สุราษฎร์ธานี - ศรชล.เดินหน้ายึดคืนพื้นที่สาธารณะอ่าวบ้านดอน บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด รื้อและแจ้งความดำเนินคดีต่อเจ้าของขนำไปแล้ว 92 คดี รื้อเอง 26 หลัง ผู้ประกอบการยื่นอุทธรณ์ขอขยายเวลา เป็นสิทธิของผู้ว่าฯ แต่ ศรชล.เดินหน้ารื้อ
วันนี้ (7 ก.ค.) ที่กองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อยและแก้ไขปัญหาบุกรุกพื้นที่สาธารณะอ่าวบ้านดอน วัดชลธาร ต.บางไทร อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี พล.ร.ท.สำเริง จันทร์โส ผู้บัญชาการทหารเรือภาค 2 ในฐานะผู้อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 2 (ศรชล.ภาค 2) ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการปฏิบัติงานแก้ปัญหาการบุกรุกพื้นที่สาธารณะอ่าวบ้านดอน ที่มีกลุ่มผู้มีอิทธิพล ผู้ประกอบการ บุกรุกที่สาธารณะนำไม้ไผ่มาปักกั้นแนวคอกหอย พร้อมก่อสร้างบ้านพักหรู หรือขนำหรูเฝ้าคอกหอย ในพื้นที่ อำเภอเมือง อ.พุนพิน อ.ท่าฉาง อ.ไชยา อ.กาญจนดิษฐ์ และ อ.ดอนสัก กว่า 1,000 หลัง และพบปะให้กำลังใจกำลังพล พร้อมประชุมรับฟังบรรยายสรุปการทำงานในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
ในที่ประชุม นายสุทธิพงษ์ คล้ายอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ในฐานะประธานแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในอ่าวบ้านดอน ได้ชี้แจ้งว่า ขณะนี้ทางผู้ประกอบการคอกหอยในพื้นที่ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อจังหวัด เพื่อขอยายาเวลาออกไป พร้อมระบุว่า อาจจะมีคำสั่งให้ขยายเวลาการรื้อถอนออกไป ด้านรอง ผอ.ศรชล.ภาค 2 ระบุว่า จะต้องดูกฎหมายเป็นหลัก และจะต้องใช้กฎหมายที่ใหญ่กว่ามาดำเนินการ โดยในที่ประชุมใช้เวลาการประชุมกว่า 2 ชั่วโมง
พล.ร.ท.สำเริง จันทร์โส ผู้บัญชาการทหารเรือภาค 2 ในฐานะผู้อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 2 กล่าวว่า ในส่วนของความคืบหน้าการรื้อถอนขนำเฝ้าคอกหอยนั้น ได้รื้อถอนไปแล้วทั้งหมด 26 ขนำ ในพื้นที่ อ.เมือง 7 หลัง อ.พุนพิน 16 หลัง และ อ.กาญจนดิษฐ์ 3 หลัง และแจ้งความดำเนินคดี 92 คดี หรือประมาณร้อยละ 85 ในพื้นที่ 2 อำเภอ คือ อ.เมือง กับ อ.พุนพิน ส่วนขนำหรู 3 ชั้น หลังคาสีแดง ยังไม่มีความเคลื่อนไหว และทาง ศรชล.จะเดินหน้ารื้อถอนสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดที่ผิดกฎหมายในอ่าวบ้านดอน โดยจะต้องไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย แต่ในส่วนของเจ้าของขนำจะอุทธรณ์คำสั่งต่อทางจังหวัดนั้นเป็นสิทธิของเจ้าของขนำจะทำได้ แต่ขึ้นอยู่กับผู้ว่าราชการจังหวัดจะอนุญาตหรือไม่ แต่กฎหมาย ศรชล.เดินหน้ารื้อแน่นอน
ในส่วนของกรณีมีการร้องเรียนว่า ในพื้นที่ อ.กาญจดิษฐ์ มีกลุ่มเรือคราดหอยผิดกฎหมายออกข่มขู่ชาวบ้านที่ดูแลป่าเลชุมชนนั้น ยืนยันว่า จะดำเนินการขั้นเด็ดขาดทุกอำเภอ ถ้าหากยังมีการข่มขู่อีก ในส่วนที่มีการข่มขู่คุกคามในการทำงานของสื่อนั้น ตนขอฝากไปยังผู้ที่กระทำอยู่ ขอให้หยุดการกระทำนั้นเสีย
สำหรับการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ ศรชล.ส่วนกลาง พบว่า มีขนำเฝ้าคอกหอยอยู่ในเขตพื้นที่อำเภอเมือง จำนวน 101 หลัง มีการแจ้งความร้องทุกข์ไปแล้ว 92 หลัง ส่วนที่เหลือ 9 หลังอยู่ในเขตน้ำตื้นเรือจู่โจมเข้าพื้นที่ไม่ได้ เตรียมนำเรือขนาดเล็กจากฐานทัพเรือมาปฏิบัติภารกิจ แต่มีรายงานจาก ศรชล.จังหวัดแค่ 90 หลัง จึงเป็นข้อมูลที่ขัดแย้งกันอยู่ ส่วนพื้นที่ในเขตตำบลลีเล็ด อ.พุนพิน ทางเจ้าหน้าที่ได้สำรวจไปแล้ว 16 หลัง จะเข้าดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.พุนพิน ในช่วงบ่ายของวันนี้ ส่วนขนำที่อยู่นอกพื้นที่อนุญาตในเขตอำเภอกาญจนดิษฐ์มีจำนวน 250 หลัง และในพื้นที่อนุญาต 200 หลัง อำเภอท่าฉาง 200 หลัง อำเภอไชยา 200 หลังที่ถูกดำเนินการทางคดีต่อไปตามลำดับ
จากกรณีมีการชูประเด็น บางชนะโมเดล โดยให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมให้มีสิทธิตามมาตรา 43 ตามรัฐธรรมนูญปี 60 นั้น ทาง ศรชล.ไม่เห็นด้วยที่จะให้กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเข้ามายึดครองพื้นที่สาธารณะหรือพื้นที่ชุ่มน้ำอ่าวบ้านดอน เหมือนในอดีตที่ผ่านมา หากมีการนำเข้ามาใช้ทาง ศรชล.ภาค 2 จะต้องยื่นคัดค้านในเรื่องดังกล่าว
