ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงตรวจสอบข้อเท็จจริงหลังสาวโพสต์ร้านอาหารที่กมลา ขายอาหารแพง พบมีการติดป้ายราคาสินค้า ขณะที่ ตร.เชิญคนโพสต์ ร้านอาหารเจรจา สรุปสื่อสารผิดพลาด
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ Lalita K.Chaiyasit โพสต์ข้อความเตือนภัย หลังสั่งอาหารจากร้านในพื้นที่กมลาปรากฏว่าได้อาหารที่มีราคาแพงเกินความคาดหมายและไม่คิดว่าราคาอาหารจะสูงขนาดนี้ ล่าสุด วันนี้ (8 ก.ค.) นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงกรณีที่เกิดขึ้น
ต่อมา นายอดิศร สวัสดี ผู้ช่วยหัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมภูเก็ต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พาณิชย์จังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กมลา และ เจ้าหน้าที่ อบต.กมลา ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบที่ร้าน “นานอก” หน้าชายหาดกมลา ม.3 ต.กมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งได้มีการพูดคุยกับ นายสิทธิเทพ ปรีชา ผู้จัดการร้านดังกล่าว ซึ่งจากการตรวจสอบ พบว่า ทางร้านมีการติดป้ายราคาอาหารที่ชัดเจน ก่อนที่จะทำอาหารได้มีการเสนอราคาผ่านไกด์คนไทย จากนั้นก็บอกไปยังลูกค้าและลูกค้าตกลงให้ทำอาหาร แต่พอมีการเขียนบิลส่งไปให้ลูกค้าเห็นราคาตกใจ
ต่อมา ลูกค้าท้วงมาเรื่องราคา ตนก็ได้ให้เด็กที่ร้านลดราคาให้ โดยครั้งแรกลดราคาเหมือนที่ทางผู้โพสต์แจ้งไว้ ซึ่งมีการลดราคากันถึง 3 ครั้ง ซึ่งหลังจากที่ตกลงราคากันที่ 4,900 บาท ทางผู้โพสต์ก็ได้โอนเงินมาให้เป็นค่าอาหารประมาณ 4,000 บาท ทางร้านก็รับได้ พร้อมกันนี้ ทางร้านขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเรียกไกด์ ลูกค้า และร้านมาพูดคุยตกลงกัน และจะมีการรายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตทราบต่อไป
ต่อมา เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (8 ก.ค.) ที่ห้องประชุม สภ.กมลา พ.ต.อ.ชัยพฤกษ์ ผาติวรากร ผกก.สภ.กมลา พร้อมด้วย พ.ต.ท.พงศ์พิชาญ ชยานนท์พิริย รองผกก.ป.สภ.กมลา และเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต ได้เชิญตัวสาวเจ้าของโพสต์ และผู้จัดการร้านอาหาร นานอก มาร่วมพูดคุย โดย พ.ต.อ.ชัยพฤกษ์ ผาติวรากร ผกก.สภ.กมลา กล่าวว่า จากการพูดคุยกับเจ้าของโพสต์ทราบว่า เป็นการสื่อสารเข้าใจผิดพลาด ซึ่งทางไกด์ได้ประสานกับทางร้านโดยไม่ได้สอบถามลูกค้าว่าจะทานกี่คน แต่ทางไกด์เห็นว่าลูกค้ามากันประมาณ 10 คน จึงเข้าใจว่าทานทั้ง 10 คน ทางร้านจึงทำอาหารตามที่ไกด์สั่ง แต่จริงๆ แล้วต้องการจะสั่งอาหารของร้านเป็นอาหารจานเดียว เนื่องจากมีอาหารอย่างอื่นมาเสริมแล้ว เมื่อเรียกเก็บเงินตนจึงรู้สึกตกใจและมีการต่อรองราคากัน จนจบในราคา 4,900 บาท แต่จ่ายไป 4,000 บาท
เมื่อได้มีการพูดคุยกันแล้วทั้ง 2 ฝ่าย ต่างฝ่ายไม่ติดใจกันเป็นการเข้าใจผิดและสื่อสารกันผิดพลาด พร้อมมีการขอโทษซึ่งกันและกัน พร้อมได้ว่ากล่าวตักเตือนเจ้าของร้านอย่าคิดราคาอาหารแพง เพราะจังหวัดภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยว มีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก และช่วงนี้อยู่ในสถานการณ์โควิด-19 ให้มีการลดค่าราคาอาหารให้แก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศต่อไป
