กระบี่ - แม่โพสต์เฟซบุ๊กขอความช่วยเหลือจากผู้ใจบุญ ช่วยค่ารักษาลูกชายหัวแก้วหัวแหวนถูกไฟฟ้าช็อตนอนติดเตียงกว่า 8 เดือน ควักเงินรักษาจนหมดเกลี้ยง แถมต้องกู้เงินดอกมารักษา หมอบอกใช้ 3 แสนทำคลื่นสมองช่วยฟื้นได้
วันนี้ (22 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊กนพชัย เกตุแก้ว ได้มีการโพสต์ขอความช่วยเหลือ ข้อความน้องโดนไฟช็อตตั้งแต่ปลายปีที่แล้วมาจนถึงตอนนี้เป็นเวลา 8 เดือนแล้วที่น้องนอนป่วยติดเตียงช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ น้องเป็นลูกคนเดียวของพ่อกับแม่ เป็นความหวังของครอบครัว แต่น้องกลับต้องมานอน พ่อแม่รักษาทุกวิถีทางเพื่อจะให้น้องกลับมาหายเป็นปกติแต่ความหวังก็ริบหรี่เมื่อพ่อกับแม่ใช้เงินเก็บที่มีอยู่รักษาน้องจนหมดกับค่าใช้จ่ายแต่ละเดือนทั้งค่านม ยา แพมเพอร์ส
พ่อกับแม่เริ่มมีความหวังอีกครั้งเมื่อหมอบอกว่า การทำคลื่นไฟฟ้าในสมองเพื่อลดอาการสมองบวมของน้องจะช่วยได้อาจทำให้น้องดีขึ้นกว่านี้ แต่พ่อกับแม่ก็ต้องมากังวลกับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น ตอนนี้ครอบครัวมีรายได้จากพ่อเพียงคนเดียวซึ่งไม่พอกับค่าใช้จ่ายจึงอยากขอวอนผู้ใจบุญทั้งหลายที่อยากร่วมบริจาคเงินเพื่อเป็นค่ารักษาน้องในครั้งนี้ได้ที่ชื่อบัญชี นางปิยะภา รักษาเดชา เลขบัญชี 430-048383-9 ธ.ไทยพาณิชย์ และเบอร์ติดต่อ 09-5118-1930 ฝากช่วยกันแชร์หน่อยนะครับ
จากการสอบถาม นางปิยะภา รักษาเดชา อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18/10 ม.2 ต.คลองท่อมเหนือ อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ซึ่งเป็นแม่ของ ด.ช.นพชัย เกตุแก้ว อายุ 14 ปี เจ้าของเฟซบุ๊ก กล่าวว่า ตอนเกิดเหตุลูกชายเรียนอยู่ชั้น ม.2 เทอม 1 ขึ้นเทอม 2 โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย อ.คลองท่อม เมื่อวันที่ 3 ต.ค.62 ด.ช.นพชัย ลูกชายถูกไฟฟ้าช็อตขณะที่เสียบปลักปั๊มเติมลมยางให้แก่เพื่อนบ้าน หลังจากเกิดเหตุก็ได้นำตัวลูกชายส่งโรงพยาบาลคลองท่อม และส่งตัวรักต่อที่โรงพยาบาลกระบี่ อาการหนักมาก จนหมอบอกให้ทำใจ แต่ด้วยคำว่าลูกคนเดียว ต้องรักษาให้ถึงที่สุด
จึงได้คุยกับสามีและญาติๆ ขอทำทุกวิถีทางที่จะให้ลูกฟื้นขึ้นมา จึงได้ขอหมอพาลูกออกจากโรงพยาบาลกระบี่ โดยมีเจ้าหน้าที่พยาบาลใจดีคนหนึ่งประสานหมอที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (ม.อ.หาดใหญ่) จ.สงขลา ให้ และได้พาลูกชายออกจากโรงพยาบาลกระบี่ วันที่ 4 ต.ค.62 โดยรถของโรงพยาบาลกระบี่ พาไปส่ง เมื่อถึง จ.พัทลุง เจอด่านตรวจ ทางเจ้าหน้าที่ สห.ที่ประจำด่านตรวจถามว่าจะไปไหน ก็บอกว่าลูกถูกไฟช็อต จะพาไปรักษาที่ ม.อ. ทางเจ้าหน้าที่เมื่อทราบเรื่องก็ได้ขับรถนำอำนวยความสะดวกจนถึงโรงพยาบาล รู้สึกตื้นตันใจมาก ขณะที่ชีวิตเลวร้ายสุดๆ ยังมีสิ่งที่ดีเข้ามา
นางปิยะภา กล่าวว่า หลังจากที่รักษาตัวที่ ม.อ.หาดใหญ่ ได้ประมาณ 2 เดือน ลูกชายเริ่มรับรู้ ลืมตาได้ ทำให้ตนมีความหวังและดีใจมากหลังจากที่ลูกชายนอนเป็นเจ้าชายนิทรามานาน และรักษาอยู่ ม.อ.ประมาณ 4 เดือน หมอก็ให้พาตัวมารักษาอาการต่อที่บ้าน โดยจะมีการนัดเป็นระยะๆ และในวันนี้ (22 ก.ค.) ก็พาลูกชายมาตามหมอนัดที่โรงพยาบาล ม.อ. และระหว่างที่กลับมาอยู่บ้าน ระหว่างที่รอหมอนัดอีกครั้ง ตนก็ได้พาลูกชายไปรักษาตัวต่อที่คลินิกแห่งหนึ่ง ใน จ.ตรัง หมอบอกว่าลูกชายสมองบวม รักษาได้ด้วยการทำคลื่นไฟฟ้าในสมอง อาการจะดีขึ้น
ตนเริ่มมีความหวัง แต่ค่าใช้จ่ายในการรักษาประมาณ 300,000 บาท ตอนนี้เงินเก็บ และเงินต่างๆ ที่มีอยู่รักษาลูกจนหมดเกลี้ยง จนต้องหยิบยืมเงินดอกมารักษา หวังเพียงอย่างเดียวเพื่อให้ลูกหายหรืออาการดีขึ้น เพราะลำพังเงินรายได้จากสวนปาล์ม สวนยาง และเงินจากการรับจ้างของสามี ที่ได้รับไม่พอกับค่าใช้จ่าย ตอนนี้ยอมรับว่าก่อนนี้ครอบครัวมีเงินเหลือเก็บก็ต้องเป็นหนี้เป็นสิน แต่ก็ต้องทน เพียงเพื่อหวังให้ลูกหาย และในวันที่ 5 ส.ค.นี้ หมอนัดทำคลื่นไฟฟ้าสมองให้ลูกชาย ยังไม่มีเงิน จึงได้นำเรื่องราวโพสต์ลงเฟซบุ๊ก หวังว่าจะมีผู้ใจบุญยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ เนื่องจากยังไม่มีเงินค่ารักษา