความชำนาญพื้นที่หนีรอดไปได้อย่างหวุดหวิด และยอมทิ้ง น.ส.กิตติมา รณการ หรือกระถิน อายุ 22 ปี ภรรยาสาวให้ถูกจับกุมแทน โดยนั่งอยู่ที่โต๊ะกินข้าว พร้อมกับโจ๊กในถ้วยที่ น.ส.กิตติมา อุ่นให้นายสมภพ กิน แต่ยังกินไม่หมดเพราะถูกเจ้าหน้าที่บุกเข้าตรวจค้น และจับกุมเสียก่อน ซึ่งเป็นโจ๊กมื้อสุดท้ายที่ได้ทำให้สามีกิน
ขณะถูกจับกุม น.ส.กิตติมา ยอมรับผิด และยิ้มทั้งน้ำตา พร้อมกับฟุบหน้าลงกับโต๊ะอยู่พักใหญ่ ยอมรับในชะตากรรม โดยเจ้าหน้าที่พบไอซ์ จำนวน 28 กรัม ที่ใส่ถุงแบ่งขายวางอยู่ใต้โต๊ะกินข้าว และได้นำตัวไปค้นที่ห้องนอนยังพบยาบ้าอีก 10,004 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋า นอกจากนี้ ยังยอมบอกที่ซ่อนของยาบ้า และพาเจ้าหน้าที่ไปค้นอีก 1 จุด ซึ่งซุกซ่อนอยู่ในท่อลอดข้างบ้านเลขที่ 40 หมู่ 7 ต.คลองแห ซึ่งเป็นบ้านพ่อแม่ของนายสมภพ โดยเจ้าหน้าที่ต้องมุดท่อเข้าไปตรวจค้นภายใน และพบยาบ้าอีก 10,000 เม็ด ที่ซุกซ่อนไว้ในกระเป๋า
จากการสอบสวน น.ส.กิตติมา ยังให้การอีกว่า ครั้งล่าสุดสามีได้ไปรับยาบ้ามา จำนวน 100,000 เม็ด และทยอยส่งให้ลูกค้าไปเกือบหมดแล้ว เหลืออยู่เพียง 20,000 เม็ด โดยปกติจะไม่เก็บไว้ที่บ้าน แต่ครั้งนี้พลาดเพราะตอนนี้ฝนตก นำไปส่งให้ลูกค้าไม่ได้ และนำมาเก็บไว้เพียงแค่ 1 ชั่วโมง ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจค้นจับกุมดังกล่าว
ทั้งนี้ หลังถูกจับกุม น.ส.กิตติมา ยอมรับผิด และไม่โกรธตำรวจที่เข้าจับกุม เพราะเลือกทางเดินนี้แล้ว และไม่โกรธสามีที่หนีไป และทิ้งให้ตนถูกจับกุมเพียงคนเดียว เพราะแม้จะพาหนีตนก็ไม่ไป เพราะเคยคุยกับสามีตลอดว่าเมื่อลงเรือลำเดียวกันแล้วก็จะไปให้ถึงฝั่ง และได้เลือกเขาแล้ว แต่สุดท้ายเมื่อเขาไม่เลือกเราก็ขอให้เขาหนีให้รอด
น.ส.กิตติมา บอกด้วยว่า นายสมภพ สามีนั้นเพิ่งออกจากคุกมาได้ 1 เดือน หลังถูกจับกุมคดียาเสพติด ทีแรกก็ไม่ได้รักได้ชอบกับนายสมภพ เพราะคบหากับเพื่อนของตนอยู่ก่อนแล้ว แต่พักหลังได้เลิกรากันจึงหันมาคบกับตน ซึ่งรู้อยู่แล้วว่าสามีค้ายา ตอนคบกันใหม่ๆ สามีก็ระแวงว่าตนเป็นสายให้ตำรวจ แต่ก็ได้พิสูจน์ตัวเองจนเชื่อใจ และร่วมกันค้ายาเสพติดมาตลอดจนกระทั่งถูกจับกุม
เบื้องต้น ตำรวจได้ควบคุมตัว น.ส.กิตติมา ดำเนินคดีในข้อหาร่วมกับนายสมภพ หรือน้อย ไชยมิตร ที่หลบหนี ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์ และยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และเสพสารเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย เนื่องจากตรวจพบสารเสพติดในปัสสาวะด้วย และกำลังเร่งติดตามจับกุมนายสมภพ มาดำเนินคดีต่อไป และจากการตรวจสอบข้อมูลบุคคลต้องคดีอาญา พบว่า นายสมภพเคยถูกตำรวจ สภ.หาดใหญ่ จับกุมในคดียาเสพติด ได้ของกลางยาไอซ์ จำนวน 1.8 กรัม มาแล้วครั้งหนึ่ง และทราบว่าได้พ้นโทษออกมาเมื่อปลายปี 2562