ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ตชด.437 สงขลา ส่งชุดเคลื่อนที่เร็ว 5 ชุดออกลาดตระเวนตลอดแนวตะเข็บชายแดนไทย-มาเลเซีย ป้องกันแรงงานไทย และชาวต่างชาติลักลอบเข้าเมืองโดยไม่ผ่านการคัดกรอง และกักตัว 14 วัน
วันนี้ (14 ก.ค.) พ.ต.ต.สุริวงค์ สมทรง ผบ.ร้อย ตชด.437 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดน 437 จ.สงขลา จัดกำลังพลชุดเฝ้าตรวจชายแดน ซึ่งเป็นชุดเคลื่อนที่เร็ว จำนวน 5 ชุด ออกลาดตระเวนตลอดแนวตะเข็บชายแดนไทย-มาเลเซีย ทั้ง 3 อำเภอตั้งแต่ อ.สะเดา อ.นาทวี และ อ.สะบ้าย้อย เพื่อสนับสนุนการป้องกัน และลดการแพร่ระบาดของโควิด-19 เพื่อป้องกันแรงงานไทยในมาเลเซีย รวมถึงชาวต่างชาติลักลอบเข้าเมืองตามช่องทางธรรมชาติ โดยไม่ได้ลงทะเบียนเดินทางกลับประเทศ และไม่ผ่านกระบวนการคัดครองโควิด-19 และกักตัวเป็นเวลา 14 วัน หลังจากที่สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศน่าเป็นห่วงอีกครั้ง สุ่มเสี่ยงที่จะแพร่ระบาดระลอก 2 โดยเฉพาะในกลุ่มของชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศ หลังพบทหารอียิปต์ติดเชื้อโควิด-19
ซึ่งหากพบว่ามีการลักลอบเข้าเมืองตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย เจ้าหน้าที่จะส่งไปตรวจ และกักตัว 14 วัน และดำเนินคดีลักลอบเข้าเมืองโดยไม่ละเว้น ซึ่งเป็นการยกระดับคุมเข้มป้องกันโควิด-19 ในกลุ่มของผู้ที่ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย
ขณะที่บรรยากาศที่ด่านพรมแดนสะเดา ซึ่งเป็นด่านชายแดนไทย-มาเลเซีย ด้าน อ.สะเดา จ.สงขลา เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงมีการตรวจคัดกรองแรงงานไทยที่เดินทางกลับจากประเทศมาเลเซีย อย่างเข้มข้นทุกขั้นตอน
โดยขณะนี้ยังคงมีแรงงานไทยที่ลงทะเบียนกับสถานกงสุลไทยในประเทศมาเลเซีย ทยอยเดินทางกลับประเทศอย่างต่อเนื่อง แต่จำนวนลดลงเหลือแค่วันละประมาณ 50 คน จากก่อนหน้านี้ที่เดินทางเข้ามาราว 100 คน โดยวันนี้คนไทยที่เดินทางกลับส่วนใหญ่มีภูมิลำเนาอยู่ทางภาคเหนือ และภาคอีสาน
ซึ่งทุกคนต้องผ่านการคัดกรองตั้งแต่ย่างเข้าสู่ประเทศไทย ทั้งการฉีดยาฆ่าเชื้อสัมภาระ ซักประวัติ ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายเพื่อคัดกรองคนที่มีไข้ ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยง หากอาการปกติก็จะนำไปกักตัวยังสถานที่กักที่จัดให้ ซึ่งมาตรการคัดกรองคนไทยที่กลับจากประเทศมาเลเซีย ยังเข้มข้นเหมือนวันแรกจนถึงขณะนี้ ไม่ได้หย่อนยานลงแต่อย่างใด
