ศูนย์ข่าวภูเก็ต - “สิระ เจนจาคะ” ลงพื้นที่ภูเก็ต ตรวจสอบคอนโดหรู “เดอะ พีค เรสซิเด้นซ์” อีกรอบ หลังดีเอสไอชี้ น.ส.3 ก. ใบอนุญาตก่อสร้างไม่ถูกต้อง ยันเดินหน้าทวงคืนผืนป่าที่ถูกนายทุนฮุบให้เป็นของคนไทยทั้งประเทศ
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (10 ก.ค.) นายสิระ เจนจาคะ ส.ส. กทม.พรรคพลังประชารัฐ และประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และคณะ ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเพื่อรับฟังปัญหาด้านกฏหมายของประชาชนในจังหวัดภูเก็ตที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม และติดตามตรวจสอบการก่อสร้างโครงการ เดอะ พีค เรสซิเด้นซ์ คอนโดมิเนียมหรูในพื้นที่ ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยมี นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ณ ห้องประชุมคอซิมบี้ ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต
โดยมีประชาชนจากกลุ่มอาชีพต่างๆ ที่ได้รับความเดือดร้อนมายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมและขอความช่วยเหลือ เช่น กลุ่มสถานบันเทิงหาดป่าตอง ได้ขอให้ทางคณะกรรมาธิการพิจารณาในเรื่องของการขอขยายเวลาเปิด-ปิดสถานบันเทิงจากเวลา 01.00 น.เป็นเวลา 04.00 น.เพื่อให้สอดคล้องต่อพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวในเรื่องการใช้บริการสถานบันเทิง และการผลักดันให้ภูเก็ตและป่าตองปกครองในรูปแบบพิเศษ ผลกระทบและความเดือดร้อนของพนักงานจากการปิดโรงแรม ขอให้ยับยั้งโครงการขุดลอกร่องน้ำที่บริเวณอ่าวท่าเล ต.ป่าคลอก อ.ถลาง ที่ส่งผลกระทบต่อปะการัง กัลปังหาแดง และป่าชายเลน ปัญหาค่าไฟฟ้า น้ำประปา ในพื้นที่ชุนชุมซอยกิ่งแล้วสูง กลุ่มขยะมรสุม ขอกฎหมายคุ้มครองปูเฉสวน กลุ่มประมงพื้นบ้านและชาวบ้านคัดค้านโครงการอู่ต่อเรือในพื้นที่องค์การสะพานปลา และกลุ่มชาวบ้านและผู้ประกอบการหาดกะตะน้อยได้ยื่นหนังสือร้องเรียนกรณีได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโครงการ เดอะ พีคฯ ที่มีดินโคลนไหลลงมาสร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านในช่วงที่มีฝนตกลงมา
อย่างไรก็ตาม ทุกปัญหาที่ชาวบ้านและผู้ประกอบการร้องเรียน ทางคณะกรรมาธิการฯ ได้รับปากที่จะหาแนวทางในการแก้ปัญหา หากเรื่องใดที่สามารถดำเนินการได้ภายในจังหวัดก็จะส่งเรื่องต่อให้ทางจังหวัดภูเก็ตแก้ไข และส่งเรื่องให้แก่คณะกรรมาธิการชุดต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งแก้ปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้าน เช่น เรื่องการขอขยายเวลาเปิด-ปิดสถานบันเทิงหาดป่าตองนั้น นายสิระ รับปากว่าจะไปหารือกับทางปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นต้น
นายสิระ เปิดเผยภายหลังการรับฟังปัญหาชาวบ้าน ว่า ตนและนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล พร้อมคณะกรรมาธิการฯ ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต และ จังหวัดพังงา ระหว่างวันที่ 10-12 ก.ค.63 นี้ เพื่อหาข้อมูลกรณีประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากการถูกบุกรุกที่ดินทำกิน โดยถูกข่มขู่คุกคามจากบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งและเจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่ตำบลพรุใน อ.เกาะยาว จ.พังงา รวมถึงรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนเรื่องการบุกรุกพื้นที่ป่าในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต และเรื่องอื่นๆ เช่น เรื่องเวลาการเปิด-ปิดสถานบริการที่ป่าตอง เป็นต้น
โดยเฉพาะเรื่องการบุกรุกพื้นที่ป่าของนายทุนเพื่อก่อสร้างคอนโดมิเนียมหรู เดอะ พีค เรสซิเดนซ์ ในพื้นที่หมู่ที่ 2 ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ที่ก่อนหน้านี้ตนได้ลงมาตรวจสอบโครงการดังกล่าวในพื้นที่ภูเก็ตไปแล้ว และได้ร้องเรียนไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ซึ่งทาง ดีเอสไอได้รับเป็นคดีพิเศษพร้อมทั้งลงมาตรวจสอบข้อเท็จจริงของโครงการดังกล่าวแล้ว พบความผิด 2 เรื่อง คือ น.ส.3 ก. เลขที่ 1863 หมู่ที่ 2 ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการออกไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยทางดีเอสไอได้ทำหนังสือไปยังอธิบดีกรมที่ดินให้พิจารณาเพิกถอน น.ส.3 ก.ดังกล่าว และการออกใบอนุญาตก่อสร้างโครงการ เดอะ พีคฯ ของเทศบาลตำบลกะรน ดำเนินการไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เช่น ความลาดชันเกิน 35% น.ส.3 ก.ฉบับดังกล่าวไม่มีแล้ว เพราะศาลปกครองชั้นต้นนครศรีธรรมราชได้พิจารณาให้เพิกถอน น.ส.3 ก.ดังกล่าวไปแล้ว และเจ้าของ น.ส.3 ก.ไม่ได้ยื่นเรื่องให้ศาลปกครองคุ้มครองแต่อย่างใด เมื่อ น.ส.3 ก.ไม่มีแล้ว เทศบาลตำบลกะรนจึงออกใบอนุญาตก่อสร้างไม่ถูกต้อง แม้แต่ น.ส.3 ออกมาถูกต้องโครงการนี้ก็ไม่สามารถก่อสร้างได้ เพราะการอนุญาตก่อสร้างเป็นที่อยู่อาศัยแต่มีสำนักงานขายอยู่ในโครงการ เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะแบ่งการครอบครองกันอย่างไร
“เรื่องนี้ผมจะเอาแผ่นดินไทย ป่าไม้คืนให้แก่คนทั้งประเทศ โดยส่วนตัวผมไม่รู้จักผู้ครอบครองที่ดิน และผู้ออกใบนอนุญาตก่อสร้าง แต่ที่ต้องลงมาตรวจสอบโครงการนี้เพราะได้รับหนังสือร้องเรียนจากประชาชนว่ามีการกระทำความผิดในเรื่องนี้” นายสิระ กล่าวและว่า
ต้นเหตุที่ต้องลงมาตรวจสอบโครงการ เดอะ พีคฯ ในครั้งแรก เพราะได้รับหนังสือร้องเรียนจากชาวบ้านและผู้ประกอบการว่าได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโครงการ มีดินโคลนไหลลงมาสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน
นายสิระ กล่าวต่อว่า ภายหลังจากที่ดีเอสไอตรวจสอบแล้วพบว่า มีการกระทำผิดกฎหมายในโครงการ เดอะ พีคฯ จริง ทางดีเอสไอได้ทำหนังสือไปยังอธิบดีกรมที่ดินเพื่อให้พิจารณาเพิกถอน น.ส.3 ก.ดังกล่าว และยังส่งเรื่องไปยัง ป.ป.ช.ให้พิจารณาเอาผิดต่อผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการออกใบอนุญาตก่อสร้างโครงการ เดอะ พีคฯ แล้ว และคาดว่าในเร็วๆ นี้ ทางศาลปกครองสูงสุดจะพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
นายสิระ กล่าวต่อว่า ในวันอาทิตย์ที่ 12 ก.ค.นี้ ตนจะลงไปตรวจสอบในพื้นที่โครงการ เดอะ พีคฯ ว่า ภายหลังจากที่มีคำสั่งทางการปกครองให้หยุดทำการก่อสร้างไปแล้วนั้น ยังมีการฝ่าฝืนก่อสร้างภายในโครงการอีกหรือไม่ และหากมีการฝ่าฝืนเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลกะรนได้ดำเนินการอะไรไปบ้างแล้ว
นายสิระ กล่าวในตอนท้ายว่า การตรวจสอบโครงการนี้ไม่ได้ตั้งธงไว้ว่าโครงการไม่ถูกต้อง แต่เมื่อหน่วยงานต่างๆ เข้ามาตรวจสอบทำให้เห็นหลักฐานต่างๆ ว่าเป็นอย่างไร และเราจะต้องเชื่อการตรวจสอบของหน่วยงานราชการ โดยเฉพาะที่ผ่านมาไม่เข้าไปก้าวก่ายการทำงานของหน่วยงานราชการแต่อย่างใด มีการยื่นหนังสือให้ตรวจสอบตามกระบวนการ ก็ว่ากันไปตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ ส่วนจะรื้อทั้งโครงการหรือไม่นั้น นายสิระ กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า “ถึงขนาดนี้แล้ว” และมั่นว่าตนในฐานะ ส.ส.และมีเงินเดือนแสนนิดๆ แต่สามารถเอาผืนป่าคืนมาได้ ต้องถามประชาชนว่า “พอใจไหม” ซึ่งยังคงเดินหน้าตรวจสอบทวงคืนผืนป่ากันต่อไปในหลายๆ พื้นที่ที่ประชาชนได้มีการร้องเรียนกันเข้ามา
อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ (11 ก.ค.) นายสิระ และคณะกรรมาธิการฯ จะลงพื้นที่เกาะยาว เพื่อติดตามกรณีที่ชาวบ้านเกาะยาว ได้รับความเดือดร้อนจากการบุกรุกที่ดินทำกินและถุกคุกคามจากบริษัทเอกชน และในวันอาทิตย์ที่ 12 ก.ค.จะลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการ เดอะ พีคฯ ในพื้นที่ ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต อีกครั้งหนึ่ง