นครศรีธรรมราช - ตำรวจเมืองคอนจับผู้ต้องหาโพสต์ขาย “หนังสือบุดโบราณ” สมบัติของชาติ ได้แล้ว 1 ราย เตรียมออกหมายจับอีกรายเป็นเจ้าหน้าที่ราชภัฏนครศรีธรรมราช สถานที่จัดเก็บ คาดมีหนังสือโบราณถูกโจรกรรมออกไปแล้วราว 1,300 เล่ม ผอ.หอสมุดแห่งชาตินครศรีธรรมราชชี้ “หนังสือบุดโบราณ” ประเมินค่าเป็นตัวเงินไม่ได้
จากกรณีที่เกิดเหตุโจรกรรมหนังสือบุดสมุดข่อยโบราณ ที่เก็บรักษาไว้ในศูนย์ศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช แล้วพบขายอยู่ในตลาดมืดจำนวนมาก ทำให้พระเถรานุเถระได้ร่วมกันจัดตั้งศูนย์บิณฑบาตคืนหนังสือบุดสมุดข่อยจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อขอให้ผู้ครอบครองนำกลับมาคืนให้เป็นสมบัติของแผ่นดิน โดยที่จะไม่มีการดำเนินคดีใดๆ
วันนี้ (17 ก.ค.) พล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า หลังจากที่มหาวิทยาลัยราชภัฏได้แจ้งความดำเนินคดีแล้ว ตำรวจได้สืบสวนสอบสวนจนจับกุมตัวบุคคลที่โพสต์ขายหนังสือบุดโบราณไว้ได้แล้ว 1 ราย ซึ่งมีการสอบสวนขยายผลอย่างต่อเนื่อง และเตรียมขออนุมัติหมายจับเพิ่มอีก 1 ราย เป็นบุคลากรของมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช
ทั้งนี้ ที่ศูนย์ศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช สถานที่เก็บหนังสือบุดจำนวนหลายพันเล่ม ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย รวมทั้งอาจอยู่ในแหล่งเก็บสมุดบุดโบราณระดับโลก ถูกปิดเงียบทั้งหมด ไม่มีเจ้าหน้าที่ดูแลอยู่ในบริเวณ
จากการตรวจสอบ พบว่า หนังสือบุดโบราณ ที่ได้ถูกขึ้นทะเบียนไว้แล้วสูญหายไปทั้งหมด 309 เล่ม คงเหลือ 1,200 เล่ม กลุ่มที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนเหลือ 1,300 เล่ม โดยในกลุ่มนี้ไม่ทราบจำนวนที่สูญหายอย่างแท้จริง แต่คาดว่าอาจสูงถึง 500-1,000 เล่ม รวมทั้ง 2 กลุ่มราว 1,300 เล่ม โดยช่วงเวลาที่คาดว่าเกิดเหตุการณ์โจรกรรมนั้นมี ดร.ธีรวัฒน์ ช่างสาร เป็นผู้อำนวยการวิทยาลัยศิลปะและวัฒนธรรม
น.ส.พรทิพย์ ไพนุพงศ์ ผอ.หอสมุดแห่งชาตินครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ความสำคัญของหนังสือบุดนั้น ในทางวิชาการจะเรียกว่า เอกสารโบราณที่สำเร็จขึ้นมาด้วยการหัตถกรรม คือ การทำด้วยมือ ไม่ใช่การพิมพ์ หลักๆ จะประกอบไปด้วยศิลาจารึกสมุดไทย คัมภีร์ใบลาน สำหรับหนังสือบุด ทางวิชาการจะเรียกว่า สมุดไทย จะมีทั้งตำรายาต่างๆ ตำราเวทมนตร์ โหรราศาสตร์ การดูดวง สรรพวิชาโบราณอยู่ในสมุดเหล่านี้ ซึ่งปัจจุบันมีคุณค่า ประเมินค่าเป็นตัวเงินไม่ได้